หัวข้อ: ญาท่านโทน วัดบ้านพลับ เริ่มหัวข้อโดย: aon-ubon ที่ 15 สิงหาคม 2554, 21:52:39 สมาชิกท่านใดพอทราบประวัติท่านบ้างครับ ประสบการณ์เป็นงัยบ้างครับ
หัวข้อ: Re: ญาท่านโทน วัดบ้านพลับ เริ่มหัวข้อโดย: พุทธาคม ที่ 16 สิงหาคม 2554, 07:32:24 ญาท่าน โทน วัดบ้านพับ "พระทองคำแห่งเมืองอุบล"
ศิษย์ ญาท่านกรรมฐาน แพง หลวงปู่ ญาครูอินทร์ วิชา ประคำสายดำ หลวงพ่อเคน ดงเศรษฐี ตาประขาวผมยาวในป่า ศิษย์สาย สำเร็จลุน นครจำปาสัก และ ท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) สหธรรมมิก ญาท่านสวน ญาท่าน สังข์ พอดีได้กลับบ้านไปเจอมาครับ ไม่รู้ว่าข้อมูลผมถูกหรือเปล่าครับต้องรอผู้รู้อีก หัวข้อ: Re: ญาท่านโทน วัดบ้านพลับ เริ่มหัวข้อโดย: พุทธาคม ที่ 16 สิงหาคม 2554, 07:51:03 ญาท่านโทน สือทอดพระเวทย์ชั้นครูจากปรมาจารย์ยุคเก่า ลุ่มน้ำโขงมาอย่างครบถ้วนหมดจด เพราะท่านขึ้นกรรมฐานเรียนวิชาสายใหญ่ จากท่าน
"ญาท่านกรรมฐาน แพง" ศิษย์มือขวา อาจารย์ใหญ่ สำเร็จลุน นครจำปาสัก จากนั้นไปเรียนวิชาจาก ญาท่าน อินทร์ เจ้าตำรับ ประคำสายดำ แต่ประวัติขอท่านทั้งหมดผมรู้ว่าใครมีแต่ยังไม่ได้ไปขอมาเลย ต้องกลับอุบลอีกทีครับ ผมมีแค่นี้ หัวข้อ: Re: ญาท่านโทน วัดบ้านพลับ เริ่มหัวข้อโดย: พุทธาคม ที่ 16 สิงหาคม 2554, 09:32:49 ถ่ายไม่ชัด
หัวข้อ: Re: ญาท่านโทน วัดบ้านพลับ เริ่มหัวข้อโดย: kaiwadpa ที่ 27 สิงหาคม 2554, 09:01:59 รูปถูกครับแต่ประวัติผิดองค์ครับ ที่ท่าน komservice ว่ามาน่าจะเป็น หลวงปู่โทน วัดบูรพา อำเภอตระการมากว่าครับ ส่วนหลวงปู่โทน วัดบ้านบูรพาบ้านพับ ตำบลก่อเอ้ อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบล นั้น เท่าที่ทราบท่านมืได้เกียวข้องกับสยสำเร็จลุนเลย ท่านเป็นศิษย์ของพระครูศรี บ้านคูขาด หลวงปู่โสวัดบ้านดงยาง หลวงปู่หนูวัดชีทวน ทางเขื่องครับ ท่านเก่งพอตัวทีเดียประสบการณ์ด้านบู๊ต้องยกให้ครับ ท่านมีสหธรรมลองวิชากันบ่อยๆคือหลวงปู่ชู จิตคุโณ วัดบ้านวังมน อ.ม่วงสามสิบครับ ท่านบอกสมัยก่อนลองวิชาบิดท้องกันประจำ ปัจจุบันหลวงปู่ชราภาพมากแล้วแต่ยังใจดีมีเมตตาต่อศิษย์ สมกับที่ได้ชื่อว่าพระทองคำจริงๆครับ
หัวข้อ: Re: ญาท่านโทน วัดบ้านพลับ เริ่มหัวข้อโดย: คนโก้ ที่ 08 กันยายน 2554, 07:08:29 ได้ข่าวว่าหลวงปู่ชู วัดบ้านวังมน อ.เขื่องใน ท่านมรณะภาพแล้วนะครับ เพิ่งรู้ว่าท่านเป็นพระที่มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย วัตถุมงคลของท่านเด่นด้านเมตตา 017
หัวข้อ: Re: ญาท่านโทน วัดบ้านพลับ เริ่มหัวข้อโดย: พุทธาคม ที่ 08 กันยายน 2554, 07:13:35 ขอบคุณครับ พี่kaiwadpa ชัดเจนมากครับทำไมเค้าทำมาผิดเนี้ย
