วัตถุมงคลครูบาครอง ขัตติโย โคอุสุภราช รุ่นแรก วัดท่ามะเกว๋น จ.ลำปาง

[ARAYASOMBAT]

" การเป็นคนที่มีความสุข ย่อมไม่หวังผลจากการให้
 การเป็นคนที่มีความรัก ย่อมไม่หวังผลจากการครอบครอง
 การเป็นคนที่ดีเพื่อคนอื่น ย่อมไม่หวังผลจากการเสียสละ "

 คำสอนหลวงปู่ครูบาครอง ขตฺติโย

[ARAYASOMBAT]

ความอยากของมนุษย์

มนุษย์เรามีความอยากเป็นจุดเริ่มต้น ความอยากของคนเรานั้นแตกต่างกัน
 บางคนอยากกินแต่ของดีๆ เลือกกินแต่ของที่ตนคิดว่าอร่อย
 บางคนอยากมีเงินทองร่ำรวย เลือกทำทุกอย่างเพื่อให้ตนมีตนได้ในสิ่งที่หวัง
 บางคนอยากมีบุญมากๆ เลือกทำบุญมากๆโดยไม่ได้คิดถึงกำลังของตนที่มีอยู่ จนทำให้คนอื่นเดือดร้อน
 ความอยากจึงเป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง หยุดความอยาก เร่งปฏิบัติความเพียร เพื่อความมั่นคงของจิต และเป็นหนทางของความสุขที่แท้จริง

หลวงปู่ครูบาครอง ขตฺติโย

[ARAYASOMBAT]

วัตถุมงคลรุ่นต่างๆ ของหลวงปู่ครูบาครอง ขตฺติโย

วัดท่ามะเกว๋น ต.แม่ปะ อ.เถิน จ.ลำปาง

[ARAYASOMBAT]

ครูบาครอง ขตฺติโยพระอริยสงฆ์แห่งวัดท่ามะเกว๋น จ.ลำปาง

เรื่องและภาพ : ไตรเทพ ไกรงู

               ในยุคปัจจุบันนี้(ปีพ.ศ.๒๕๕๗)หากเราจะเอ่ยนามพระสายวิปัสสนากรรมฐานที่มีบารมีธรรมและเมตตาธรรมสูงของภาคเหนือนั้นย่อมปรากฏนามพระอริยสงฆ์อยู่หลายรูปด้วยกันเช่นหลวงพ่อประสิทธิ์ปุญญมากโรวัดป่าหมู่ใหม่อ.แม่แตงจ.เชียงใหม่,พระอาจารย์เปลี่ยนปัญญาปทีโปวัดอรัญวิเวกอ.แม่แตงจ.เชียงใหม่แล้วยังมีพระเถราจารย์เฒ่าผู้ทรงคุณวุฒิอีกรูปทีมีพรรษาถึง๗๕(พ.ศ.๒๕๕๗)ถึงแม้ท่านจะไม่ได้บวชในสายพระกรรมฐานแต่ท่านปฏิบัติตนดังพระกรรมฐานตามแนวทางของพระกรรมฐานสายภาคเหนือคือการถือป่าเป็นวัตร

               ครูบาเฒ่าผู้ทรงอภิญญาพระภิกษุเฒ่าผู้ปฏิบัติสมณธรรมและพระกรรมฐานผู้ถึงพร้อมการบรรลุจิตตานุภาพได้อย่างน่าอัศจรรย์พระสงฆ์ผู้ได้ละทิ้งความสะดวกสบายนั่งบำเพ็ญฌานอยู่ในป่าลึกจนถึงปีพ.ศ.๒๕๔๗ท่านดำรงชีวิตอยู่ในป่านานกว่า๖๐ปีทำให้เกิดอภิญญาจิตอย่างสูงไม่แตกต่างใดๆกับหลวงพ่อเกษมเขมโกเทพเจ้าของชาวลำปางและพระอริยสงฆ์องค์อื่นๆที่เพียรปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานพระอริยสงฆ์รูปดังกล่าวนี้คือหลวงปู่ครูบาครองขตฺติโยแห่งที่พักสงฆ์บ้านท่าอุดมต.แม่ปะอ.เถินจ.ลำปาง

               ครูบาครองถือกำเนิดวันที่๓สิงหาคมพ.ศ.๒๔๖๓มีนามเดิมว่าคองหรือครองหลวงปู่ครูบาครองท่านอุปสมบทเป็นพระภิกษุในบวรพระพุทธศาสนาเมื่อวันที่๑๔พฤศจิกายนพ.ศ.๒๔๘๓อายุ๒๐ปีบริบูรณ์ณพระอุโบสถวัดอูมลองต.บ้านเวียงอ.เถินจ.ลำปางโดยพระครูรักขิตตคุณ(ต๋า)วัดอูมลองอ.เถินเป็นพระอุปัชฌาย์พระพุทธวงศ์(ก๋วน)เป็นพระกรรมวาจาจารย์พระจันทร์เป็นพระอนุสาวนาจารย์ได้รับฉายาขตฺติโย

