?>
ชมรมอนุรักษ์พุทธศิลป์แห่งภาคอีสาน
The Buddhist Art Conservation Club Of Esan (North Eastern Part Of Thailand)
23 มิถุนายน 2567, 10:25:48 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  

กติกาในการ เช่า-แลกเปลี่ยนพระเครื่อง | พระเครื่องเมืองอุบลราชธานี | แจ้งปัญหาการใช้งาน
แจ้งเรื่องการยืนยันตัวตนสำหรับผู้ที่จะให้เช่าพระเครื่องฯ | วิธีสมัครสมาชิกเว็บ

  แสดงกระทู้
หน้า: 1 ... 5 6 [7] 8 9 ... 20
91  ชมรมสืบสานตำนานบูรพาจารย์สายสำเร็จลุน / หลวงปู่ญาถ่านโทน กันตสีโล / Re: หลวงปู่โทน เล่าว่า...จากหนังสือ โลกหน้ามีจริง เดือน กุมภาพันธ์ 2535 ... ตอนที่ 1 เมื่อ: 14 กันยายน 2555, 19:23:22
หนังสือประวัติหลวงปู่โทน มีอยู่เล่ม 1 ครับ พิมพ์ครั้งแรกปี 2530
92  ห้องพระ / พระคณาจารย์อริยสงฆ์รวมจังหวัดอุบลราชธานี,ศรีสะเกษ,ยโสธร,อำนาจเจริญและมุกดาหาร / Re: หลวงปู่จันทร์ คัมภีรปัญโญ เมื่อ: 09 กันยายน 2555, 16:58:49
หลวงปู่จันทร์ คัมภีรปัญโญ เกิดเมื่อ ปี พ.ศ. 2437 ที่บ้านจานเขื่อง ต. เขื่องใน อ. เขื่องใน จ.อุบลราชธานี เมื่ออายุย่างเข้า วัยแตกเนื้อหนุ่ม เป็นผู้ที่ชอบศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเวทย์มนต์คาถาจากอาจารย์ ต่างๆ สนใจเกี่ยวกับตำรับตำรายาแผนโบราณ ตลอดจนวิชาหมอดู และเป็นของธรรมดา เมื่อสนใจในทางไหน ก็มักจะเก่งในทางนั้น ย่างเข้าวัยเบญจเพศ จึงได้เดินทางจากบ้านเกิดเมืองนอน ไปตั้งหลักฐาน ทำมาหาเลี้ยงชีพอยู่ที่จังหวัดสระบุรี โดยเดินทางด้วยเท้าจากจังหวัดอุบลฯ จนถึงนครราชสีมา แล้วจึงขึ้นรถไฟจากโคราชไปเมืองสระบุรี ประกอบสัมมาอาชีวะอยู่สระบุรี มีหลักฐานครอบครัวเป็นปึกแผ่นโดยยึดอาชีพที่ถนัดคือ ดูหมอแผ่นผ้า รักษาผู้ป่วย ทำน้ำมนต์สเดาะเคราะห์ ใช้ชีวิตอยู่ในเพศฆาราวาสจนอายุได้ 58 ปี เกิดเบื่อความชุลมุนวุ่นวายของสังคม เพราะแต่ละคนที่ไปให้ดูหมอ ตรวจ ดวงชะตาให้ล้วนแล้วแต่มีวิถีชีวิตวุ่นวาย แก่งแย่งชีวิตชิงดีชิงเด่น ท่านจึงตัดสินใจออกบวชเป็นพระภิกษุจันทร์ที่วัดในจังหวัดสระบุรีนั่นเอง และพระอุปัชฌาย์ตั้งฉายาให้ว่า ? คัมภีรปัญโญ?
