maxna
|
|
« ตอบ #30 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2562, 09:02:57 » |
|
เสื้อ ใช้ใส่ในงานไหว้ครูปี 62
|
.
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
maxna
|
|
« ตอบ #31 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2562, 09:04:43 » |
|
เสื้อ ไหว้ครูปี 62
|
.
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
maxna
|
|
« ตอบ #32 เมื่อ: 05 มีนาคม 2562, 15:17:04 » |
|
ความภูมิใจ ของญาติธรรมเขมราฐ 1 ใน 10 พระคณาจารย์ ด้วย อธิบดีกรมศิลปากร สังกัด กรมศิลปากร สำนักงานส่วนกลาง กรุงเทพมหานคร จัดสร้างพระพิฆเนศในโอกาสครบรอบ 108 ปี แห่งการสถาปนากรมศิลปากร ทางกรมศิลปากรจึงได้ขอความอนุเคราะห์ พระอาจารย์สมศักดิ์ อุตตโม (ญาถ่านเบิ้ม) วัดวังม่วง อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ลงอักขระยันต์ในแผ่นโลหะทอง เพื่อนำไปเททองหล่อองค์พระพิฆเนศ ประดิษฐาน ณ กรมศิลปากร สำนักงานส่วนกลาง กรุงเทพมหานคร
|
.
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
maxna
|
|
« ตอบ #33 เมื่อ: 05 มีนาคม 2562, 15:20:53 » |
|
ประมวลภาพพิธีไหว้ครูธรรมใหญ่ บรมครูญาถานเบิ้ม สายธรรมอุตตโมบารมี วัดวังม่วง อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี ขอบคุณปู่ ยาย ตา ย่า พี่ น้อง ที่ให้ความร่วมมือร่วมใจดำเนินการจัดงานให้เสร็จลุล่วง สาธุครับ บรมครูใหญ่ หนุนการหนุนงาน สาธุครับ
|
2.jpg (908.17 KB, 1773x2364 - ดู 1291 ครั้ง.)
4.jpg (951.66 KB, 1773x2364 - ดู 1266 ครั้ง.)
5.jpg (64.8 KB, 480x640 - ดู 1318 ครั้ง.)
120657.jpg (238.76 KB, 1477x1108 - ดู 1303 ครั้ง.)
120675.jpg (263.78 KB, 1477x1108 - ดู 1333 ครั้ง.)
120693.jpg (270.62 KB, 1477x1108 - ดู 1331 ครั้ง.)
51822118_379304676135926_708313675605213184_n.jpg (426.97 KB, 2040x1530 - ดู 1351 ครั้ง.)
51759675_2305034866450013_194742991250784256_n.jpg (202.75 KB, 1296x1728 - ดู 1319 ครั้ง.)
1.jpg (383.82 KB, 1296x1728 - ดู 1253 ครั้ง.)
0.jpg (1264.61 KB, 3264x2448 - ดู 1357 ครั้ง.)
51737803_2242215136024934_2957602187552751616_n.jpg (343.97 KB, 1728x1296 - ดู 1270 ครั้ง.)
52347536_298863050820197_8200744051708788736_n.jpg (345.69 KB, 1728x1296 - ดู 1286 ครั้ง.)
.
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 พฤศจิกายน 2563, 13:53:05 โดย maxna »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
maxna
|
|
« ตอบ #34 เมื่อ: 05 มีนาคม 2562, 15:29:28 » |
|
พระกริ่งกฐิน รุ่นแรก ปี62 ญาถานเบิ้ม วัดวังม่วง อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี วัตถุประสงค์การจัดสร้าง เพื่อมอบเป็นกำลังใจให้กับประธานผู้จัดหากองกฐิน ปี 62 จำนวนจัดสร้าง มี 2 ลักษณะ ทุกองค์ ตอกโค๊ดใต้ฐาน ตอกโค๊ดเลข ๙ 1.พระกริ่งกฐิน ลักษณะที่หนึ่ง ตอกโค๊ด ตอง ๙๙๙ ด้านหลังฐาน มีจำนวนการจัดสร้าง 9 องค์ 2.พระกริ่งกฐิน ลักษณะที่สอง ตอกโค๊ด ตอง ๙ ด้านหลังฐาน มีจำนวนการจัดสร้าง 39 องค์
|
.
