ท่านธรรมบาล วัดบ้านยางขี้นก อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบล
?>
ชมรมอนุรักษ์พุทธศิลป์แห่งภาคอีสาน
The Buddhist Art Conservation Club Of Esan (North Eastern Part Of Thailand)
07 เมษายน 2568, 12:30:41
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ค้นหา
ปฏิทิน
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
กติกาในการ เช่า-แลกเปลี่ยนพระเครื่อง
|
พระเครื่องเมืองอุบลราชธานี
|
แจ้งปัญหาการใช้งาน
แจ้งเรื่องการยืนยันตัวตนสำหรับผู้ที่จะให้เช่าพระเครื่องฯ
|
วิธีสมัครสมาชิกเว็บ
ชมรมอนุรักษ์พุทธศิลป์แห่งภาคอีสาน
>
ห้องพระ
>
พระคณาจารย์อริยสงฆ์รวมจังหวัดอุบลราชธานี,ศรีสะเกษ,ยโสธร,อำนาจเจริญและมุกดาหาร
(ผู้ดูแล:
บ่หัวซาผีบ้าเดินดิน
,
คนโก้
,
vs12
,
ส่องสนามเมืองนักปราชญ์
) >
ท่านธรรมบาล วัดบ้านยางขี้นก อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบล
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: ท่านธรรมบาล วัดบ้านยางขี้นก อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบล (อ่าน 21793 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
konlathai
Full Member
พลังน้ำใจ :
57
ออฟไลน์
กระทู้: 77
Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com
Level 7 : Exp 9%
HP: 0%
ท่านธรรมบาล วัดบ้านยางขี้นก อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบล
«
เมื่อ:
31 ตุลาคม 2554, 14:37:49 »
ท่านใดพอทราบประวัติท่านธรรมบาล วัดบ้านยางขี้นก อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบล
ช่วยเล่าด้วย
ขอบคุณมากครับ
.
บันทึกการเข้า
บ่หัวซาผีบ้าเดินดิน
ยิ้มเย้ยยุทธจักร
Administrator
พลังน้ำใจ :
1197
ออฟไลน์
กระทู้: 1328
Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com
Level 29 : Exp 61%
HP: 0.1%
จงเป็นดั่งผีบ้าแล้วท่านจะปราศจากความทุกข์
Re: ท่านธรรมบาล วัดบ้านยางขี้นก อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบล
«
ตอบ #1 เมื่อ:
31 ตุลาคม 2554, 21:15:10 »
พระธรรมบาล (ทุย)
(ราว พ.ศ. ๒๓๗๔ ? ๒๔๖๘)
ชาติภูมิ
พระธรรมบาล (ทุย) นามเดิม ทุย เกิดวัน เดือน ปีใดไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนแต่คงเป็นราว พ.ศ. ๒๓๗๔ (เพราะเป็นสหธรรมิกรุ่นราวคราวเดียวกับพระธรรมบาล (สุ้ย) และพระธรรมบาล (ผุย) แห่งวัดมณีนาราม อาเภอเมืองอุบลราชธานี ที่บ้านยางขี้นก ตาบลยางขี้นก อาเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี บิดา มารดาชื่ออะไรก็ไม่ปรากฏหลักฐานเช่นกัน ทราบแต่เพียงว่าเป็นชาวนาบ้านยางขี้นก