               สิ่งที่หลวงปู่กลัวมากที่สุดคือกลัวโลภะโทสะโมหะจะเกิดขึ้นกลัวมันจะครอบงำจิตถ้ามันมาครอบงำแล้วไม่ว่าใครก็จะเสียคนเป็นบ้าไปเลยทีเดียวตื่นไม่รู้ตัวมั่วเมาอยู่ตลอดเวลาถ้าเราหลงอยู่กับมันอย่างเช่นถ้าเราบริจาคเงินทำบุญให้ใครไปแล้วก็อย่าไปทวงถามว่านำเงินไปใช้ตามประสงค์หรือไม่ให้ไปแล้วจะทำอะไรก็ช่างเขาถ้าไปตามดูเห็นเขาทำไม่ดีไม่งามก็จะบันดาลโทสะนั่นแหละคือตัวกิเลสเมื่อบริจาคให้ด้วยความบริสุทธิ์ใจแล้วจะนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์หรือไม่เป็นเรื่องที่จะพิจารณากันเอาเองเราจะต้องเป็นผู้ที่ละวางให้คิดว่ายิ่งให้ยิ่งได้

               ทั้งนี้ท่านมักจะสอนลูกหลานและคนใกล้ชิดอยู่เสมอว่าคนเรานั้นต้องทำงานถึงจะมีเงินถ้าไม่ทำงานก็ไม่มีเงินแต่จะรวยหรือจนนั้นมันอยู่หลายองค์ประกอบทำบุญมากๆก็ไม่ได้ช่วยให้เรารวยได้จะรวยได้มันต้องเริ่มจากการขยันทำงานก่อนมันถึงจะรวยได้จะรวยมากๆได้ก็ต้องรู้จักใช้รู้จักเก็บมันถึงจะทำให้รวยได้

               ในวาระอายุครบ๙๕ปี๒สิงหาคม๒๕๕๗เททองหล่อพระพุทธทันใจขนาดหน้าตัก๓๙นิ้วส่วนวันที่๓จะมีการวางศิลาฤกษ์เจดีย์ขัตติโยณวัดท่ามะแกว๋นทั้งนี้จะมีการบรรจุพระยอดขุนพลเมืองลำปางลงในเจดีย์จำนวน๘๔,๐๐๐องค์พร้อมทั้งออกวัตถุมงคลรุ่นเมตตาบารมี๙๕ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญได้ที่โทร.๐๙-๒๒๕๒-๐๙๒๒และ๐๙-๒๔๘๙-๒๔๙๗หรือwww.krubaklong.com

อยู่ป่าเป็นวัตร

               ตลอดชีวิตของการครองสมณเพศหลวงปู่ไม่เคยมีความโลภไม่ใส่ใจในเงินทองไม่สะสมไม่มีความอยากในเรื่องความอยากได้อยากมีหลวงปู่เคร่งครัดในวัตรปฏิบัตรสวดมนต์ทำสมาธิเป็นนิตย์ไม่เคยขาดชอบอยู่อย่างสงบไม่ชอบความวุ่นวายไม่รับกิจนิมนต์ไปบ้านโยมไม่ออกจากป่ามา๖๐ปีกระทั่งปีที่แล้วมีพระลูกศิษย์รูปหนึ่งนิมนต์มากรุงเทพฯเพื่อพบแพทย์รักษาตัวท่านจึงยอมออกมาและจะออกมาอีกครั้งวันที่๕กรกฎาคมพ.ศ.๒๕๕๒เพื่อร่วมพิธีไหว้ครูปลุกเสกวัตถุมงคลของหลวงปู่ครูบาสิงห์โตสหธรรมิกของท่านที่นิมนต์หลวงปู่ครูบาครองมาเททองพระฤๅษีทันใจณวัดอโยธยาจ.พระนครศรีอยุธยา

               ครูบาครองท่านถือการอยู่ป่าเป็นวัตรคือจะอยู่อาศัยเฉพาะในป่าเท่านั้นจะไม่อยู่ในหมู่บ้านเลยเพื่อไม่ให้ความพลุกพล่านวุ่นวายของเมืองรบกวนการปฏิบัติหรือเพื่อป้องกันการพอกพูนของกิเลสเพราะท่านบวชได้เพียง๒๔พรรษาเท่านั้น

               ต่อมาเมื่อหลวงปู่มีอายุมากขึ้นลูกหลานจึงขอให้หลวงปู่ท่านขยับออกมาจากในป่าลึกทันทีที่หลวงปู่ยอมก็ได้ร่วมกันปลูกเพิงพักให้ท่านอยู่ในป่าแต่ห่างจากวัดประมาณ๑กิโลเมตรเพื่อให้ท่านได้ปฏิบัติธรรมตามเจตนาและลูกหลานสามารถมาดูแลหลวงปู่ท่านได้สะดวกมากยิ่งขึ้นต่อมาวันที่๓๐ตุลาคมพ.ศ.๒๕๔๗หลวงปู่ครูบาครองออกจากป่ามาอยู่ที่พักสงฆ์บ้านท่าอุดมที่ดินหลังวัดท่ามะเกว๋นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจวบจนปัจจุบันรวมกว่า๖๐ปีที่ท่านได้อยู่ในป่าจริงๆถือได้ว่าเป็นเวลาที่นานมากสำหรับพระสงฆ์ที่ยังดำรงขันธ์อยู่ในปัจจุบันนี้

