พระครูอรรคธรรมวิจารณ์ พ่อท่านเลิศ วัดหนองหลัก อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี

[บ่หัวซาผีบ้าเดินดิน]

ท่านใดพอรู้ประวัติเรื่องราวของท่านช่วยโพสต์ลงด้วยครับ
สำนักวัดหนองหลัก อดีตตักศิลาแห่งตำนาน ภิกษุในดินแดนอีสานต่างดั้งด้นมาร่ำเรียนปริยัติธรรม ยิ่งไปกว่านั้นสำนักแห่งนี้ยังเป็นตำนานแห่งมหายันต์กันภัย ยันต์หมวกเหล็ก หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ยันต์มงกุฏพระพุทธเจ้า ประจักษ์พยานมากมายได้รับประสบการณ์โดยตรงจึงเป็นที่ลำลือกันมาก ว่ายันต์หมวกเหล็กสำนักวัดหนองหลักนั้นเข้มขลังสุดประมาณ มหายันต์นี้ถือว่าเป็นยันต์ที่สร้างชื่อให้เเก่สำนักวัดหนองหลัก และญาถ่านเลิศ เป็นอย่างมากครับ ศิษย์ที่ได้รับกาสักยันต์หมวกเหล็กลงกระหม่อมต่างก่อเกิดประสบการณ์มากมาย ญาถ่านเลิศ ผู้เป็นเลิศทั้งทางธรรมและทางอาคม

[PN3]

เหรียญรุ่นแรก  พระครูอรรคธรรมวิจารณ์ (พ่อท่านเลิศ)  วัดหนองหลัก  เนื้อทองแดง  พ.ศ.2505
                  

[PN3]

วันนี้เจอเหรียญแชมป์งานประกวดที่อุบลแล้ว ......(พระของท่านผอ.สุรศักดิ์ อ.พิบูลมังสาหาร)  

[บ่หัวซาผีบ้าเดินดิน]

ได้เหรียญแชมป์มาเมื่อไหร่ ช่วยลงโชว์ป็นบุญตาด้วยนะครับผม

[PN3]

เหรียญรุ่น 2 พระครูอรรคธรรมวิจารณ์(พ่อท่านเลิศ)  วัดหนองหลัก  เนื้อทองแดง  พ.ศ.2513 (เกือบสวย)

ข้อสังเกต : เหรียญรุ่น 2 ความคมชัดน้อยกว่าเหรียญรุ่นแรกครับ

[PN3]

เหรียญแชมป์งานประกวดพระเครื่องที่อุบลฯ ครั้งล่าสุด

(ขอขอบพระคุณท่านผอ.สุรศักดิ์ เจ้าของพระ ที่กรุณาเอื้อเฟื้อภาพครับ)

[PN3]

ประวัติการสร้างเหรียญพระครูอรรคธรรมวิจารณ์ (พ่อท่านเลิศ)  วัดหนองหลัก

        มีทั้งหมด  3  รุ่น  ดังนี้

1.เหรียญรุ่นแรก   เป็นเหรียญทองแดงรูปไข่  เนื่องในงานทำบุญอายุครบ 5 รอบ  พ.ศ.2505  จำนวน  2000 เหรียญ
2.เหรียญรุ่นสอง   เป็นเหรียญทองแดงรูปไข่เช่นเดียวกับรุ่นแรก  เนื่องในงานสร้างศาลาการเปรียญ พ.ศ.2513  จำนวน 5000 เหรียญ
3.เหรียญรุ่นสาม   เป็นเหรียญทองเหลืองชุบสีขาว เนื่องในงานสร้างอุโบสถวัดบ้านขมิ้น จำนวน 1000 เหรียญ โดยเอาเหรียญรุ่นสอง
                    เป็นแบบ  แตกต่างกันที่สีเป็นสีขาว

[PN3]

เหรียญพระครูอรรคธรรมวิจารณ์ รุ่นแรก อีกองค์ (พอสวย)  

[บ่หัวซาผีบ้าเดินดิน]

งดงามจริงๆครับอาจารย์ หาของเก่งมากครับ  

[gigko]

หายากครับผม ชมความงามเหรียญอาจารย์

[บ่หัวซาผีบ้าเดินดิน]