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
maxna
|
|
« ตอบ #35 เมื่อ: 23 มีนาคม 2562, 22:02:01 » |
|
การสืบสายธรรมของ (ญาถ่านเบิ้ม)มาจากไหนบ้าง..จึงได้จัดทำเนียบการสืบทอด...จนมาเป็นสายธรรมอุตตโมบารมี...สาธุครับบรมครูชี้นำ การก่อตั้ง สายธรรมอุตฺตโมบารมี
ประวัติความเป็นมาพิธีกรรมไหว้ครูธรรมใหญ่ สายธรรมอุตฺตโมบารมี เดิม ศิษย์รุ่นแรกจะ เรียกว่า สายอุตฺตมะอุตฺตโม ความเป็นมาพิธีกรรมไหว้ครูธรรมใหญ่สายอุตฺตมะอุตฺตโม ในทุกปีจะมีการทำพิธีกรรมไหว้ผีไท้หรือผีเชื่อสาย พร้อมกับพิธีไหว้ครูธรรมใหญ่ที่ต้องจัดขึ้นทุกปี หลวงปู่เล่าว่า หลวงปู่สำเร็จต้นบอกกับท่านว่า พิธีกรรมไหว้ครูธรรมใหญ่เท่าที่ท่านจำได้ว่า น่าจะเริ่มมีการจัดในสมัยที่ญาท่านอุตตะมะปฐมาจารย์ใหญ่ผู้เป็นอาจารย์ของสำเร็จลุน เจ้าอาวาส วัดสิงหาญ ต.สะพือ อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี พ.ศ.2345-2395 ก่อนท่านมรณะ 10 ปี ก็จะอยู่ในช่วงปี พ.ศ.2405 และเป็นช่วงของญาท่าน(สำเร็จ)สีดา เจ้าอาวาส พ.ศ.2395-2450 เพราะหลวงปู่สำเร็จต้นจำได้ว่าตรงกับวันสำคัญ คือ วันพระราชสมภพ เจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ 9 แห่งราชวงศ์ทิพย์จักราธิวงศ์ (เจ้าเจ็ดตน) ซึ่งเป็นองค์สุดท้ายแห่งนครเชียงใหม่ พ.ศ.2405 จะอยู่ในช่วงนี้ ดังนั้นการหาวันพิธีกรรมไหว้ครูธรรมใหญ่ปีนั้นจึงมีความง่ายมาก เพราะครูบาอาจารย์ได้ให้ลูกศิษย์ใช้ วันที่ขึ้น 3 ค่ำ เดือนสาม ของทุกปีจัดพิธีกรรมไหว้ครูธรรมใหญ่ จึงสามารถสรุปวันพิธีกรรมไหว้ครูธรรมใหญ่ ทั้งแรกคือ วัน อาทิตย์ ที่ 2 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2405 ขึ้น ๓ ค่ำเดือนสาม(๓) ปีระกา นับจากนั้นมาจึงเริ่มมีการทำพิธีไหว้ครูธรรมใหญ่อย่างเป็นทางการ ปัจจุบันปี 2563 มีอายุการประกอบพิธีกรรมมาแล้ว 158 ครั้ง
หลังจากนั้นเริ่มมีศิษย์เข้ามาขอเล่าเรียนพระเวทย์อาคม มีทั้งพระและฆราวาส โดยเรียกกันในกลุ่มว่า สายธรรมอุตฺตะอุตฺตโม บ้างท่านก็เลือกเรียนเฉพาะอย่าง เช่น บ้างท่านเลือกธรรมพุทโธ บ้างท่านเลือก ธรรมบรรลุ บ้างท่านเลือกธรรมอะระหัง เป็นต้น แต่ในกลุ่มจะรู้กันดีว่าออกจากสายธรรมอุตฺตะอุตฺตโม หลวงปู่สว่าง โพธิญาโณ ท่านเล่าว่า ตัวท่านเองได้มาเล่าเรียนในสายธรรมอุตฺตะอุตฺตโมสมัยที่ท่านนั้นยังไม่ข้ามมาฝังไทย ยังธุดงปฏิบัติกรรมฐานตามป่าเขาในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จึงมีโอกาสได้เข้าไปฝากตัวเป็นศิษย์เล่าเรียนอาคมกับหลวงปู่สำเร็จลุน หลวงปู่สำเร็จลุนท่านจึงได้ส่งต่อให้กับสำเร็จตันที่ประสิทธิ์วิชาท่านเป็นเคยอุปถากหลวงปู่สำเร็จลุนเป็นผู้ชี้แนะสั่งสอน จนได้เจอกับศิษย์ผู้น้อง คือ หลวงปู่จันทร์หอม สุภาทโร หลังจากนั้นก็ตามพากันกราบลาปรมาจารย์แยกออกเดินทางเพื่อปฏิบัติตามป่าเขา ต่อมาหลวงปู่สว่าง โพธิญาโณ ท่านได้รับการแจ้งข่าวเรื่องการมรณภาพของหลวงปู่สำเร็จลุน ตรงกับ พ.