               ปัจจุบันหลวงปู่ครูบาครองเป็นพระเถระที่มีพุทธศาสนิกชนให้ความเคารพเลื่อมใสศรัทธามากที่สุดอีกรูปหนึ่งของภาคเหนือท่านแสดงออกอย่างเห็นได้ชัดก็คือความเมตตาของท่านอย่างแท้จริงท่านมีความพยายามและตั้งใจที่จะช่วยเหลือคณะศรัทธาให้หายจากความทุกข์ทั้งปวงผู้คนเป็นจำนวนมากที่ได้รับเมตตาจากท่านท่านทำด้วยความบริสุทธิ์ใจด้วยเมตตาธรรมอันสูงยิ่งทำให้คนที่เป็นทุกข์อยู่มีความสุขใจได้ในระดับหนึ่งเมื่อไรมีโอกาสกราบนมัสการจนท่านได้รับการกล่าวขานด้วยความเคารพนับถือจากพุทธศาสนิกชนทั่วไปว่าเป็นนักบุญแห่งเมืองเถิน

บุญใกล้ตัวต้องทำก่อน

               หลวงปู่บอกว่าบาปและบุญมีจริงที่เอาบาปนำหน้านั้นเพราะบาปทำได้ง่ายเลยเอานำหน้าเพื่อให้ได้คิดถึงเรื่องของบาปก่อนเมื่อเราละบาปได้การทำบุญของคนเราก็จะง่ายขึ้น พร้อมกันนี้ท่านได้สอนศิษย์ใกล้ชิดอยู่ตลอดเวลาว่าบาปหรือบุญเราเป็นคนทำเองไม่มีใครจะคิดแทนเราได้อยากได้บุญก็ให้นำไปทำและประพฤติปฏิบัติเองก็จะได้เป็นสิริมงคลแก่ตนเองซึ่งจะเป็นหนทางสู่ความเจริญทั้งต่อตนเองและประเทศชาติโดยให้ยึดมั่นและให้เชื่อว่าบาปมีจริงบุญมีก็จริงทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วให้ปฏิบัติตามศีล๕อันเป็นรากฐานของพระธรรมของพระพุทธองค์เท่านี้ก็นับว่าเป็นมนุษย์สุดประเสริฐแล้ว

               ครั้งหนึ่งที่หลวงปู่ท่านอวยพรปีใหม่พ.ศ.๒๕๕๖ให้แก่ศิษย์ใกล้ชิดที่กรุงเทพฯว่าหลวงปู่ไม่มีอะไรจะให้ลูกหลานเลยและก็ไม่มีอะไรจะสอนลูกหลานหรอกเพราะสอนหมดแล้วอยู่ใกล้ชิดกันมานานอยากจะให้ลูกหลานจำคำของหลวงปู่ไว้ว่าทำดีเท่านั้นแหละบุญบาปมีจริงนะลูกหลานให้เชื่อว่าบาปมีจริงให้ทำบุญมากๆให้ละชั่วหมั่นทำดีให้มีศีลธรรมประจำใจบุญก็รู้อยู่ที่ใจบาปก็รู้อยู่ที่ใจรักตัวกลัวภัยอย่าทำชั่วให้ตั้งอยู่ในเมตตาธรรม

               หลวงปู่กล่าวขึ้นอีกว่าขึ้นชื่อว่าบุญแล้วมีให้ทำมากมายอย่าไปเลือกว่าบุญมากบุญน้อยทำบุญไปสะสมไปมันก็มากเองเรานับถือพระพุทธศาสนาก็ต้องเชื่อในพระพุทธเจ้าพระพุทธองค์ท่านได้สอนไว้ในพระธรรมอยู่แล้วว่าบุญและบาปมีจริงไม่ต้องเชื่ออะไรเชื่อบุญมีจริงบาปมีจริงก็ใช้ได้เท่านั้นพอไม่ต้องทำอะไร

               อย่างไรก็ตามบุญอันดับแรกที่มักบอกลูกศิษยว่าอย่ามองข้ามคือบุญใกล้ตัวอยู่ที่บ้านพ่อแม่คือเนื้อนาบุญกองใหญ่ไม่ทำบุญกับท่านเลยก็จะเป็นบาปที่จะคอยตอบสนองเราเห็นกันในชาตินี้เลยไม่ต้องรอถึงชาติหน้าหรอกทำกับพ่อแม่ไว้อย่างไรลูกของเราก็จะทำกับเราแบบนั้นเช่นกันหลวงปู่เห็นมาเยอะแล้วควรทำบุญกับท่านทุกวันก็จะได้บุญมากบาปหรือบุญที่ทำให้พ่อแม่นั้นก็จะรอตอบแทนเราในชาตินี้เลยไม่ต้องรอนาน
(ขอขอบคุณข้อมูล จาก นสพ.คมชัดลึก)