หัวข้อ: Re: ญาท่านโทน วัดบ้านพลับ เริ่มหัวข้อโดย: เล็ก หัวตะเข้ ที่ 24 กันยายน 2554, 19:34:57 เหรียญญาท่านโทน วัดบ้านพับ
หัวข้อ: Re: ญาท่านโทน วัดบ้านพลับ เริ่มหัวข้อโดย: mano ที่ 25 ตุลาคม 2554, 16:16:45 ได้ข่าวว่าทางวัดออกเหรียญรุ่นเศรษฐี นั่งชันเข่าห้อยประคำพร้อมตะกรุดผ้าขาวม้าครับ และชูชก
เหรียญหลวงปู่สวยนะครับ แต่ยังไม่ได้บูชาเลยครับพี่น้อง ขอบพระคุณครับ หัวข้อ: Re: ญาท่านโทน วัดบ้านพลับ เริ่มหัวข้อโดย: เต้ อุบล ที่ 25 ตุลาคม 2554, 17:01:33 ถ้ามีโอกาสลองไปดูที่วัดท่านนะครับ เยอะแยะเลยแล้วก็ให้ท่านจารให้ด้วย วันนั้นผมก็ได้มาเหรียญพร้อมจาร พอดีลืมกดเงินไปเลยได้แค่นี้ครับ เด่ววันหลังลงภาพให้ชมครับ 015
หัวข้อ: Re: ญาท่านโทน วัดบ้านพลับ เริ่มหัวข้อโดย: MaiUbon ที่ 25 ตุลาคม 2554, 17:46:14 ลงมื้อนี้ละน้อง อ้ายอยากเห็นแล้ว 008
หัวข้อ: Re: ญาท่านโทน วัดบ้านพลับ เริ่มหัวข้อโดย: เต้ อุบล ที่ 25 ตุลาคม 2554, 17:49:58 ให้ถ่ายรูปก่อนเด้อครับ ดึกๆจังเบิ่ง 015
ภาพไม่ค่อยสวยนะครับ เพราะ ถ่ายตอนกลางคืน ใช่ไฟตั้งโต๊ะเลยต้องหลบมุมแสง 017 ปล.เหหรียญมีจารนะครับ แต่ถ่ายไม่สวยเลยไม่เห็น 017 หัวข้อ: Re: ญาท่านโทน วัดบ้านพลับ เริ่มหัวข้อโดย: เต้ อุบล ที่ 25 ตุลาคม 2554, 22:51:23 หัวข้อ: Re: ญาท่านโทน วัดบ้านพลับ เริ่มหัวข้อโดย: เต้ อุบล ที่ 13 พฤศจิกายน 2554, 20:23:49 หลวงปู่ญาท่านโทน ขันติโก วัดบ้านพลับ จ.อุบลราชธานี
"หลวงปู่ญาท่านโทน ขันติโก" พระเกจิชื่อดังแห่งวัดบ้านพลับ จ.อุบลราชธานี ลูกศิษย์ลูกหาต่างเรียกขานนามท่านว่า "พระทองคำแห่งเมืองดอกบัว" ด้วยวัตรปฏิบัติอันงดงามและเรียบง่าย อยู่แบบสันโดษ ปัจจุบัน หลวงปู่ญาท่านโทน สิริอายุ 86 ปี พรรษา 65 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านพลับ ต.ก่อเอ้ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี หลวงปู่ญาท่านโทน เกิดเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2467 ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 6 ที่บ้านพับ ต.ก่อเอ้ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายมาและนางคำ เผ่าพันธุ์ ใน วัยเด็กได้เรียนหนังสือที่โรงเรียนประชาบาล ประจำตำบล จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2487 ณ วัดบ้านก่อ ต.ก่อเอ้ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี โดยมี พระครูศรีสุตาภรณ์ วัดคูขาด เป็นพระอุปัชฌาย์, ญาท่านกรรมฐานแพง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และญาท่านทน วัดคูขาด เป็นพระอนุศาสนาจารย์ ได้รับฉายา "ขันติโก" หลวงปู่ญาท่านโทน ขันติโก วัดบ้านพลับ จ.