ศ. ๒๔๖๓ ที่วัดเวินไซ เมืองโพนทอง แขวงนครจำปาศักดิ์ ประเทศลาว (สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวปัจจุบัน) รวมอายุ ๘๔ ปี พรรษา ๖๔ หลวงปู่สว่าง โพธิญาโณ ท่านได้ไปร่วมงานพิธี ช่วยสำเร็จตันและเจ้าบุญอุ้ม ณ จำปาศักดิ์จนเสร็จเรียบร้อย จึงได้กราบลาสำเร็จตันเพื่อเดินทางกับยังวัด สำเร็จตันจึงได้มอบพระเกษา พระอิฐิ บ้างส่วนให้หลวงปู่สว่าง โพธิญาโณ ติดตัว หลังจากนั้นไม่นานเกิดปัญหาภายในประเทศหลวงปู่สว่าง โพธิญาโณ จึงข้ามมาฝังไทยแล้วจำพรรษาที่วัดบ้านนาหว้านาสนาม อ.เขมราฐ จ.อุบล หลวงปู่สว่าง โพธิญาโณ ท่านมาอาศัยอยู่ที่วัดบ้านนาหว้านาสนาม ก็ได้มีเหล่าศิษย์ที่หลวงปู่เคยชี้แนะสั่งสอนพระเวทย์อาคมให้รู้ว่าท่านอยู่ที่วัดบ้านนาหว้านาสนาม จึงเดินทางมากราบท่านทุกปี ในแต่ละปีจะเป็นภาพที่มีผู้คนเดินทางมีทำพิธีไหว้ผีทัย ผีเชื่อ ทั้งจาก สปป.ลาว และจากไทย เริ่มให้ใช้ชื่อ สายธรรมอุตฺตโมบารมี หลวงปู่สว่าง โพธิญาโณ ท่านมอบว่า ในอนาคตจะมีฆราวาสเข้ามาเล่าเรียนในสายหลวงปู่สำเร็จลุนมากมาย ท่านจึงให้ตัดคำว่า อุตฺตมะ ออกให้เหลือแต่คำว่า อุตฺตโม แปลว่า สูงสุด, ดีที่สุด, ยอดเยี่ยม, เลิศ เป็นผู้ใฝ่รู้ใฝ่เรียน เป็นผู้มีความเพียรในคำสอน เป็นผู้ยึดคำสอนครูเป็นหลัก ศิษย์ฆราวาสรุ่นต่อมาจึงใช้ชื่อ สายธรรมอุตฺตโมบารมี สืบทอดต่อมา จากต้นกำเนิดมาจนถึงปัจจุบันการสืบทอดสายธรรมนี้ก็มีอายุนับร้อยขึ้น สืบทอดกันเป็นรุ่น ก่อนที่หลวงปู่สว่าง โพธิญาโณ จะล้มป่วย ท่านได้มอบพระเกษา พระอิฐิให้กับปู่รินทอง หัวหน้าโรงเลื่อยบ้านนาสนาม ปู่รินทองคือบิดาของญาถานเบิ้ม อุตฺตโม ผู้สืบทอด รุ่นที่ 3 ต่อมาพระเกษา พระอิฐิปรมาจารย์ หลวงปู่สำเร็จลุน วัดเวินไซ เมืองโพนทอง แขวงนครจำปาสัก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวที่ได้รับการส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นจนมาถึงสายธรรมอุตฺตโมบารมี โดยมีหลักฐานพยานบุคคล ไม่ว่าจะเป็นเชื่อสายตรง ชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัดเวินไซ หรือศิษย์ที่ข้ามมาไทยท่านได้นำข้ามมายังประเทศไทย บ้างท่านได้แต่ผงพระอัฐิ บ้างท่านได้ เขี้ยวท่านหรือฟัน บ้างท่านได้ พระเกษาและยิ่งมีเกิดความบังเอิญ ท่านที่ได้ครอบครอง ได้แบ่งให้บรมครูสายธรรมอุตฺตโมบารมี วัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นเสาหลักให้ศิษย์ ได้กราบบูชาเป็นตัวแทนของปรมาจารย์ใหญ่หลวงปู่สำเร็จลุน และให้ สืบทอดต่อไป
|
tar
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 กันยายน 2564, 21:31:24 โดย maxna »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