[ARAYASOMBAT]

เหรียญเม็ดแตง หลวงปู่ครูบาครอง จะอยู่ในรายการที่ 3 (ชุดกรรมการ 3 องค์)
 ประกอบไปด้วย เหรียญเม็ดแตงเนื้อทองแดง วัวธนูทรงเครื่องเนื้อกะไหล่เงินลงยา และวัวธนูทรงเครื่องเนื้อทองเหลือง
 จำนวนการสร้างไม่เกิน 499 ชุด
 ** ราคาจอง 500 บาท
 ชุดนี้ถือว่าคุ้มมากๆ และยอดจองสูงที่สุด ใครที่ยังไม่ได้จองรีบหน่อยนะครับ เพราะราคาหลังจองปรับเป็น 700 บาทครับ

[ARAYASOMBAT]

หลวงปู่ครูบาครอง สมัยที่ท่านจำพรรษาอยู่กุฏิในป่า สาธุๆๆ

[ARAYASOMBAT]

หลวงปู่ครูบาครองให้ข้อคิดเกี่ยวกับการทำบุญว่า " การทำบุญด้วยเงินอันน้อยนิดนั้น ถ้าเงินนั้นเป็นหยาดเหงื่อและแรงงานที่ทำ ไม่ได้ไปโกงใครมา ก็อย่าไปกลัวบุญ อย่าไปอายที่จะทำบุญ ขอให้ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ก็ได้บุญมากเท่ากับคนที่ทำเป็นแสนเป็นล้านแล้ว"

[ARAYASOMBAT]

หลวงปู่ครูบาครองท่านเมตตาญาติโยมทุกคนอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน

[ARAYASOMBAT]

ครูบาครอง ขัตติโย พระเกจิอาจารย์แห่งเมืองรถม้า จ.ลำปาง

เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๒ นสพ.รายวันหลายฉบับเสนอข่าววิศวกรชาวเกาหลีที่มาคุมงานสร้างทางสายลำปางถูกลอบยิงแต่ไม่เข้า ปรากฏว่าในตัวของเขาปราศจากพระเครื่องของหลวงปู่หลวงพ่อใดๆ มีเพียงแก้วโป่งข่าม อ.เถิน อยู่เม็ดเดียว ข่าวนี้ทำให้คนทั่วประเทศรู้จัก อ.เถิน ในฐานะเป็นดินแดนแห่งโป่งข่ามอันศักด์สิทธิ์

 ขณะเดียวกันก่อนช่วงเวลานั้นแถบบ้านท่าอุดมอันไม่ไกลจากแหล่งโป่งข่ามเท่าใดนัก ก็มีพระอริยสงฆ์รูปหนึ่งได้ละทิ้งความสะดวกสบาย นั่งบำเพ็ญฌานอยู่ในป่าลึกจนถึงปัจจุบันนานกว่า ๖๐ ปี พระสงฆ์รูปดังกล่าวนี้คือ หลวงปู่ครูบาครอง ขตฺติโย

 ปัจจุบันหลวงปู่ครูบาครอง ขัตติโย อายุ ๙๑ ปี ๗๑ พรรษา (นับเฉพาะบวชพระ)(พ.ศ.๒๕๕๓) เกิดวันที่ ๓ สิงหาคม ๒๔๖๓ เป็นลูกคนโตของพ่อซาว แม่น้อย จากบุตรทั้งหมด ๔ คน บวชเณรตอนอายุ ๑๖ ปี โดย พระครูพุทธวงศ์ (ก๋วน) เกจิดังวัดแม่ป๊ะหลวง ตุ๊ลุงของท่านเป็นผู้บรรพชา และบวชพระเมื่ออายุ ๒๐ ปี โดยพระครูรักขิตคุณ (ต๋า) วัดอุมลอง เกจิอาจารย์อีกองค์หนึ่งของ อ.เถิน เป็นพระอุปัชฌาย์ จำพรรษา ณ วัดท่ามะเกว๋น

  เมื่อท่านบวชเณรแล้วได้ศึกษาอักขระล้านนาและศึกษาการปฏิบัติเบื้องต้นกับตุ๊ลุง จนบวชเป็นพระแล้วก็เริ่มศึกษากับพระอุปัชฌาย์และหนานหลายคน หลังจากนั้นจึงออกเดินรุกขมูลร่ำเรียนไปทั่วภาคเหนือจนเกือบ ๑๐ พรรษา แล้วกลับมายังบ้านท่าอุดม โดยปักกลดอยู่ในป่าลึกหลังวัดท่ามะเกว๋น   เมื่อพี่น้องลูกหลานทราบถึงการกลับมาของท่าน ก็เกิดความปีติ ดีใจรีบเดินทางไปนิมนต์ท่านกลับเข้าวัดท่ามะเกว๋น แต่ท่านปฏิเสธ เนื่องจากไม่ต้องการพบความวุ่นวายของโลกอีกต่อไป อยากอยู่บำเพ็ญฌานสมาบัติโดยลำพังเพียงรูปเดียวในป่าแห่งนี้ ทันทีที่ลูกหลานทราบวัตถุประสงค์ของท่าน จึงร่วมกันปลูกเพิงพักให้ท่าน ได้ปฏิบัติธรรมตามเจตนา