มีต่อ
93  ห้องเวทย์วิทยาคมและสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ / เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน) / Re: วิชาถือกระบอง เมื่อ: 08 กันยายน 2555, 14:18:32
  wan-e046
94  ห้องเวทย์วิทยาคมและสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ / เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน) / Re: พระอาจารย์โชติ วัดภูเขาแก้ว เล่าว่า... เมื่อ: 06 กันยายน 2555, 20:08:48
  wan-e046
95  ห้องเวทย์วิทยาคมและสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ / เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน) / พระอาจารย์โชติ วัดภูเขาแก้ว เล่าว่า... เมื่อ: 25 สิงหาคม 2555, 16:28:21
 wan-e046
96  ห้องเวทย์วิทยาคมและสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ / เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน) / Re: วิชาถือกระบอง เมื่อ: 16 สิงหาคม 2555, 09:00:03
 wan-e046
97  ห้องเวทย์วิทยาคมและสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ / เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน) / วิชาถือกระบอง เมื่อ: 17 สิงหาคม 2555, 03:16:57
 wan-e046
98  ห้องเวทย์วิทยาคมและสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ / เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน) / ว่านผีปอบ เมื่อ: 12 สิงหาคม 2555, 17:14:54
        
    wan-e046
99  ห้องเวทย์วิทยาคมและสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ / ฆราวาสผู้เรืองวิทยาคม / Re: อาจารย์หนู หนังแห้ง เมื่อ: 09 สิงหาคม 2555, 21:18:21
ท่านอาจารย์มีข้อมูล หรือประวัติให้ติดตามต่อมั้ยครับ wan-e016
[/quote
ข้อมูลไม่มีแล้วครับ ท่านที่เล่าไว้ ท่านลาโลกไปแล้วครับ ท่านเคยขึ้นครูขอเรียนวิชานี้กับอาจารย์หนู หนังแห้งครับ
100  ห้องเวทย์วิทยาคมและสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ / ฆราวาสผู้เรืองวิทยาคม / อาจารย์หนู หนังแห้ง เมื่อ: 08 สิงหาคม 2555, 23:24:58
      วิชาหมอส่อง  วิชานี้เป็นกรรมฐานส่องดูโลกของฆราวาสชื่ออาจารย์หนู  หนังแห้ง ชาวอีสาน อาจารย์หนูผู้นี้แปลกที่ไม่อาบน้ำ จะอาบครั้งเดียวในวันสงกรานต์เท่านั้น เรียกว่าอาบน้ำปีละครั้ง  แต่ไม่มี กลิ่นเหม็นสาบเลย ผิวหนังจะแห้งอยู่ตลอดเวลา มีวิชาแก่กล้าหาตัวจับยาก ล่องหนหายตัว  ขึ้นไปนอนเล่นบนก้านกล้วยโดย ก้านกล้วยไม่หัก ตัดแขนตัดขาตัวเอง โยนเล่นแล้วต่อได้ในพริบตา เลือดหยุดไหล อยากเห็นอดีต ปัจจุบัน อนาคตของใคร ก็เอานิ้วมือทำเป็นวงกลมแล้วส่องดู ก็จะรู้แจ้งหมด จัดเป็นส่วนของวิชา ? ทิพยจักษุญาณ ? อันมหัศจรรย์
