หลวงปู่พระมหาคำแดง ฐานะทัตโต ?>
ชมรมอนุรักษ์พุทธศิลป์แห่งภาคอีสาน
The Buddhist Art Conservation Club Of Esan (North Eastern Part Of Thailand)
22 พฤศจิกายน 2567, 19:31:45 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  

กติกาในการ เช่า-แลกเปลี่ยนพระเครื่อง | พระเครื่องเมืองอุบลราชธานี | แจ้งปัญหาการใช้งาน
แจ้งเรื่องการยืนยันตัวตนสำหรับผู้ที่จะให้เช่าพระเครื่องฯ | วิธีสมัครสมาชิกเว็บ

หน้า: 1 2 [3] 4   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: หลวงปู่พระมหาคำแดง ฐานะทัตโต  (อ่าน 78187 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
phusit
Newbie
*

พลังน้ำใจ : 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 1 : Exp 40%
HP: 0%



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #30 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2555, 22:00:17 »

ขอเชิญทุกท่านร่วมงานปลุกเศกและเช่าบูชา พระปิดตามหาพุธคุณ รุ่น ฉลองสมณศักดิ์ หลวงปู่คำแดง ฐานทตโต เพื่อสมทบทุนสร้างประตูโขงและกำแพงแก้ว ณ วัดคัมภีรวาส ต.นาพิน อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ในวันเสาร์ที่ 25  กุมภาพันธ์ 2555

บันทึกการเข้า
เต้ อุบล
พุทธศาสนิกชน ฅนรักษ์ธรรมะ
Administrator
*****

พลังน้ำใจ : 634
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 982

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 25 : Exp 44%
HP: 0%



อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี

sabayd8861@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #31 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2555, 22:04:06 »

มีภาพวัตถุมงคลที่จะปลุกเสกมั้ยครับ และก็กำหนดการณืด้วยครับ  รบกวนด้วยนะครับ  wan-e005

บันทึกการเข้า
uthai08
Verified Member
*

พลังน้ำใจ : 138
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 136

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 9 : Exp 41%
HP: 0%




ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #32 เมื่อ: 23 กุมภาพันธ์ 2555, 23:07:35 »

ขอทราบรายละเอียดหน่อยครับ..วัดใกล้บ้าน..

บันทึกการเข้า
phusit
Newbie
*

พลังน้ำใจ : 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 1 : Exp 40%
HP: 0%



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #33 เมื่อ: 24 กุมภาพันธ์ 2555, 09:31:15 »




กำหนดการปลุกเศกพระปิดตา มหาพุทธคุณ รุ่น ฉลองสมณศักดิ์ หลวงปู่คำแดง วันเสารืที่ 25 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 9.09 น.
ณ วัดคัมภีรวาส ต.นาพิน อ.ตระการ จ. อุบลฯ  สร้างถวายโดย ผศ.ภูษิต ฉัตรวิริยาวงศ์ ; คุณชัยชาญตรีจันทร์ และคุณสมศักดิ์ พาศิริ
ออกแบบพิมพ์พระปิดตา โดย คุณ อำพล เจน  (สร้างจำนวน 1,228 องค์ เนื้อพิเศษ(ดำ) 311 องค์ เนื้อแดง 917 องค์ ถวายวัด
700องค์ (เนื้อพิเศษ 100 องค์ ราคาเช่าบูชา 250 บาท  เนื้อแดง 600 องค์ ราคาเช่าบูชา 150 บาท ) เงินที่ได้จากการเช่าพระทั้งหมดจะนำไปสร้างประตูโขงและกำแพงแก้ว
หมายเหตุ : ขอเชิญเช่าพระปิดตามหาพุทธคุณได้ที่วัด หรือติดต่อกรรมการวัด โทร 0884666619

บันทึกการเข้า
เต้ อุบล
พุทธศาสนิกชน ฅนรักษ์ธรรมะ
Administrator
*****

พลังน้ำใจ : 634
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 982

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 25 : Exp 44%
HP: 0%



อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี

sabayd8861@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #34 เมื่อ: 26 กุมภาพันธ์ 2555, 22:02:48 »



thxby7967คนโก้, เล็ก หัวตะเข้
บันทึกการเข้า
หมู่ต้อม
Sr. Member
****

พลังน้ำใจ : 118
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 103

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 8 : Exp 19%
HP: 0%



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #35 เมื่อ: 28 กุมภาพันธ์ 2555, 18:39:43 »

      ตั้งแต่เอาพระเครื่องของหลวงปู่มาลงให้ท่านศึกษา และประวัติของท่าน ตามแทบไม่ทันเลยวัตถุมงคลของหลวงปู่ท่านเริ่มเยอะมากแล้ว ไม่รู้ว่าจะเช่าหารุ่นไหนดี แต่ตอนนี้พระปิดตาของท่านมีน้อยมากครับ และราคากำลังหาเช่าได้อยู่  พระปิดตารุ่นนี้สร้างน้อย และในโอกาสเรื่อน สัมนศักดิ์ด้วย  และบล็อคก็ได้ทำลายเรียบร้อยแล้วจร้า  จะลงภาพให้ชมต่อไป


ผมร้านตระการพระเครื่องในนานเจ้าของพื้นที่ และชาวบ้าน ต้องขอขอบคุณทุกท่านด้วยนะครับที่ร่วมกันสมทบทุนสร้างกำแพงแก้ว เพราะว่าท่านอยากจะให้กำแพงแก้วเสร็จเร็ว ๆ ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไง ก็ช่วยเท่าที่ช่วยได้จร้า

อิอิอิอิอิอิ


* IMG_6384.jpg (142.97 KB, 600x750 - ดู 3947 ครั้ง.)