ประวัติพระครูอรรคธรรมวิจารณ์(พ่อท่านเลิศ) วัดหนองหลัก

[บ่หัวซาผีบ้าเดินดิน]

วัตถุมงคล

[เต้ อุบล]

คาถามงกุฏพระพุทธเจ้า

อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ อิเมนา พุทธะตังโสอิ อิโสตัง พุทธะปิติอิ

เป็นพ่อแม่แห่งคาถา  เป็นคาถาสำคัญอันผู้ศึกษาสรรพวิชาต้องเรียนรู้สำหรับครอบคาถาทั้งปวง
คาถามงกุฏพระพุทธเจ้า ใช้ภาวนาเสกล้างหน้าทุกวันตอนเช้า  จะเสริมสง่าราศี เสริมอำนาจบารมี  ป้องกันผองภัย  แคล้วคลาดศาสตราอาวุธ
ป้องกันภูติพราย ภยันตรายทั้งปวงทั้งหลายไม่มาแผ้วพาน  ใช้ได้สารพัดตามแต่จะอธิฐาน
สามารถใช้เป็นคาถาอัญเชิญพระธาตุได้อีกด้วย

ถ้าปรารถนาสิ่งใดให้ภาวนาคาถานี้ ๑๘ คาบ เป็นไปได้ดังใจนึก

ถ้าจะให้เป็นมหาจังงัง ให้ภาวนาคาถานี้ ๘ คาบ (เป็นมหาจังงังดีนักแล)

ถ้าจะให้เป็นมหาละลวยให้ภาวนา ๙ คาบ

ถ้าช้าง ม้า วัว ควาย สัตว์ที่ดุร้ายทั้งหลาย ให้เสกหญ้าเสกของให้มันกิน กลับใจอ่อน รักเราแล

ถ้าภูตพรายมันเข้าอยู่คน เสกข้าวให้มันกินออกแล

ถ้าปรารถนาให้เสียงเพราะ ให้เสกขี้ผึ้งปากเสกหมากกิน ไปเทศนาสวดร้องเป็นที่พอใจคนทั้งหลาย

ให้เสกแป้งผัดหน้า เสกมงกุฎรัดเกล้าเป็นสง่าราศรีใครเห็นใครรักทุกคน

ใช้อาราธนา พระบรมสารีริกธาตุ กับ พระปัจเจกพุทธธาตุ กับพระธาตุ และพระพุทธเจ้า


นะโม 3 จบ

อธิษฐานขอผลตามต้องการ
ลืมความต้องการนั้นเสีย มุ่งภาวนาคาถาให้จิตเป็นสมาธิตั้งมั่นให้ดีที่สุด
หยุดภาวนาโดยรักษาอารมณ์ใจให้อยู่ในสมาธิ แล้วอธิษฐานขอผลที่ต้องการอีกครั้ง

[เต้ อุบล]

เหรียญหลวงพ่อกวย รุ่นแรก จัดสร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๐๔ เนื้อเหรียญเป็นทองฝาบาตรรมทอง จำนวนการสร้างประมาณ ๕,๐๐๐ เหรียญ จัดสร้างเพียงครั้งเดียวเท่านั้นโดยวิธีการปั๊ม ลักษณะด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อนั่งเต็มองค์ ด้านบนมีข้อความว่า "หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม" ส่วนด้านหลังบรรจุพระมหายันต์ที่ศักดิ์สิทย์ยิ่ง คือ"ยันต์มงกุฏพระพุทธเจ้า" ผูกด้วยหัวใจพระคาถาพระไตรปิฏก หัวใจพระคาถาไตรรัตน์
และยันต์องค์พระอยู่โดยรอบ เหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียญที่มีทั้งรอยจารและไม่มีรอยจาร ซึ่งเหรียญที่มีรอยจารจะหายากกว่ามาก
เหรียญรุ่นแรกนี้สมัยนั้นหลวงพ่อให้ทำบุญเหรียญละ ๒๐ บาท ไม่มีวางจำหน่าย ต้องไปทำบุญกับท่านเองจึงจะได้

พระคาถาที่ใช้กำกับเหรียญรุ่นนี้

คือ  พระคาถามงกุฏพระพุทธเจ้า "อิติปิโสวิเสเสอิ อิเสเสพุทธะนาเมอิ อิเมนาพุทธะตังโสอิ อิโสตังพุทธะปิติอิ"
     พระคาถาไตรปิฎก "มะ อะ อุ"
     พระคาถาไตรรัตน์ "อิ สวา สุ"
     เลขยันต์และ ยันต์องค์พระ