การศึกษา บรรพชาและอุปสมบท
พระธรรมบาล (ทุย) คงได้รับการศึกษาเบื้องต้นจากวัดในหมู่บ้านโดยมีพระสงฆ์เถระเจ้าวัดหรือพระอาจารย์ที่มีความรู้ในอักษรสมัย เช่น อักษรขอม อักษรธรรมและอักษรไทยน้อย (ลาว) ตลอดจนคาถาอาคม ตาราสรรพเวทย์ต่าง ๆ เป็นผู้สอนจนมีความรู้พออ่านเขียนท่อง (สวด) ได้ จึงจะสามารถเรียนระดับสูงขึ้นไปได้ ท่านได้บรรพชาและอุปสมบทเมื่อใดและใครเป็นพระอุปัชฌาย์ก็ไม่ปรากฏหลักฐาน ทราบแต่เพียงว่าเมื่ออุปสมบทแล้วได้เข้ามาศึกษาเล่าเรียนมูลกัจจายน์ที่สานักวัดหลวง ในเมืองอุบลราชธานี ซึ่งเป็นสานักเดียวกันกับพระธรรมบาล (ผุย) ผลการเรียนมูลกัจจายน์อยู่ในชั้นเชี่ยวชาญมากจนสามารถออกไปตั้งสานักเรียนมูลกัจจายน์ที่วัดยางขี้นกอันเป็นบ้านเกิดโดยท่านเป็นผู้อานวยการสอนเอง นับเป็นสานักเรียนที่มีชื่อเสียง มีพระภิกษุสามเณรจากที่อื่นมาศึกษาเล่าเรียนจานวนมาก เทียบเท่ากับสานักเรียนในเมือง เช่นสานักวัดป่าน้อย (มณีวนาราม) สานักวัดหลวง เป็นต้น
หน้าที่การงาน
พระธรรมบาล (ทุย) ใช้อุบายในการสั่งสอนธรรมะแก่ญาติโยมศิษยานุศิษย์ด้วยการใช้สถานการณ์จริง โดยการปฏิบัติจริงจึงจะได้รู้ว่าผลที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร ดีหรือไม่ดีอย่างไรขอยกกรณีตัวอย่างที่ ดร.ปรีชา พิณทอง (ป.ธ.๙., อดีตพระศรีธรรมโศภน) ได้บันทึกไว้ตามคาบอกเล่าของบิดาของท่านซึ่งเป็นหนึ่งในศิษย์ของพระธรรมบาล (ทุย) ๓ เรื่องดังนี้
เรื่องที่ ๑ ?สอนให้รู้จักประมาณตน? โดยใช้กระบวยตักน้าเป็นสื่อในการสอนให้รู้จักประมาณ คือ ที่หน้ากุฏิของท่านจะมีโอ่งน้าขนาดใหญ่ใบหนึ่ง ให้ลูกศิษย์ตักน้ามาใส่ให้เต็มอยู่ทุกวัน เมื่อญาติโยมมาเยี่ยมหรือนิมนต์ไปในงานบุญกุศลต่าง ๆ ถ้ากระหายน้าก็จะให้ตักดื่มเอง มากน้อยตามความต้องการ กระบวยมี ๓ ขนาด คือ เล็ก กลาง ใหญ่ บางคนใช้กระบวยใหญ่ตักดื่มไม่หมดเททิ้งบางคนใช้กระบวยขนาดกลางตักดื่มไม่อิ่มต้องตักเพิ่ม บางคนใช้กระบวยเล็กต้องตัดเพิ่มหลายครั้ง ท่านจะสอนว่า ก่อนจะดื่มต้องสารวจดูตน
เสียก่อน ถ้ากระหายมากต้องใช้กระบวยใหญ่ กระหายปานกลางต้องใช้กระบวยขนาดกลาง พระหายนิดหน่อยต้องใช้กระบวยขนาดเล็ก คนเราทุกคนต้องให้รู้จักประมาณ กินก็ให้รู้จักประมาณ ใช้ก็รู้จักประมาณ ถ้าไม่รู้จักประมาณ ก็เข้าในลักษณะ ?กินช้างก็บ่เหลือ กินเสือก็บ่อิ่มได้มาเต็มฟ้าเต็มแผ่นดิน กะใช้หมดบ่เหลือดอก?