อุบลราชธานี ท่าน ได้จำพรรษาศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดบ้านก่อ ในยุคนั้นชื่อเสียงของญาท่านกรรมฐานแพง พระกรรมวาจาจารย์ของท่านโด่งดังไปทั่วอีสานในฐานะพระเกจิผู้เรืองวิทยาคม จึงขอฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิทยาคม โดยญาท่านกรรมฐานแพง เมตตาถ่ายทอดวิทยาคมให้จนหมดสิ้น ซึ่งญาท่านกรรมฐานแพง เป็นอาจารย์ของญาท่านสวน วัดนาอุดมด้วย จากนั้นญาท่านโทน ได้ไปเรียนวิชาจาก "ญาท่านอินทร์" เจ้าตำรับประคำสายดำ ได้ศึกษาวิชาจากหลวงพ่อเคน เรวโต ด้วยวัตรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเสมอ ต้นเสมอปลาย และเป็นศิษย์ของญาท่านกรรมฐานแพง ทำให้ชื่อเสียงเริ่มเป็นที่รู้จักของพุทธศาสนิกชนในวงกว้าง ญาท่าน โทน มีอุปนิสัยเงียบๆ ไม่ค่อยพูด คราวที่ท่านพูด จะได้รับคำเรียกขานจากชาวบ้านว่า "วาจาสิทธิ์" เป็นดังปากท่านปรารภทุกคราวไป วัตรปฏิบัติของญาท่านโทน ช่วงหลังเทศกาลออกพรรษาทุกปี จะออกเดินธุดงควัตรไปตามป่าเขาลำเนาไพรหลายแห่งในภาคอีสาน โดยเฉพาะแถบเทือกเขาภูพาน สมัยนั้นป่าอุดมสมบูรณ์มาก บางครั้งเผชิญสัตว์ร้าย แต่ท่านหาหวั่นไหวไม่ เนื่องจากมีพลังจิตที่กล้าแข็งมาก ท่านได้แผ่เมตตาจิตให้สัตว์เหล่านั้น ไม่เข้ามาทำร้ายแต่อย่างใด ญาท่านโทน ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเถระรูปหนึ่งที่กราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ ในแต่ละวันจะมีญาติโยมจากทั่วสารทิศเดินทางมา กราบนมัสการหลวงปู่อย่างล้นหลาม สำหรับปัจจัยที่ได้จากการบริจาค ท่านได้นำไปพัฒนาสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับวัดแห่งนี้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นอุโบสถ กุฏิ ศาลาการเปรียญ ทำให้วัดบ้านพลับ แห่งนี้เจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังนำพระภิกษุ-สามเณร และญาติโยมร่วมกันปรับปรุงภายในบริเวณวัดให้มีความร่มรื่นสวยงามด้วยการปลูก ต้นไม้ สร้างความสงบวิเวกเหมาะสมในการปฏิบัติธรรมยิ่งนัก ญาท่าน โทนได้ถ่ายทอดหลักธรรมง่ายๆ แก่ชาวบ้านให้ยึดถือปฏิบัติ คือ การรักษาศีล 5 เนื่องจากปุถุชนคนธรรมดายังมีกิเลสอยู่ขอให้รักษาศีล 5 ให้ได้ก็พอชีวิตจะพบแต่ความเจริญรุ่งเรืองแน่นอน ด้วยนิสัยที่มี ความเมตตา พูดน้อย ถ่อมตนไม่หยิ่งด้วยเกียรติ ไม่ทะเยอทะยานในลาภยศสรรเสริญ เคร่งครัดในสิกขาวินัย ยินดีในสิ่งที่ได้ใช้ในสิ่งที่มี ยินดีและพอใจตามมีตามได้ ชอบการสงเคราะห์ช่วยเหลือ เกี่ยวกับการศึกษาทั้งทางโลกและทางธรรม จึงเป็นพระผู้ใหญ่ของ จังหวัดที่ได้รับการยกย่องจากพระสงฆ์ด้วยกัน และชาวพุทธทั้งหลาย ขอขอบคุณ http://www.xn--22cej4gzaby6cyaq5dzf9dj.com/2010/02/blog-post_8254.html |