maxna
|
|
« ตอบ #36 เมื่อ: 19 เมษายน 2562, 14:56:04 » |
|
ไหว้ครูธรรมใหญ่สายธรรมอุตตโมบารมี ปี 2563 ครั้งที่ 158
ประวัติความเป็นมาไหว้ครูธรรมใหญ่สายธรรมอุตตโมบารมีครั้งแรก ประวัติจากคำบอกเล่าจากปากท่าน และชาวบ้าน
หลวงปู่สว่าง โพธิญาโณ วัดสนามชัย บ.นาหว้าน้อย อ.เขมราฐ จ.อุบลฯ เกิดปี 2472 ศิษย์ผู้เป็นพี่ของหลวงปู่จันทร์หอม สุภาทโร เจ้าอาวาสวัดบุ่งขี้เหล็ก อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี ...หลวงปู่สว่างได้เล่าให้ลูกหลานฟังว่า สมัยนั้นท่านยังไม่ข้ามมาฝังไทย ยังธุดงปฏิบัติกรรมฐานตามป่าเขาในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เล่าเรียนอาคมสายปู่สมเด็จลุน จึงมีโอกาสได้เจอกับศิษย์ผู้น้อง คือ หลวงปู่จันทร์หอม สุภาทโร ต่อมาท่านปรมาจารย์ใหญ่ท่านอาจารย์สมเด็จตันที่ประสิทธิ์วิชา ท่านเป็นเคยอุปถากหลวงปู่สมเด็จลุน จึงได้แบ่งเกษา อิฐิ บ้างส่วนให้หลวงปู่สว่างติดตัว ต่อมาหลวงปู่ท่านได้เดินทางข้ามมาฝั่งประเทศไทยในปี พ.ศ.2513 มาอยู่ที่วัดสนามชัย หลังจากนั้นไม่นานเกิดปัญหาภายในประเทศลาวเมื่อ พ.ศ.2518 พี่น้องทางประเทศลาวจึงข้ามมาฝังไทยเป็นจำนวนมาก
ประวัติความเป็นมาพิธีกรรมไหว้ครูธรรมใหญ่ สายธรรมอุตฺตโมบารมี เดิม ศิษย์รุ่นแรกจะ เรียกว่า สายอุตฺตมะอุตฺตโม ความเป็นมาพิธีกรรมไหว้ครูธรรมใหญ่สายอุตฺตมะอุตฺตโม ในทุกปีจะมีการทำพิธีกรรมไหว้ผีไท้หรือผีเชื่อสาย พร้อมกับพิธีไหว้ครูธรรมใหญ่ที่ต้องจัดขึ้นทุกปี หลวงปู่เล่าว่า หลวงปู่สำเร็จต้นบอกกับท่านว่า พิธีกรรมไหว้ครูธรรมใหญ่เท่าที่ท่านจำได้ว่า น่าจะเริ่มมีการจัดในสมัยที่ญาท่านอุตตะมะปฐมาจารย์ใหญ่ผู้เป็นอาจารย์ของสำเร็จลุน เจ้าอาวาส วัดสิงหาญ ต.สะพือ อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี พ.ศ.2345-2395 ก่อนท่านมรณะ 10 ปี ก็จะอยู่ในช่วงปี พ.ศ.2405 และเป็นช่วงของญาท่าน(สำเร็จ)สีดา เจ้าอาวาส พ.ศ.2395-2450 เพราะหลวงปู่สำเร็จต้นจำได้ว่าตรงกับวันสำคัญ คือ วันพระราชสมภพ เจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ 9 แห่งราชวงศ์ทิพย์จักราธิวงศ์ (เจ้าเจ็ดตน) ซึ่งเป็นองค์สุดท้ายแห่งนครเชียงใหม่ พ.ศ.2405 จะอยู่ในช่วงนี้ ดังนั้นการหาวันพิธีกรรมไหว้ครูธรรมใหญ่ปีนั้นจึงมีความง่ายมาก เพราะครูบาอาจารย์ได้ให้ลูกศิษย์ใช้ วันที่ขึ้น 3 ค่ำ เดือนสาม ของทุกปีจัดพิธีกรรมไหว้ครูธรรมใหญ่ จึงสามารถสรุปวันพิธีกรรมไหว้ครูธรรมใหญ่ ทั้งแรกคือ วัน อาทิตย์ ที่ 2 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2405 ขึ้น ๓ ค่ำเดือนสาม(๓) ปีระกา นับจากนั้นมาจึงเริ่มมีการทำพิธีไหว้ครูธรรมใหญ่อย่างเป็นทางการ ปัจจุบันปี 2563 มีอายุการประกอบพิธีกรรมมาแล้ว 158 ครั้ง
|
.