เรื่องที่ ๒ สอนให้เข้าใจอย่างละเอียดลึกซึ้งในวินัยสงฆ์โดยเฉพาะศีล ๒๒๗ ข้อของพระภิกษุสงฆ์ ในข้อที่ว่าด้วยการฉันอาหารใน ?เวลาวิกาล? มีข้อห้ามและข้อยกเว้นอย่างไร โดยใช้กรณีไปหาไม้เนื้อแข็ง (ไม้แก่น) มาทา ?เสาค้าหอแจก? เป็นตัวอย่างดังนี้
หอแจก คือศาลาการเปรียญในปัจจุบัน หอแจกวัดบ้านยางขี้นกสร้างมาเป็นเวลานาน เสาบางต้นผุ ถ้าจะหาเอาไม้แก่นมาเปลี่ยนต้องไปเอาที่อื่น ที่บ้านยางขี้นกไม่มีจะมีก็แต่ต้นยางซึ่งเป็นไม้เนื้ออ่อน ที่เมืองฟ้าหยาดมีไม้แก่นมาก และมีลูกศิษย์ของท่านพอจะช่วยหาให้ได้
เช้าวันหนึ่ง พระธรรมบาล (ทุย) ขอให้ญาติโยมจัดหาอาหารเพลให้จึงออกเดินทางพร้อมพระลูกวัด ๕ ? ๖ รูปลงเรือไปตามแม่น้าชี ขณะนั้นเป็นเวลาออกพรรษา เมืองฟ้าหยาดอยู่เหนือน้า น้ากาลังไหลเชี่ยว ระยะทางจากบ้านยางขี้นกไปถึงเมืองฟ้าหยาดไกลหลายกิโลเมตร ตั้งใจจะไปฉันเพลที่เมืองฟ้าหยาด แต่ยังไม่ถึงพอถึงบ้านแจนแลนก็เพลพอดี ถ้าจะหยุดฉันเพลที่นี้ก็ได้ แต่จะไม่สมศักดิ์ศรีของผู้รู้พระธรรมวินัยอย่างพระธรรมบาล (ทุย) ท่านจึงบอกให้พระเอามีดปักขั้นเรือไว้โดยถือว่าเป็นสถานที่พักฉันเพล ถ้าพระมานั่งฉันเพลที่นี่จะเป็นเวลาไหนก็ได้ไม่ต้องอาบัติเพราะฉันอาหารในเวลาวิกาล เมื่อเรือไปถึงท่าน้าเมืองฟ้าหยาดเป็นเวลาบ่าย ๓ โมงแล้ว
พระธรรมบาล (ทุย) ให้นาอาหารเพลมาวางไว้ที่ขั้นเรือแล้วนั่งฉันที่ขั้นเรือนั้น ชาวเมืองฟ้าหยาดทั้งผู้เฒ่าผู้แก่ ชายหนุ่มและหญิงสาว พากันลงอาบน้าที่ท่าน้าชี เมื่อเห็นพระนั่งฉันเพลโดยไม่กระดากอาย ต่างโจษจันกันว่าบ่าย ๓ โมงแล้วทาไมพระจึงฉันอาหารเวลาวิกาล เสียงที่โจษจันกันนั้นท่านก็ได้ยินแต่ท่านก็นั่งนิ่งไม่พูดจาอะไร
เมื่อฉันเสร็จแล้วให้พระเอาเรือไปผูกไว้ที่ท่าเมือง แล้วเดินทางต่อไปยังบ้านลูกศิษย์ให้ลูกศิษย์ไปหาไม้แก่นไปทาต้นเสาอย่างที่ต้องการ เมื่อลูกศิษย์จัดแจงหาต้นเสาให้ตามที่อาจารย์ต้องการแล้วบอกว่าจะกลับแต่เช้า ขอให้จังแจงอาหารจังหันและเพลให้ด้วย เมื่อท่านฉันจังหันเสร็จแล้วก็ลงเรือที่ท่าน้าแล้วพาคณะล่องเรือไปตามลาน้าชี เมื่อเรือถึงท่าญาติโยมบ้านยางขี้นกก็เอาล้อมาลากเอาต้นเสาไป จัดการเปลี่ยนต้นเสาที่ผุพังออกตามวัตถุประสงค์
เสียงเล่าลือของพระสงฆ์และญาติโยมชาวเมืองฟ้าหยาดเกี่ยวกับฉันข้าวแลง (ฉันในเวลาวิกาล) พระธรรมบาล (ทุย) ลุกลามไปเหมือนไฟไหม้ป่าจากปากหนึ่งไปสู่อีกปากหนึ่ง แต่ไม่มีใครรู้ว่าเป็นพระมาจากที่
ไหน เป็นอุปัชฌาย์อาจารย์ของใคร มีอานาจราชศักดิ์มากน้อยแค่ไหน เมื่อสืบไปถามไปก็ทราบว่านั้นคือพระธรรมบาล (ทุย) เจ้าสานักสอนมูลกัจจายน์ แห่งวัดบ้านยางขี้นก เมืองเขื่องใน ท่านเป็นนักปราชญ์เฉลียวฉลาดในพระธรรมวินัย มีคนเคารพนับถือมาก ท่านมีอานาจราชศักดิ์จักให้คุณให้โทษแก่ใครก็ได้ เมืองฟ้าหยาดก็เป็นเมืองหนึ่งซึ่งขึ้นความปกครองต่อเมืองอุบลฯ ถ้าเรามีความผิดพลาดเกิดขึ้นเป็นเรื่องลาบาก พวกเราควรจะไปขอขมาลาโทษต่อท่านในฐานะที่พวกเราเล่าลือกันว่าท่านฉันข้าวแลง (ฉันในเวลาวิกาล)