  หลวงปู่ครูบาครอง มีอุปนิสัยที่ชุ่มเย็นสุขุมนุ่มลึกจะพูดจะจาอะไรก็คิดไตร่ตรองก่อนทุกครั้งคือท่านมีสติตลอดเวลา มีความเมตตาต่อศิษยานุศิษย์เป็นอย่างสูงขณะเดียวกันก็มีความเด็ดขาดมั่นคงทางใจ ตัดสินใจอะไรคนเดียวไม่ปรึกษาใคร ใบหน้าผิวพรรณท่านผ่องใสผิดคนธรรมดา หลวงปู่ไม่เคยมีความโลภ ไม่ใส่ใจในเงินทอง ไม่สะสม ไม่มีความอยากในเรื่องขบฉัน

 อุปนิสัยของครูบาครอง เป็นพระเถระที่เรียบง่าย แต่เคร่งครัดในวัตรปฏิบัตร สวดมนต์ ทำสมาธิเป็นนิจไม่เคยขาด ชอบอยู่อย่างสงบ ไม่ชอบความวุ่นวาย ท่านเคร่งครัดในวัตรปฏิบัตร สวดมนต์ทำสมาธิเป็นนิจไม่เคยขาด ชอบอยู่อย่างสงบไม่ชอบความวุ่นวาย ไม่รับกิจนิมนต์ไปบ้านโยม ไม่ออกจากป่ามา ๖๐ปี กระทั่งปีที่แล้วมีพระลูกศิษย์รูปหนึ่งนิมนต์มากรุงเทพฯ เพื่อพบแพทย์รักษาตัวท่านจึงได้ยอมออกมา

 คำสอนที่หลวงปู่ครูบาครองมักพูดสอนลูกศิษย์เสมอๆ ว่า "อยากมีทรัพย์ต้องขยันหา ขยันเก็บ ใช้จ่ายอยากมีเหตมีผล แต่ถ้าอยากอายุยืนต้องงดฆ่าสัตว์เอาชีวิตคนอื่น ส่วนใครอยากถูกหวยรวยเบอร์ให้ไปหาที่อื่น ที่นี่เป็นวัดมิใช่สำนักทรงที่จะบอกเลขใครได้" ส่วนใครที่เอารถมาให้เจิมท่านให้ข้อคิดเหมือนๆ กัน คือ "มีสติไม่เสียสักอย่าง ไม่มีสติอาจจะเสียทุกอย่าง แม้กระทั่งลมหายใจ"

 ส่วนการจัดสร้างวัตถุมงคลของหลวงปู่ครูบาครองก่อนหน้านี้ไม่เคยจัดสร้างเป็นทางการ มีแต่ก็มีลูกศิษย์ซื้อของตามสนามขายพระมาให้ท่านเสกแจกฟรี รวมทั้งถวายให้ท่านเพื่อมอบเป็นที่ระลึกให้ลูกศิษญ์ที่ไปกราบไหว้ขอพร วัดปัจจุบันถาวรวัตถุภายในวัดท่ามะเกว๋น ทรุดโทรมและพังเสียหาย ตามกาลเวลา 

 "อยากมีทรัพย์ต้องขยันหา ขยันเก็บ ใช้จ่ายอยากมีเหตมีผล แต่ถ้าอยากอายุยืนต้องงดฆ่าสัตว์เอาชีวิตคนอื่น ส่วนใครอยากถูกหวยรวยเบอร์ให้ไปหาที่อื่น ที่นี่เป็นวัดมิใช่สำนักทรงที่จะบอกเลขใครได้"

เรื่อง/ภาพ ไตรเทพ ไกรงู

(ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก นสพ.คมชัดลึก)

พระอุโบสถวัดท่ามะเกว๋น

พระวิหารวัดท่ามะเกว๋น

[ARAYASOMBAT]

พระรูปเหมือนครูบาครอง ขตฺติโย
วัดท่ามะเกว๋น ต.แม่ปะ อ.เถิน จ.ลำปาง 
พระองค์ครู เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู

 

            หลวงปู่ครูบาครอง ขตฺติโย แห่งที่พักสงฆ์บ้านท่าอุดม ต.แม่ปะ อ.เถิน จ.ลำปาง ท่านได้ถือการอยู่ป่าเป็นวัตร คือจะอยู่อาศัยเฉพาะในป่าเท่านั้น จะไม่อยู่ในหมู่บ้านเลย เพื่อไม่ให้ความพลุกพล่านวุ่นวายของเมืองรบกวนการปฏิบัติ หรือเพื่อป้องกันการพอกพูนของกิเลส เพราะท่านบวชได้เพียง ๒๔ พรรษาเท่านั้น