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 กันยายน 2564, 21:31:58 โดย maxna »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
maxna
|
|
« ตอบ #37 เมื่อ: 27 เมษายน 2562, 17:24:34 » |
|
ประวัติ เศียรพ่อปู่ฤาษีนารอด-เศียรพ่อปู่ฤาษีตาไฟ สร้างเมื่อปี 2549-2550 มี 3 รุ่น ของญาถานเบิ้ม อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี 1.ขี้เหล็กไหลจากถ้ำสกลนคร.ที่แตกตัวออกเป็นเม็ดโดยธรรมชาติ ตามจำนวนเศียร 2.วานไพรดำพ่อฤทธิ์และข้าวดำให้หลวงพี่สมัยพ่อสัมฤทธิ์มาช่วยงานวัดพระธาตุพนม 3.แร่ไพธิ์เงินจากอีนเดีย.ที่มีลักษณะเหมือนเกล็ดเงิน. 4.ผงมวลสารของหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ 5.กาฝากไม้มงคล 9 อย่าง 1.กาฝากรักซ้อน 2.กาฝากมะรุม 3.กาฝากมะยม 4.กาฝากมะขาม 5.กาฝากกาหลง 6.กาฝากขนุน 7.กาฝากยอ 8.กาฝากพยุง 9.กาฝากคูณ 6.ผงแก่มขามฟ้าผ่า 7.ผงแก้นงิ้วดำ ตัวผู้ ตัวเมียจากเขมร 8.หน้าผากเสือ.ที่นอนตายโดยธรรมชาติ 9.ผงเงินเมืองผีบังบด 10.ผงช่องระอา 11.งาช้างจากเขมร 12.ผงกระดูกช้างจากบุรีรัมม์ 13.วานสายเสน่ห์ 14.วานสายเหนียว 15.จีวรหลวงปู่คูณ 16.เกษาหลวงปู่สรวง 17.เกษาหลวงปู่วัดพิช 18.เกษาญาถ่านเบิ้ม 19.เม็ดต้นมณีโคตร.จากฝั่งลาว 20.หอยพันปีจากบ้านสามแยกเมืองใหม่ 21.ผงพระสมเด็จแท้จากวัดระฆัง 22.ประหลอด 23.ผงกาลาตาเดียว 24.ผงวาน108 25.ผงพระลักษณ์ของหลวงกาหลง 26.คำหมากฤาษีที่ยุในหิน ญาถ่านท่านนั่งเห็นแล้วให้ลูกศิษย์ไปทุบเอา
|
.
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
maxna
|
|
« ตอบ #38 เมื่อ: 27 เมษายน 2562, 17:29:15 » |
|
นานๆจะเห็นมา เศียรพ่อปู่ฤาษีนารอด-เศียรพ่อปู่ฤาษีตาไฟ สร้างเมื่อปี 2549-2550 ญาถานเบิ้ม อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี
|
57368696_1902808659825118_7808251673704398848_n.jpg (91.16 KB, 720x960 - ดู 1213 ครั้ง.)
57459341_2118296694954761_8632644223532793856_n.jpg (96.71 KB, 720x960 - ดู 1220 ครั้ง.)
57503088_1902809236491727_4932591075542958080_n.jpg (106.74 KB, 720x960 - ดู 1260 ครั้ง.)
57504018_290801108507025_8860327281776656384_n.jpg (45.71 KB, 485x960 - ดู 1209 ครั้ง.)