พระสงฆ์และญาติโยมชาวเมืองฟ้าหยาดมาปรึกษาหารือ เห็นว่าเรื่องที่เล่าลือนั้นเป็นบาป เป็นกรรมไม่ควรที่พวกเราจะไปติเตียนพระสงฆ์องค์เจ้า พระสงฆ์องค์เจ้าก็มีครูบาอาจารย์ ใครผิดใครถูกท่านจะแนะนา สั่งสอนกันเอง พวกเราควรไปขอขมาโทษเพื่อให้ท่านยกโทษให้ ภายหลังท่านคงได้อธิบายหลัก พระธรรมวินัยสงฆ์ให้ญาติโยมศิษยานุศิษย์เข้าใจ ?ข้อยกเว้น? ในสิกขาบทที่ว่าด้วยการฉันอาหารในเวลาวิกาลของพระสงฆ์ กล่าวคือ ในหมวดอาบัติปาจิตตีย์ วรรคที่ ๔ โภชนวรรคว่าด้วยเรื่องขบฉัน พระบรมศาสดา (พระพุทธองค์) ทรงบัญญัติสิกขาบทที่ ๗ แห่งโภชนวรรค ความว่า ?ภิกษุใด เคี้ยวก็ดี ฉันก็ดี ซึ่งของเคี้ยวของฉันในเวลาวิกาลเป็นปาจิตตีย์? เวลาวิกาล หมายถึง ตั้งแต่เที่ยงจนถึงรุ่งอรุณของวันใหม่ ถ้าภิกษุฉันอาหารในเวลาวิกาลต้องอาบัติปาจิตตีย์ ซึ่งเป็นอาบัติเบา (โทษขนาดเบา) จะพ้นได้ด้วยการ ?การปลงอาบัติ? คือการแสดงตนว่าต้องอาบัติให้ภิกษุอื่นทราบ แต่มีข้อยกเว้นในกรณีที่ไม่ถือว่าเป็นอาบัติ กรณีฉันในเวลาวิกาล ในข้อที่ ๑ ความว่า ?ภิกษุฉันยามกาลิก สัตตาหกาลิก ยาวชีวิก เมื่อมีเหตุอันสมควร? คาว่ายามกาลิก หมายถึง ของฉันได้เฉพาะวันนั้น เช่น ข้าว ปลา อาหารคาวหวาน ที่เขาถวายให้ฉันเฉพาะ ๑ วัน สัตตาหกาลิก หมายถึงของฉันได้ภายใน ๗ วัน ยาวชีวิก หมายถึงของฉันได้ตลอดชีวิต ดังนั้น กรณีพระธรรมบาล (ทุย) พร้อมคณะฉันอาหารเพลในเวลาวิกาลบนเรือ จึงควรเข้ากับกรณียกเว้นดังกล่าว เพราะมีเหตุอันสมควรในลักษณะเดินทางไกลไปทางเรือซึ่งจะมีความเกี่ยวโยงกับสิกขาบทอื่น ๆ ด้วย (พระไตรปิฎกสาหรับเยาวชน เล่ม ๒๕๓๙ : ๒๙, ๓๔)
เรื่องที่ ๓ สอนให้เป็น คนรอบคอบ มีระเบียบ รู้จักพอเพียง และไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น เมื่อญาติโยมชาวเมืองฟ้าหยาดได้มาขอขมาลาโทษ ได้ฟังคาอธิบายเรื่องวินัยสงฆ์พร้อมได้ทาบุญ โดยถวายปัจจัยไทยธรรมแล้ว ก่อนกลับบ้านเห็นว่าวัดยางขี้นกมีต้นขนุนอยู่หลายต้น จึงพร้อมกันขอต้นขนุนขนาดใหญ่ ๑ ต้น เพื่อนาแก่นไม้ไปถวายพระสงฆ์ที่วัดฟ้าหยาด สาหรับต้มเป็นสีย้อมผ้าจีวร (สีแก่นขนุน) เนื่องจากในสมัยนั้นสีย้อมผ้าหายาก พระสงฆ์ส่วนใหญ่นิยมใช้แก่นขนุนเป็นสีย้อมผ้า พระธรรมบาล (ทุย) บอกให้เลือกเอาตามใจชอบ อยากได้ต้นใดก็ให้ทั้งต้นแต่ผู้ขอไม่เข้าใจ เมื่อโค่นต้นขนุนลงแล้วก็ช่วยกันถากเอาเฉพาะส่วนที่เป็นแก่นไม้ โดยทั้งกิ่ง ใบ เปลือกไว้ทั้งหมดไม่เก็บให้เรียบร้อย ท่านเห็นดังนั้นจึงให้คนไป