               เมื่อหลวงปู่มีอายุมากขึ้น ลูกหลานจึงได้ขอให้หลวงปู่ท่านขยับออกมาจากในป่าลึก ทันทีที่หลวงปู่ยอมก็ได้ร่วมกันปลูกเพิงพักให้ท่าน อยู่ในป่าแต่ห่างจากวัดประมาณ ๑ กิโลเมตร เพื่อให้ท่านได้ปฏิบัติธรรมตามเจตนาและลูกหลานสามารถมาดูแลหลวงปู่ท่านได้สะดวงมากยิ่งขึ้น ต่อมาในวันที่ ๓๐ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๗ หลวงปู่ครูบาครองจึงได้ออกจากป่า มาอยู่ที่พักสงฆ์บ้านท่าอุดมที่ดินหลังวัดท่ามะเกว๋น ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจวบจนปัจจุบัน รวมกว่า ๖๐ ปีที่ท่านได้อยู่ในป่าจริงๆ ถือได้ว่าเป็นเวลาที่นานมากสำหรับพระสงฆ์ที่ยังดำรงขันธ์อยู่ในปัจจุบันนี้

               หลวงปู่ครูบาครองเป็นพระเถระที่มีพุทธศาสนิกชนให้ความเคารพเลื่อมใสศรัทธามากที่สุดอีกองค์หนึ่งของภาคเหนือ ท่านได้แสดงออกอย่างเห็นได้ชัดก็คือ ความเมตตาของท่านอย่างแท้จริง ท่านมีความพยายามและมีความตั้งใจที่จะช่วยเหลือคณะศรัทธาให้พ้นจากความทุกข์ทั้งปวง ผู้คนเป็นจำนวนมากมายที่ได้รับความเมตตาจากท่าน จนท่านได้รับการกล่าวขานด้วยความเคารพนับถือจากพุทธศาสนิกชนทั่วไปว่า "ครูบานักบุญแห่งเมืองเถิน"

               ท่านมักจะสอนลูกหลานและคนใกล้ชิดอยู่เสมอว่า ?คนเรานั้นต้องทำงาน ถึงจะมีเงิน ถ้าไม่ทำงานก็ไม่มีเงิน แต่จะรวยหรือจนนั้น มันอยู่หลายองค์ประกอบ ทำบุญมากๆ ก็ไม่ได้ช่วยให้เรารวยได้ จะรวยได้มันต้องเริ่มจากการขยันทำงานก่อน มันถึงจะรวยได้จะรวยมากๆ ได้ ก็ต้องรู้จักใช้ รู้จักเก็บ มันถึงจะทำให้รวยได้?

               บุญอันดับแรกที่มักบอกกับลูกศิษยว่าอย่ามองข้าม คือ ?บุญใกล้ตัวอยู่ที่บ้าน พ่อแม่คือเนื้อนาบุญกองใหญ่ ไม่ทำบุญกับท่านเลย ก็จะเป็นบาปที่จะคอยตอบสนองเรา เห็นกันในชาตินี้เลย ไม่ต้องรอถึงชาติหน้าหรอก ทำกับพ่อแม่ไว้อย่างไร ลูกของเราก็จะทำกับเราแบบนั้นเช่นกัน หลวงปู่เห็นมาเยอะแล้ว ควรทำบุญกับท่านทุกวัน ก็จะได้บุญมาก บาปหรือบุญที่ทำให้พ่อแม่นั้น ก็จะรอตอบแทนเราในชาตินี้เลยไม่ต้องรอนาน?

               อย่างไรก็ตามในปี ๒๕๕๗ นี้ หลวงปู่ครูบาครอง ขตฺติโย ได้ร่วมกับชาวบ้านท่ามะเกว๋น ทำการวางศิลาฤกษ์เริ่มการก่อสร้างเจดีย์ขตฺติโย ณ วัดท่ามะเกว๋นและพิธีสืบชะตาหลวง หลวงปู่ครูบาครอง ขตฺติโย มีอายุครบ ๙๕ ปี ในวันที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๕๗ คณะกรรมการวัดท่ามะเกว๋น และคณะศิษย์กรุงเทพฯ จึงได้จัดทำผ้าป่าสามัคคีถวายหลวงปู่ครูบาครอง ขตฺติโย ในวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๕๗ เวลา  ๐๙.๑๙ น.เพื่อนำเงินผ้าป่าสมทบทุนการก่อสร้างเจดีย์ขตฺติโย และเงินค่าใช้จ่ายในการจัดงานพิธีสืบชะตาหลวง หลวงปู่ครูบาครอง ขตฺติโยมีอายุครบ ๙๕ ปี

              ทั้งนี้ได้ตั้งกองผ้าป่าสามัคคีทั้งหมด ๙๙๙ กอง กองละ ๒,๙๙๙ บาท และ ๑ กอง จะได้รับวัตถุมงคล พระบูชารูปเหมือนหลวงปู่ครูบาครอง ขตฺติโย ขนาดหน้าตัก ๔ นิ้ว จำนวน ๑ องค์ และเหรียญสร้างบารมี หลวงปู่ครูบาครอง ขตฺติโย เนื้อทองแดงรมดำ จำนวน ๓๐ เหรียญ
(ขอขอบพระคุณข้อมูล : นสพ.คมชัดลึก)