57484792_290801135173689_5347214981936971776_n.jpg (56.68 KB, 485x960 - ดู 1233 ครั้ง.)
158140.jpg (195.19 KB, 646x919 - ดู 1232 ครั้ง.)
158141.jpg (175.15 KB, 776x1101 - ดู 1178 ครั้ง.)
192000.jpg (475.64 KB, 1108x1477 - ดู 1249 ครั้ง.)
191999.jpg (478.43 KB, 1108x1477 - ดู 1227 ครั้ง.)
191998.jpg (354.86 KB, 1108x1477 - ดู 1202 ครั้ง.)
191997.jpg (404.26 KB, 1108x1477 - ดู 1208 ครั้ง.)
192002.jpg (462.16 KB, 1108x1477 - ดู 1236 ครั้ง.)
192001.jpg (465.66 KB, 1108x1477 - ดู 1194 ครั้ง.)
38740236_226126388048962_1113887780963876864_n.jpg (129.79 KB, 960x1280 - ดู 1184 ครั้ง.)
38693236_680816272271513_3301655640925011968_n.jpg (134.36 KB, 960x1280 - ดู 1164 ครั้ง.)
.
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
maxna
|
|
« ตอบ #39 เมื่อ: 27 เมษายน 2562, 18:28:40 » |
|
สวยงาม แต่ละองค์ไม่เหมือนกัน เศียรพ่อปู่ฤาษีตาไฟ พระอาจารย์สมศักดิ์ อุตตโม ยุคแรก สร้างเมื่อ พ.ศ.2548-2549 จำนวนการจัดสร้าง มีทั้งหมด 3 แบบ แบบที่ 1 มีจำนวน 9 เศียร ปี พ.ศ.2548 ได้แห่เหล็กไหล มา 9 เม็ด แบบที่ 2 มีจำนวน 12 เศียรปี พ.ศ.2549 ได้แห่เหล็กไหล มา 12 เม็ด แบบที่ 3 มีจำนวน 32 เศียร มวลสารที่ใช้ในแบบที่ 3 นี้ จะแน่น ผงเนื้อแกนขามฟ้า
ทุก 3 แบบ จะมีมวลสารในสมัยที่ท่านเดินธุดง นับ 20 ปี ร่วมอยู่ในเศียรทุกองค์
เหตุที่ลูกศิษย์ของพระอาจารย์สมศักดิ์ อุตตโม จัดสร้างเศียรบรมครูพ่อปู่ฤาษีตาไฟ เนื่องจาก พระฤาษีตาไฟนับเป็นบรมครูผู้หนึ่งในอดีตกาลที่เชื่อถือกันว่าท่านสำเร็จอภิญญาสมาบัติ สำเร็จวิชากสิณไฟ สามารถเพ่งจนเกิดไฟลุกได้อย่างน่าอัศจรรย์ หรือสามารถเพ่งตะกั่วโลหะด้วยสายตาจนตะกั่วหรือโลหะนั้นหลอมละลายตัวลง ในตำรามักกล่าวว่าท่านมีพระเนตรที่ 3 อยู่กึ่งกลางหน้าผาก หากเนตรที่สามหรือตาที่สามนี้ลืมขึ้นเมื่อใดจะเกิดไฟประลัยกัลป์ขึ้นเมื่อนั้น คล้ายกับพระอิศวรที่มีเนตรที่สามเช่นกัน ดังนั้นครูบาอาจารย์บางท่านเชื่อถือกันว่า พระฤาษีตาไฟผู้เป็นบรมครูนี้หาใช่ใครอื่นไม่ น่าจะเป็นการอวตารภาคของพระอิศวรในภาคบรมครูผู้สั่งสอนทางธรรมก็เป็นได้ บรมครูพ่อปู่ฤาษีตาไฟ นับเป็นบรมครูชั้นสูงอีกพระองค์ของไทยเรามีนามปรากฏอยู่หลายแห่งด้วยกัน อานิสงส์ของการได้ครอบ เศรียรปู่ฤาษีตาไฟนั้น นำความสุขความเจริญ ความมั่งคั่งร่ำรวย มาสู่ตัวผู้นั้น ที่สำคัญ คือ อำนาจจากการตบะบารมีของพ่อปู่ฤาษีตาไฟนั้นจะผลาญสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายในชีวิตให้สิ้นไป ทั้งยังเป็นรัศมีอันแรงกล้าคอยคุ้มครองให้พ้นจากอำนาจคุณไสยมนต์ดำ ยังแสงสว่างให้บังเกิดในดวงชะตา เป็นสง่าราศีดั่งพระอาทิตย์พระจันทร์ ความน่าอัศจรรย์ประการหนึ่งของพระฤษีตาไฟผู้มีจักษุทิพย์ที่สามกลางหน้าผาก คือ เรื่องของญาณหยั่งรู้เหนือมนุษย์ ซึ่งเหตุนี้เองที่ทำให้เกิดอานิสงส์สำคัญในยามที่ผู้นับถือทางโหราศาสรตร์ ศาสตร์แห่งการพยากรณ์ทั้งปวง ได้รับการครอบเศียรปู่ฤาษีตาไฟ เพราะอำนาจจากการตบะแห่งดวงตาที่สามที่นอกจากเป็นแรงคุ้มครองสิ่งชั่วร้ายแล้ว ยังก่อให้เกิดญาณหยั่งรู้ภายในตัวอีกด้วย ผู้ที่เป็นนักพยากรณ์หรือสนใจในศาสตร์นี้เมื่อได้รับครอบแล้วมักจะมีความรู้แปลกๆเกิดขึ้น มีญาณสัมผัสที่แม่นยำขึ้น แต่ความสามารถนี้ก็มิได้เกิดกับผู้ที่ร่ำเรียนทางโหราศาตร์เท่านั้น แม้ผู้ที่ศรัทธาท่านอื่นๆที่มีความสนใจในศาสตร์ที่เร้นลับ และหากยิ่งเป็นนักปฏิบัติธรรมแล้วด้วยก็ยิ่งเกิดความสามารถทางจิตในเชิงนี้ได้เร็วและดียิ่งๆขึ้นไปอีก พลังแรงครูจะคอยคุ้มครองให้โชคลาภ เอื้ออำนวยประโยชน์สุขทุกๆด้านของชีวิต
|
.
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
maxna
|
|
« ตอบ #40 เมื่อ: 27 เมษายน 2562, 18:40:12 » |
|
เศียรพ่อปู่ฤาษีตาไฟ พระอาจารย์สมศักดิ์ อุตตโม ยุคแรก สร้างเมื่อ พ.ศ.2548-2549 แบบที่ 1 มีจำนวน 9 เศียร ปี พ.ศ.2548 ได้แห่เหล็กไหล มา 9 เม็ด
|
.
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
maxna
|
|
« ตอบ #41 เมื่อ: 01 พฤษภาคม 2562, 08:33:34 » |
|
ยุคต้น ญาถานเบิ้ม อุตฺตโม บรมครูใหญ่สายธรรมอุตฺตโมบารมี
|
.
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30 ตุลาคม 2562, 20:32:20 โดย maxna »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
maxna
|
|
« ตอบ #42 เมื่อ: 01 พฤษภาคม 2562, 08:39:57 » |
|
วัตถุมงคลแจกในงานไหว้ครู 62 ญาถานเบิ้ม วัดวังม่วง อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี
|
.
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
maxna
|
|
« ตอบ #43 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2562, 21:50:25 » |
|
บรมครูใหญ่หลวงปู่ทา นาควัณโณ บูรพาจารย์ศิษย์สายสำเร็จลุน ศิษย์รุ่นสุดท้ายแห่งหลวงปู่ญาถ่านตู๋ ถ่ายภาพคู่กับญาถานเบิ้ม วัดวังม่วง อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี บรมครูใหญ่สายอุตตโมบารมี
|
.
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 พฤศจิกายน 2563, 13:56:52 โดย maxna »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
maxna
|
|
« ตอบ #44 เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2562, 15:41:27 » |
|
ภาพอัดใส่กรอบไปให้บรมครูใหญ่หลวงปู่ทา นาควัณโณ ผู้สืบทอดวิชาอาคมบรมครูสมเด็จลุน..ท่านให้อนุญาตอัดภาพใส่แล้วนำไปให้ท่าน..เป็นการถ่ายภาพคู่ระหว่างญาถ่านเบิ้ม บรมครูสายธรรมอุตตโมบารมี...สาธุครับบรมครูสายธรรมอุตตโมบารมีหนุนนำ
|
|
|
|
|