      อาจารย์หนู หนังแห้ง ชอบเล่นพิศดารอยู่อีกอย่างคือ เสกหญ้าเสกฟางให้เป็นหมูน้อยหรือสุกร แล้วจูงเข้าตลาด ขายหมูตัวนั้นให้เจ๊กขายหมู เมื่อได้เงินแล้วก็จะเอามาซื้อเหล้ากินนั่งวางมาดอยู่ในตลาดนั้นแหละ  ต่อมาไม่นานเจ๊กขายหมูก็จะวิ่งหน้าตาตื่นมาเอะอะโวยวาย ต่อว่าอาจารย์หนู หนังแห้งเป็นการใหญ่ เพราะหมูที่รับซื้อไว้นั้น ได้กลายเป็นมัดหญ้า มัดฟางแห้งๆ  ไปเสียฉิบ อาจารย์หนูก็จะหัวร่อชอบใจ ยอมคืนเงินให้ไปหมด แต่เจ๊กต้องจ่ายค่าเหล้าขวดนั้นให้แก ซึ่งเจ๊กก็ยอมแถมยังขอมอบตัวเป็นลูกศิษย์อีกด้วย
     วิธีเสกมัดหญ้ามัดฟางให้เป็นหมูแล้วจูง ไปขายตลาดนี้อาจารย์หนู หนังแห้งชอบทำเสมอทั่วภาคอีสาน ไม่ใช่ต้องการเอาเงินมาซื้อเหล้ากินแต่อย่างใด ความจริงเป็นอุบาย โปรดศิษย์ เพื่อดัดสันดานให้พ่อค้าหมูตื่นตระหนกตกใจและอัศจรรย์ใจในฤทธิ์ปาฎิหาริย์ จะได้เลิกฆ่าหมูขาย แล้วหันมายอมเป็นลูกศิษย์ ประกอบอาชีพอื่นต่อไป อาชีพที่สุจริตไม่ต้องฆ่าสัตว์ตัดชีวิต อาจารย์หนู  หนังแห้งเล่าว่า ท่านเคยเกิดเป็นหมูให้เขาฆ่ามาแล้วถึง 30 ชาติ จึงได้มาเกิดเป็นคนในชาตินี้ มีความเมตตาสงสารหมูทั้งหลายยิ่งนัก อยากจะช่วยชีวิตหมูไว้ให้ถูกฆ่าน้อยที่สุดในชาตินี้
101  ห้องพระ / พระคณาจารย์อริยสงฆ์รวมจังหวัดอุบลราชธานี,ศรีสะเกษ,ยโสธร,อำนาจเจริญและมุกดาหาร / Re: เหรียญวัดสิงห์ท่า ยโสธร เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2555, 21:24:44
ผู้สร้างคือพระครูวินัยกรโกศล ( พระมหาคำ ญาณธโร )ศิษย์หลวงพ่อโฮม วัดสิงห์ท่า ยโสธร
102  ห้องพระ / พระคณาจารย์อริยสงฆ์รวมจังหวัดอุบลราชธานี,ศรีสะเกษ,ยโสธร,อำนาจเจริญและมุกดาหาร / เหรียญวัดสิงห์ท่า ยโสธร เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2555, 21:22:36
เหรียญพระพุทธวัดสิงห์ท่า สร้างปี 2515 ด้านหลังเป็นคาถามงกุฎพระพุทธเจ้าล้อมรอบ ตรงกลางเป็นยันต์ไตรสรณาคม
103  ห้องเวทย์วิทยาคมและสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ / เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน) / Re: สุดยอดทางคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดและเป็นมหาอุด เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2555, 20:39:09
เสกปูนป้ายคอเป็นวิชาอย่างหนึ่งอยู่ในสายของวิชาคงกระพัน คือการเอาปูนที่กินกับหมาก มาเสกแล้วป้ายที่ลูกกระเดือกจะทำให้ร่างกายอยู่ยงคงกระพัน ผู้ที่ทำได้ขลังๆนั้นถึงกับเอาเคียวเกี่ยวข้าวมาเกี่ยวคอเล่น หนักเข้าถึงกับเคียวหักเลยทีเดียวหากท่านผู้ใดที่ได้เคยเรียนวิชานี้มา แล้วอยากทดลองว่าวิชาที่เรียนมานั้นใช้ได้หรือยัง ท่านมีเคล็ดลับโดยให้เอาปูนที่เสกนั้น มาป้ายลิ้นดู หากรู้สึกว่าปูนยังกัดลิ้นอยู่ยังใช้การไม่ได้ ให้เสกใหม่เสกไปจนกว่า ปูนนั้นเมื่อนำมาป้ายลิ้นแล้ว จะรู้สึกจืดสนิท ไม่กัดลิ้นเลย นั่นแหละใช้การได้แล้ว ร่างกายจะอยู่ยงคงกระพันทีเดียว เสกปูนคาดคอด้วย อิติมัตติยา มัตติภะเว ของหลวงปู่ศุข หรือ อุนุยัง เสกแล้วป้ายคอถ้าทำด้วยใจเชื่อแล้วก็จิตนิ่งไม่เข้าแนนอน 
 เสกของกิน อาพัด เช่นหมาก เหล้า หรือที่เรียกว่า ข้าวเป็นต้นเช่น เสกหมากกินใช้การหัวใจ นิพพานจักกรีว่า อิ สะ วิ ระ มะ สา พุ เท วาเป็นต้น เสกเหล้าด้วยคาถา4เกลอว่า กะระมะถะ กิริมิถิ กุรุมุถุ เกเรเมเถนอกจากจะเหนียวแล้วถ้าเสกแค่3ประโยคแรกจะเมาช้า ถ้าเสก4 แถวแล้ววางไว้ให้คนอื่นในวงกินเป็นอันตีกัน ส่วนเสกข้าวใช้หัวใจปฏิสังขาโยว่า จิ ปิ เส คิ