[ARAYASOMBAT]

รุ่นมหามงคล91-ครูบาครอง พระของขวัญสุดล้ำค่าปี2554

1.ครูบาครอง

2.โบสถ์วัดท่ามะแกว๋น

3.กับครูบาผัด

 
"ครูบาครอง ขัตติโย" วัดท่ามะเกว๋น อ.เถิน จ.ลำปาง เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองลำปาง เชี่ยวชาญวิทยาคมเป็นที่เลื่องลือ จนได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้าแห่งภาคเหนือ ครูบาครอง บำเพ็ญเพียรตั้งมั่นอยู่ในสมณธรรมอย่างเคร่งครัด มีวัตรปฏิบัติเรียบง่าย ปฏิปทางดงามเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของผู้ได้พบเห็น ปัจจุบันอายุ 91 พรรษา 71

ล่าสุด "ครูบาครอง" ต้องการหาปัจจัยในการบูรณะถาวรวัตถุภายในวัดที่ทรุดโทรม จึงอนุญาตให้จัดสร้าง "วัตถุมงคล รุ่นมหามงคล 91" มอบเป็นพระของขวัญสุดล้ำค่าในปีพ.ศ. 2554 โดยท่านกำหนดอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวในวันที่ 7 มี.ค.2554

ท่านเกิดเมื่อวันที่ 3 ส.ค.2463 เป็นบุตรคนโตในจำนวน 4 คน ของ พ่อซาว และแม่น้อย ช่วงวัยเยาว์ เรียนจบชั้น ป.4 จากโรงเรียนในหมู่บ้าน ก่อนบรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ 16 ปี มีพระครูพุทธวงศ์ (ก๋วน) พระเกจิอาจารย์ดังวัดแม่ป๊ะหลวง ตุ๊ลุงของท่านเป็นอุปัชฌาย์ ระหว่างเป็นสามเณร ได้ศึกษาอักขระล้านนาและศึกษาการปฏิบัติธรรมเบื้องต้นกับพระครูพุทธวงศ์

กระทั่งอายุครบ 20 ปีจึงเข้าพิธีอุปสมบท มีพระครูรักขิตคุณ (ต๋า) วัดอุมลอง พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของ อ.เถิน เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายาว่า "ขัตติโย" โดยได้อยู่จำพรรษาที่วัดท่ามะเกว๋น เริ่มศึกษากับพระอุปัชฌาย์และพระอีก หลายรูป หลังจากนั้นได้ออกเดินรุกขมูลร่ำเรียนไปทั่วภาคเหนือเป็นเวลานานถึง 10 พรรษา ก่อนเดินทางกลับมายังบ้านท่าอุดม โดยปักกลดอยู่ในป่าลึกจากวัดเข้าไปมาก

ครูบาครองเป็นพระที่มีอุปนิสัยที่เยือกเย็นสุขุมลุ่มลึก พูดจาสิ่งใดล้วนคิดไตร่ตรองก่อนทุกครั้ง คือท่านมีสติตลอดเวลา มีความเมตตาต่อศิษยานุศิษย์เป็นอย่างสูง ขณะเดียวกัน มีความเด็ดขาดมั่นคงทางใจ ใบหน้าผิวพรรณท่านผ่องใส เนื่องจากท่านไม่เคยมีความโลภ ไม่ใส่ใจในเงินทอง ไม่สะสม ไม่มีความอยากในเรื่องขบฉัน เคร่งครัดในวัตรปฏิบัติ สวดมนต์ ทำสมาธิเป็นนิจไม่เคยขาด ชอบอยู่อย่างสงบ ไม่ชอบความวุ่นวาย ไม่รับกิจนิมนต์ไปบ้านโยม ไม่ออกจากป่ามานานหลายปี

กระทั่งมีพระลูกศิษย์รูปหนึ่งนิมนต์ท่านให้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อพบแพทย์รักษาตัว ท่านจึงได้ยอมออกมา และอีกครั้งคือ พิธีไหว้ครูปลุกเสกวัตถุมงคลของหลวงปู่ครูบาสิงโต สหธรรมิกที่นิมนต์ให้ท่านมาเททองวัตถุมงคล ณ วัดอโยธยา จ.พระนครศรีอยุธยา นอกจากนี้ ครูบาครอง ท่านชอบความวิเวก ปลีกตัวออกจากสังคม ถึงขั้นไม่ยอมเดินทางไปไหน ขออยู่แต่ในป่าหลังวัดท่ามะเกว๋น แม้คณะศิษย์จะพยายามนิมนต์ให้ออกมาข้างนอก เพราะท่านอายุมากแล้ว จะได้ช่วยดูแลกันได้ แต่สุดท้าย ท่านยอมออกมา แต่ไม่ขออยู่วัด ขออยู่ป่าใกล้ๆหลังวัด ลูกหลานจึงช่วยกันปลูกเรือนหลังเล็กๆ ให้ท่านอยู่จนถึงปัจจุบัน