ตามญาติโยมที่ขอต้นขนุนกลับมา แล้วถามในเชิงสั่งสอนว่าเมื่อขอไม้ทั้งต้นเมื่อให้ตามขอแล้วทาไมเอาไปไม่หมด จะเหลือไว้ให้ใครอีกหรือทุกคนเข้าใจจึงยอมสารภาพผิด และได้เก็บเศษไม้เหล่านั้นจนหมดสิ้น
จะเห็นว่า ความบกพร่องเล็กน้อยเหล่านี้คนส่วนมากจะไม่เอาใจใส่ ไม่ให้ความสาคัญ มักง่าย และเห็นแก่ตัว พระธรรมบาล (ทุย) เป็นผู้เคร่งครัดในระเบียบวินัย พูดอย่างไรก็ต้องทาอย่างนั้น เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของตนเอง หมู่คณะและสังคม จึงได้สั่งสอนเช่นนั้น
พระธรรมบาลพบกัน
พระธรรมบาล (ผุย) แห่งวัดป่าน้อย (วัดมณีวนาราม) ในฐานะเจ้าคณะเมืองอุบลราชธานี เมื่อได้ทราบข่าวความย่อหย่อนในพระวินัย เรื่องฉันอาหารในเวลาวิกาลของพระธรรมบาล (ทุย) แล้วก็เกิดความไม่สบายใจเพราะท่านเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งมีสมณศักดิ์ในขั้นธรรมบาลเช่นกัน และเป็นเจ้าสานักเรียนมูลกัจจายน์ที่มีชื่อเสียง มีลูกศิษย์มากมายหากไม่สืบหาข้อเท็จจริงก็อาจจะเกิดความเสื่อมเสียแก่คณะสงฆ์ในเขตรับผิดชอบได้ จึงได้มีหมายเรียกให้พระธรรมบาล (ทุย) มาพบ เมื่อทั้งสองท่านได้พบกันก็ได้ทักทายกันเป็นภาษาบาลี เพราะมีความเชี่ยวชาญพอ ๆ กัน เมื่อได้ทราบข้อเท็จจริงจากพระธรรมบาล (ทุย) แล้ว ทุกอย่างก็เป็นอันยุติเรื่อง เพราะเจ้าคณะเมืองอุบลราชธานีคงมีความเชื่อมั่นในวัตรปฏิบัติอันเคร่งครัดและจริงจังของพระธรรมบาล (ทุย) คงไม่ปฏิบัติผิดเพี้ยนจากพระธรรมวินัยอย่างแน่นอน
สมณศักดิ์
สมัยพระปทุมราชวงศา (กุทอง) เจ้าเมืองอุบลราชธานีคนที่ ๓ ในระหว่างปี พ.ศ. ๒๓๘๘ ? ๒๔๐๖ ได้แต่งตั้งพระเถระเป็นเจ้าคณะเมืองเจ้าคณะแขวงมีสมณศักดิ์เป็น พระธรรมบาล ๓ องค์คือ พระธรรมบาล (สุ้ย) พระธรรมบาล (ผุย) พระธรรมบาล (ทุย) พระสงฆ์ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นพระธรรมบาลจะต้องมีคุณสมบัติคือ ปกครองโดยธรรมเป็นผู้ใหญ่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย มีความฉลาด รอบรู้ สามารถ เด็ดขาด เรียนจบมูลกัจจายน์และตั้งสานักเรียนสอนมูลกัจจายน์ได้
พระธรรมบาล (ทุย) ถือว่าเป็นพระเถระผู้ใหญ่ที่มีคุณสมบัติครบทุกประการ จึงได้รับการแต่งตั้งเป็นพระธรรมบาล ถึงแม้จะไม่ได้เป็นเจ้าคณะเมือง แต่ท่านก็สามารถจัดตั้งสานักเรียนมูลกัจจายน์ขึ้นในระดับแขวง (อาเภอ) หรือระดับตาบลในเขตอาเภอเขื่องในจนมีชื่อเสียงโด่งดังไม่แพ้ในเขตเมืองอุบลราชธานี เพราะในเขตระดับเดียวกันไม่ปรากฏมีพระเถระที่ได้รับแต่งตั้งเป็นตาแหน่ง พระธรรมบาลเช่นท่านอีกเลย