หมายเหตุ... ต้องขอโทษพี่ ๆ ทุกท่าน เรื่องการเขียน อักขระทับกระดูกยันต์ด้วยครับ ซึ่งการเขียนอักขระเลขยันต์ต่าง ๆ นั้น
                  หากจะเขียนให้ถูกต้องตามหลักแล้วจะต้องไม่เขียนอักขระเลขยันต์ทับกระดูกยันต์
                  แต่เพื่อความสวยงามและเพื่อให้ง่ายต่อการศึกษา พี่ ๆ ก็คงไม่ว่ากันนะครับ

[เต้ อุบล]

พระคาถานี้ ท่านเรียกว่า พระคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า มีสรรพคุณคุ้มครองอันตรายจากอาวุธทั้งปวง ภาวนาทุกวันมิตกนรก
เสกน้ำล้างหน้าทุกวันกันโรคภัยไข้เจ็บคุณไสยทั้งมวล คาถานี้อานุภาพสูงส่งมาก มีอยู่ในตำราพิชัยสงครามใช้ได้สารพัด กำบังได้ แคล้วคลาดได้
ขับผีได้ แก้อาถรรณ์ต่าง ๆ ก็ได้ หลวงพ่อกวยท่านได้เคยย้ำกับศิษย์ใกล้ชิดเสมอว่า ถ้าคับขันให้ว่าคาถานี้ แม้จะทำการใดก็สำเร็จ
คาถานี้มี ๒ บท แต่บทที่นำมาลงไว้ที่เหรียญรุ่นแรกก็คือ พระคาถาบทแรก

                ถ้าจะให้มีตบะเดชะให้ภาวนาทุกวัน เกิดสง่าราศีเป็นที่เมตตาแก่คนทั้งหลาย ให้ภาวนาแล้วแผ่เมตตาให้คนทั้งปวง
ใครคิดร้ายก็ต้องมีอันเป็นไป
                ถ้าปรารถนาสิ่งใดให้ภาวนาคาถานี้ ๑๘ คาบ เป็นไปได้ ดังใจนึก
                ถ้าจะให้เป็นมหาจังงัง ให้ภาวนาคาถานี้ ๘ คาบ เป็นมหาจังงังแล
                ถ้าจะให้เป็นมหาละลวยให้ภาวนา ๙ คาบ
                ถ้าช้างม้าวัวควายสัตว์ที่ดุร้ายทั้งหลาย ให้เสกหญ้าเสกของให้มันกิน กลับใจอ่อนรักเราแล
                ถ้าภูตพรายมันเข้าอยู่คน เสกข้าวให้มันกินออกแล
                ถ้าปรารถนาจะให้เสียงเพราะ ให้เสกสีผึ้งสีปากเสกหมากกิน
                ถ้าไปเทศนาสวดร้องเป็นที่พอใจคนทั้งหลาย ให้เสกแป้งผัดหน้า เสกมงกุฎรัดเกล้า เป็นสง่าราศีใครเห็นใครรักทุกคน
                ถ้าไปณรงค์สงครามให้เอาใบลานหรือกระดาษว่าวมาลงคาถานี้ทำเป็นมงคลเสกด้วยตัวเอง สารพัดกันศาส ตราอาวุธทั้งหลายเป็นวิเศษนัก พระคาถาบทนี้ พระมหากษัตริย์ แต่เก่าก่อนทรงใช้ประจำทุกพระองค์แล


                 วิธีการบริกรรม ให้บริกรรมพระคาถานี้ เอาหัวแม่มือทั้งสอง ลากเส้นจากตรงศูนย์อุณาโลมหน้าผาก วนไปรอบศีรษะ
ไปบรรจบกันทางด้านหลัง แล้วลากกลับมาใหม่ บริกรรมพระคาถานี้ สักสามครั้งหรือเจ็ดครั้ง สร้างมโนภาพสมมตินึกเอาว่า
เป็นพระมหาพิชัยมงกุฎของพระพุทธเจ้า มาคุ้มครองอยู่ยนศีรษะ ป้องกันอันตรายทั้งมวล