ครั้งหนึ่ง ครูบาผัด เกจิอาจารย์ดังแห่งวัดศรีดอนมูล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ กลับจากงานพิธีนั่งรถผ่านวัดท่ามะเกว๋น ท่านได้ชี้ไปทางวัดแล้วบอกกับลูกศิษย์ว่า ในวัดนี้มีพระอริยะรูปหนึ่ง แสดงให้เห็นว่า ครูบาผัดได้สัมผัสญาณวิถีของครูบาครอง เนื่องจากท่านไม่เคยพูดเรื่องแบบนี้กับใครมาก่อน

ในด้านวัตถุมงคล ครูบาครองไม่เคยจัดสร้างอย่างเป็นทางการ มีแต่ผู้จัดสร้างวัตถุมงคลมาขอให้ท่านเสก ครั้งหนึ่งมีคนนำผ้ายันต์มาให้ครูบาครองเสก ปรากฏว่า มีคนเชียงใหม่เอาไปทดลอง ด้วยการใช้ปืนจ่อยิง 3 นัด ปรากฏว่ายิงไม่ถูก ส่วนนัดที่ 4 ยิงถูก แต่ไม่ทะลุผ้ายันต์ สร้างความฮือฮาอย่างมาก

"วัตถุมงคล รุ่นมหามงคล 91" มอบเป็นพระของขวัญสุดล้ำค่าในปี พ.ศ.2554 คือเหรียญรูปไข่นั่งเต็มองค์ รุ่นแรกหลังหนุมาน (ปีเกิดของท่านปีวอก) เนื้อเงินลงยาราชาวดี หน้าสีน้ำเงิน หลังสีแดง และเนื้อเงินลงยาราชาวดี หน้าสีแดง หลังสีน้ำเงิน, เนื้อเงิน, เนื้อนวโลหะ, เนื้ออัลปาก้า, เนื้อทองฝาบาตร, เนื้อทองแดง, พระปรกใบมะขาม เนื้อเงิน, เนื้อนวะ, เนื้ออัลปาก้า, เนื้อทองฝาบาตร, เนื้อทองแดง, ล็อกเกตอุ้มบาตร ฉากทอง ซูเปอร์ จัมโบ้ และฉากฟ้า เบอร์ 1, ตะกรุดโทนจารมือ ถักเชือก, พระผงรูปเหมือน พิมพ์ห้าเหลี่ยม เนื้อผงพุทธคุณ รุ่นแรก ผู้สนใจสั่งจองกันได้แล้ว

นับเป็นโอกาสอันดีของศิษยานุศิษย์ และผู้เลื่อมใสศรัทธาที่รอคอยกันมานานหลายปี

ที่จะได้ร่วมบุญกับครูบาผู้มีอาวุโสสูงสุดแห่งเมืองรถม้า

(ขอขอบคุณข้อมูลจาก นสพ.ข่าวสด)

[ARAYASOMBAT]

คำสอนหลวงปู่ครูบาครอง

การตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาทนั้นคือ ไม่ประมาททั้งทางโลกและทางธรรม เป็นธรรมะที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าหลักธรรมข้ออื่นๆ ถ้าหากมนุษย์เราปฏิบัติธรรมะข้อนี้ได้ ก็เหมือนกับไก้ปฏิบัติตามหลักธรรมข้ออื่นๆของพระพุทธองค์ได้ครบทั้งหมด แต่ถ้าบุคคลใดประมาท หลวงปู่กล่าวว่า ก็เหมือนคนที่ตายแล้วครึ่งตัว คือเป็นคนหมดชีวิตแล้วครึ่งหนึ่ง ถ้าประมาทเมื่อใดก็ตายเมื่อนั้น เมื่อนึกได้ทีหลังจะเสียใจ

[ARAYASOMBAT]

ขอแสดงความไว้อาลัยแด่ เจ้าอธิการเคลื่อน สุทธสฺสีโล เจ้าอาวาสวัดท่ามะเกว๋น อ.เถิน จ.ลำปาง ได้ละสังขารอย่างสงบเมื่อช่วงเย็นของเมื่อวาน (วันที่ 13 พ.ค 2559 ) ที่วัดท่ามะเกว๋น

[ARAYASOMBAT]

เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2559 ที่ผ่านมาคณะอ.ย.ได้เดินทางดูสถานที่วัดท่ามะเกว๋นเพื่อที่จะนำผ้าป่ามาทอดถวายวันที่ 4-5 มิ.ย.59 และยังได้นำของมาแจกให้กับเด็กๆโรงเรียนวัดท่ามะเกว๋นด้วย ขอขอบคุณทุกๆท่านมา ณ ที่นี้

[ARAYASOMBAT]

ตัวอย่างรูปเหมือนหลวงปู่ครูบาครอง ขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว และ 9 นิ้ว ใต้ฐานบรรจุจีวร เกศา และเหรียญหลังอย.เนื้อทองเหลือง

หน้าตัก 5 นิ้ว ( 99 องค์) ราคาจอง 2500 บาท
 หน้าตัก 9 นิ้ว ( 19 องค์) ราคาจอง 8000 บาท

ปิดจอง 25 พ.ค. 59