พระธรรมบาล (ทุย) เอาภารธุระพระพุทธศาสนาโดยเฉพาะด้านคันถธุระเป็นเวลาเท่าไรและมรณภาพที่ไหนเมื่อไรก็ไม่มีหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรที่พอสืบค้นได้ มีเพียงบรรดาญาติมิตรศิษยานุศิษย์รุ่นต่อรุ่น กล่าวขานทรงจาสืบต่อกันมาเป็นทอด ๆ อาจจะไม่ตรงกับข้อเท็จจริงนัก ผู้สืบค้นรวบรวมต้อง
อภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย อย่างไรก็ตามพระธรรมบาล (ทุย) ก็ถือได้ว่าเป็นเถระชาวอุบลราชธานีรุ่นแรกที่เห็นความสาคัญของการศึกษา โดยเฉพาะด้านคันถธุระ โดยมีวัดเป็นศูนย์รวมการศึกษาของพระสงฆ์และประชาชนในยุคนั้น ให้ความเจริญก้าวหน้า เป็นมรดกตกทอดมาถึงลูกหลานจนถึงทุกวันนี้ ถือว่าท่านได้ทาคุณประโยชน์แก่ชาติบ้านเมืองไว้มากมาย สมควรได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็น ?ปราชญ์? เมืองอุบลราชธานีโดยแท้
หนังสืออ้างอิง
กิ่งธรรม. โดยเสด็จพระราชกุศลหนังสือ ในการออกเมรุพระราชทานเพลิงศพพระธรรมเสนานี (กิ่ง มหปฺผลเถร) ณ เมรุวัดมณีวนารามในเมืองอุบลราชธานี ๑๕ ธันวาคม ๒๕๓๘.
แสง จันทร์งาม, ศาสตราจารย์และคณะ. พระไตรปิฎกสาหรับเยาวชน เล่ม ๒. กรุงเทพฯ สานักพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช จากัด, ๒๕๓๙.
.
บันทึกการเข้า
ราคาพระคือการอุปทานหมู่ของมนุษย์ ศรัทธาต่างหากที่จะอยู่คู่กับเราตลอดไป
บ่หัวซาผีบ้าเดินดิน
ยิ้มเย้ยยุทธจักร
Administrator
พลังน้ำใจ :
1197
ออฟไลน์
กระทู้: 1328
Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com
Level 29 : Exp 61%
HP: 0.1%
จงเป็นดั่งผีบ้าแล้วท่านจะปราศจากความทุกข์
Re: ท่านธรรมบาล วัดบ้านยางขี้นก อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบล
«
ตอบ #2 เมื่อ:
31 ตุลาคม 2554, 21:38:53 »
พระธรรมบาลของเมืองอุบลนั้น ตามที่มีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรไว้นั้นมีด้วยกัน 3 ท่าน คือ
1 พระธรรมบาลสุ้ย วัดป่าน้อย
2 พระธรรมบาลผุย วัดป่าน้อย
3 พระธรรมบาลทุย ที่เรียกกันว่า พระธรรมบาล วัดบ้านยางขี้นก
ในส่วนพระธรรมบาลที่มีความเกี่ยวข้องกับหลวงปู่สำเร็จลุน นั้น ในความคิดเห็นของกระผมมีเพียงพระธรรมบาลท่านเดียว คือ ท่าน พระธรรมบาลผุย แห่งวัดป่าน้อย เพราะท่านคือสหธรรมมิกของหลวงปู่สำเร็จลุน ครับ ท่านทั้งสองมักจะไปมาหาสู่และแลกเปลี่ยนวิชาความรู้กัน มีลูกศิษย์ลูกหาของท่านธรรมบาลผุยมากมายที่ได้รับวิชาสายสำเร็จลุนจากท่านธรรมบาลผุยไปครับ หนึ่งในลูกศิษย์ของท่านพระธรรมบาลผุย ที่มีการกล่าวขานกันมากถึงความศักดิ์สิทธิ์และอิทธิปาฏิหาริย์ของท่านคือ พระธรรมโสดา หรือ หลวงปู่โสม แห่งวัดเหล่าแดง อ.ดอนมดแดง จ.อุบล น่าเสียดายที่วัตถุมงคลของท่านที่ได้สร้างไว้ในสมัยท่านมีชีวิตอยู่มีเพียงตะกรุดและเครื่องรางเท่านั้น
.