  ว่ากันว่าเสือจำเรียง 5 นัด เคยใช้คาถาเสกปูนป้ายคอ
104  ห้องเวทย์วิทยาคมและสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ / เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน) / Re: สุดยอดทางคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดและเป็นมหาอุด เมื่อ: 08 กรกฎาคม 2555, 22:47:12
 พลตำรวจพุ่ม ทิมเจริญ
105  ห้องเวทย์วิทยาคมและสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ / เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน) / Re: สุดยอดทางคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดและเป็นมหาอุด เมื่อ: 08 กรกฎาคม 2555, 22:41:11
       จำเรียง ปางมณี" หรือ "เสือเรียง 5 นัด" แห่งบางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี น้อยคนจะไม่รู้จักเขาในฐานะที่เป็นจอมโจรขมังเวท ผู้ก่อคดีอย่างอุกอาจท้าทายกฎหมายบ้านเมือง โหดเหี้ยมไร้ความปรานีต่อเหยื่อ และรอดพ้นเงื้อมมือเจ้าหน้าที่บ้านเมืองไปได้ราวกับปาฏิหาริย์ จอมโจรขมังเวทแห่งเมืองนนท์  เสือ เรียงใช้ปืนบาเร็ตต้าเป็นอาวุธประจำกาย ก่อนปล้นเขาจะยิงปืนขึ้นฟ้า 5 นัด เป็นการเบิกฤกษ์ และก่อนพาพวกถอยหนีก็จะยิงขึ้นฟ้าอีก 5 นัด จนได้รับการขนานนามในเวลาต่อมาว่า "เสือเรียง 5 นัด" พฤติกรรม โหดเหี้ยมไร้ความปรานีแม้เหยื่อจะยอมจำนนเช่นนี้เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า หนังสือพิมพ์ทุกฉบับต่างตีพิมพ์ข่าวสร้างความหวาดผวาไปทั่วทุกหัวระแหงของ จ.ธนบุรี ร้อนถึง พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ อธิบดีกรมตำรวจ เรียกตำรวจ 4 สน. ตามล่านอกจากความโหด เหี้ยมไร้ความปรานีปราศรัยแล้ว เสือเรียงยังขึ้นชื่อในด้านยิงปืนแม่นด้วย ตำรวจหลายนายออกมายืนยันบนหน้าหนังสือพิมพ์ถึงความแม่นยำใน การยิงปืน ปาฏิหาริย์ และเวทมนตร์คาถาของเสือเรียง หนักสุดถึงกับว่าหายตัวไปต่อหน้าต่อตาก็มี กระสุนปืนทำอะไรไม่ได้เลย
        สุดท้าย สิ้นลายด้วยปืนเจ้า พลตำรวจพุ่ม ทิมเจริญ ใช้อาวุธประจำกายเป็นปืนเล็กยาวบรรจุเองแบบ 66 ซึ่งคนสมัยเก่ารู้ดีว่าเป็นปืนโบราณหรือที่เรียกกันติดปากว่าปืนเจ้า เคยผ่านการทำพิธีรดน้ำพระพุทธมนต์หลวง หลังจากสั่งซื้อมาจากต่างประเทศในรัชสมัยรัชกาลที่ 6 ทำให้เชื่อกันว่าปืนชนิดนี้มีพลานุภาพ สามารถยิงทำลายขุนโจรที่มีคาถาอาคมของลงอักขระของขลังได้ชะงัดนัก สภาพ ศพเสือเรียงกำปืนบาเร็ตต้าคู่กายเอาไว้แน่น กระสุนอีกจำนวนมาก ข้างเอวปรากฏปืนออโตเมติกโคลท์ 9 มม. กระสุนเต็มแมกกาซีน บนผมเหน็บหวีอยู่ 1 อัน บริเวณคอแขวนพระเครื่องกว่า 20 องค์เป็นพวงใหญ่

     เสือจำเรียง ปางมณี
หน้า: 1 ... 5 6 [7] 8 9 ... 20
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.19 | SMF © 2006-2009, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!