บันทึกการเข้า
ราคาพระคือการอุปทานหมู่ของมนุษย์ ศรัทธาต่างหากที่จะอยู่คู่กับเราตลอดไป
เต้ อุบล
พุทธศาสนิกชน ฅนรักษ์ธรรมะ
Administrator
พลังน้ำใจ :
634
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 982
Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com
Level 25 : Exp 44%
HP: 0%
อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี
Re: ท่านธรรมบาล วัดบ้านยางขี้นก อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบล
«
ตอบ #3 เมื่อ:
31 ตุลาคม 2554, 21:58:10 »
ได้รับความรู้อีกแล้วครับพี่น้อง
.
บันทึกการเข้า
คนโก้
Global Moderator
พลังน้ำใจ :
687
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 678
Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com
Level 21 : Exp 12%
HP: 0%
"ทางไปสวรรค์มันฮก ทางไปนรกมันแปน"
Re: ท่านธรรมบาล วัดบ้านยางขี้นก อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบล
«
ตอบ #4 เมื่อ:
01 พฤศจิกายน 2554, 07:12:45 »
ขอบคุณมากครับ
.
บันทึกการเข้า
"ขุนผู้หาญคองเมืองจั่งเฮืองฮุ่ง ขุนขี้ย่านคองบ้านบ่ฮุ่งเฮือง"
ck2425
Newbie
พลังน้ำใจ :
9
ออฟไลน์
กระทู้: 34
Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com
Level 4 : Exp 71%
HP: 0%
Re: ท่านธรรมบาล วัดบ้านยางขี้นก อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบล
«
ตอบ #5 เมื่อ:
01 พฤศจิกายน 2554, 09:35:54 »
.
บันทึกการเข้า
konlathai
Full Member
พลังน้ำใจ :
57
ออฟไลน์
กระทู้: 77
Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com
Level 7 : Exp 9%
HP: 0%
Re: ท่านธรรมบาล วัดบ้านยางขี้นก อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบล
«
ตอบ #6 เมื่อ:
01 พฤศจิกายน 2554, 14:08:06 »
ขอพระคุณมากครับ............
.
บันทึกการเข้า
บ่หัวซาผีบ้าเดินดิน
ยิ้มเย้ยยุทธจักร
Administrator
พลังน้ำใจ :
1197
ออฟไลน์
กระทู้: 1328
Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com
Level 29 : Exp 61%
HP: 0.1%
จงเป็นดั่งผีบ้าแล้วท่านจะปราศจากความทุกข์
Re: ท่านธรรมบาล วัดบ้านยางขี้นก อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบล
«
ตอบ #7 เมื่อ:
01 พฤศจิกายน 2554, 21:57:54 »
ขอย้ายกระทู้นี้ไปหมวดพระคณาจารย์จังหวัดอุบล นะครับ
.
บันทึกการเข้า
ราคาพระคือการอุปทานหมู่ของมนุษย์ ศรัทธาต่างหากที่จะอยู่คู่กับเราตลอดไป
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
หมวดทั่วไป
-----------------------------
=> ข่าวสารของทางชมรมฯและพูดคุยเรื่องทั่วไปสัพเพเหระ
===> วิธีสมัครสมาชิกและแจ้งปัญหาการใช้งาน
===> กฏกติกามารยาทชาวชมรมฯ
-----------------------------
ชมรมสืบสานตำนานบูรพาจารย์สายสำเร็จลุน
-----------------------------
=> ชมรมสืบสานตำนานบูรพาจารย์ศิษย์สายสำเร็จลุน
===> พุทธสถานวัดบูรพาจารย์สายสำเร็จลุน
===> หลวงปู่ใหญ่สำเร็จลุน
===> หลวงปู่ญาถ่านตู๋ ธัมมสาโร
===> หลวงปู่ญาถ่านกัมมัฏฐานแพง จันทสาโร
===> หลวงปู่ญาถ่านแสง อานันโท
===> หลวงปู่(สำเร็จ)เณรแก้ว
===> หลวงปู่ญาถ่านซาคำแดง
===> หลวงปู่ญาถ่านโทน กันตสีโล
===> หลวงปู่ญาถ่านทอง สุวัณโณ
===> หลวงปู่ญาถ่านฤทธิ์ โสภิโต
===> หลวงปู่ญาถ่านภูมาภิบาล
===> หลวงปู่ญาถ่านลี อุตตโร
===> หลวงปู่ญาถ่านสวน ฉันทโร
===> หลวงปู่ญาถ่านดี ภัทธิโย
===> หลวงปู่เพ็ชร ฐานธัมโม
===> หลวงปู่ญาถ่านคำบุ คุตฺตจิตฺโต
===> หลวงปู่ญาถ่านคล้าย อธิเตโช
===> หลวงปู่ญาถ่านอ่อง ฐิตธัมโม
===> หลวงปู่ญาถ่านทา นาควัณโณ
===> หลวงปู่ญาถานเกษม วัดเกษมสำราญ
===> หลวงปู่เครื่อง ธัมมจาโร
===> หลวงปู่เพ็ชร ปทีโป
===> หลวงปู่ด่อน อินทสาโร
===> หลวงปู่อ่วม สิริภทฺโท
===> หลวงปู่คำฝน สุทธิวัณโณ
-----------------------------
บูรพาจารย์สายหลวงปู่มั่น-หลวงปู่เสาร์
-----------------------------
=> บูรพาจารย์สายหลวงปู่มั่น-หลวงปู่เสาร์ ในจังหวัดอุบลราชธานี
-----------------------------
ห้องพระ
-----------------------------
=> พระคณาจารย์อริยสงฆ์รวมจังหวัดอุบลราชธานี,ศรีสะเกษ,ยโสธร,อำนาจเจริญและมุกดาหาร
===> พระครูวิโรจรัตโนบล (หลวงปู่รอด)
===> พระอุปัชฌาย์แดง หนองบัวฮี
===> หลวงปู่มั่น ทัตโต
===> พรครูศรีสุตาภรณ์
===> หลวงปู่เลิศ วัดหนองหลัก
===> พระครูชิโนวาทสาทร
===> หลวงปู่ชา สุภัทโท
===> หลวงปู่บุญมี โชติปาโล
===> หลวงปู่บุญชู วัดบ้านวังมน
===> หลวงพ่อใหญ่วัดพิชบ้านแก้ง
===> หลวงปู่มาย จันทสีโล
===> หลวงปู่มหาประดิษฐ์ อุตฺตโม
===> หลวงตาเคน ฉินฺนาลโย ที่พักสงฆ์ถ้ำแตก
===> พระครูวิบูลธรรมธาดา(หลวงพ่อกาว ธมฺมทินฺโน)
===> หลวงปู่ทา ธมฺมธโร วัดบ้านหมากมี่
=> พระคณาจารย์อริยสงฆ์ทั่วประเทศ
-----------------------------
ห้องเวทย์วิทยาคมและสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ
-----------------------------
=> ฆราวาสผู้เรืองวิทยาคม
=> เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)
-----------------------------
พระเครื่องและวัตถุมงคล
-----------------------------
=> ร้านพระเครื่อง VIP (ชมรมเพื่อนอนุรักษ์พระแท้)
===> นิธิปรัชญ์พระเครื่อง
===> แดนเมืองอุบล
===> อิศานปุระ
===> เเงซายพระเครื่อง
=> วิชาการ ถาม-ตอบ เกี่ยวกับพระเครื่องและวัตถุมงคล
=> ให้เช่า-รับเช่า-แลกเปลี่ยนพระเครื่องและวัตถุมงคล
===> ประมูลพระเครื่อง
=====> ประมูลพระเครื่องสายอีสาน
=====> ประมูลพระเครื่องเมืองสยาม(นอกเหนือภาคอีสาน)
=====> ประมูลเครื่องรางของขลัง
===> แนะนำพระใหม่
===> ให้เช่าวัถุมงคล เพื่อการกุศลเท่านั้น
-----------------------------
ประวัติศาสตร์ บุคคลสำคัญ วัฒนธรรม ประเพณี พุทธสถานและแหล่งท่องเที่ยวภาคอีสาน
-----------------------------
=> ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี ท้องถิ่น
=> วีรชน 2 ฝั่งโขง
=> พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์และพุทธสถานที่สำคัญภาคอีสาน
=> สถานที่ท่องเที่ยวภาคอีสาน
-----------------------------
มุมนักอ่าน ลานนักเขียน
-----------------------------
=> ปรัชญาพาที กวี ธรรมะ
=> เเนะนำหนังสือน่าอ่าน
=> ส่องสนามเมืองนักปราชญ์ โดย อ.แดน เมืองอุบล
กำลังโหลด...