* IMG_6385.jpg (110.91 KB, 600x750 - ดู 3886 ครั้ง.)

* IMG_6383.jpg (124.76 KB, 600x750 - ดู 3776 ครั้ง.)

thxby7983เล็ก หัวตะเข้
บันทึกการเข้า
เต้ อุบล
พุทธศาสนิกชน ฅนรักษ์ธรรมะ
Administrator
*****

พลังน้ำใจ : 634
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 982

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 25 : Exp 44%
HP: 0%



อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี

sabayd8861@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #36 เมื่อ: 18 มีนาคม 2555, 20:49:10 »

ประวัติ
พระมหาคำแดง  ฐานะทัตโต
ชาติกำเนิด
        พระมหาคำแดง   นามสกุล  พึ่งบารมี  เกิดวันที่  13  ธันวาคม  พ.ศ. 2465  ตรงกับวันพุธ
 แรม 10 ค่ำ  เดือนอ้าย ปีจอ  ณ บ้านเลขที่  31 หมู่  10 ตำบลนาพิน  อำเภอตระการพืชผล  จังหวัดอุบลราชธานี
บิดาชื่อ นายถาวร  พึ่งบารมี มารดาชื่อ นางใหม่  พึ่งบารมี   มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน  8 คน  คือ
1.   นายทุย  เขียวแก้ว  ไปอยู่พม่า
2.   นายผุย  เขียวแก้ว    ไปอยู่นครพนม
3.   นางสอน   พึ่งบารมี    ถึงแก่กรรม
4.   นายพร   พึ่งบารมี    ไปอยู่ประเทศลาว
5.   พระมหาคำแดง  ฐานะทัตโต
6.   นางสร้อง   พึ่งบารมี   ไปอยู่เขมราฐ
7.   นางบุญเสริม  พึ่งบารมี   ไปอยู่ประเทศลาว
8.   นายเฉลิม    พึ่งบารมี  ไปอยู่ประเทศลาว
ก่อนมาเกิดนางใหม่ฝันว่ามีพระธุดงค์เดินมามอบหนังสือใบลานก้อมให้ก็หนีไป  ต่อจากนั้น
นางใหม่ก็ตั้งครรภ์  10 เดือน  แล้วก็คลอดออกมาเป็นชายตัวเล็กนิดเดียวไม่แข็งแรง  บิดาจึงเอาไปถวาย
พระอาจารย์ใหม่  บัวแดง  ในวัดให้ท่านผูกข้อมือเอาเป็นบุตรจึงได้เลี้ยงพอโตขึ้นมาอายุ 9 ขวบ ก็ได้เข้า
โรงเรียนประชาบาล  ตำบลนาพิน  จบ ป.4  สอบชิงทุนได้ทางศึกษาอำเภอ นายฮง  มณีภาค   ได้ส่งไปเรียน
ที่โรงเรียนกสิกรรม ( ท่าวังหิน ) นายถาวร ผู้บิดานำขอลาเอามาให้บรรพชาเป็นสามเณรในปี พ.ศ. 2479 - 2499 อยู่วัดคัมภีราวาส  พ.ศ. 2480  ย้ายไปอยู่วัดสิงหาญ สะพือ กับพระอุปัชฌาย์ โทน  พ.ศ. 2481  ออกเดินธุดงค์ไปอยู่ภูขาม   แล้วไปจำพรรษา อยู่วัดบรูพาในเมืองอุบล  ต้องมีเป็นธรรมยุตินิกาย  พ.ศ. 2481-2483   
อยู่ตำบลนาจิก  จังหวัดอำนาจเจริญ สอบนักธรรมชั้นโทได้  พ.ศ. 2485  อุปสมบท อยู่วัดฉิมพลี   อำเภอเมือง  จังหวัดสกลนคร   พ.ศ. 2486 ย้ายลงมาเรียนบาลีไวยากรณ์อยู่วัดศรีโพธิ์ชัย ขุหลุ พ.ศ. 2491 ไปสอนบาลีไวยากรณ์ อยู่วัดกลาง อำเภอเขมราฐ  พ.ศ. 2495  ขอเข้าสอบบาลีประโยคป.ธ.3  พ.ศ. 2496   ไปอยู่วัดกรมธรรม์  จังหวัดเมืองพิษณุโลก   พ.ศ. 2500  อยู่วัดศรีวนาราม  จังหวัด เมืองพิษณุโลก   พ.ศ. 2501   ย้ายมาอยู่วัดพาราณสี ตำบลนาพิน   ออกพรรษาแล้วจึงลาสิกขาไปแต่งงานกับนางภู  พึ่งภพ   ได้บุตรด้วยกัน  7  คน
1.   นางสาวศุภลักษณ์  พึ่งบารมี
2.   นางสาวกรกมล   พึ่งบารมี
3.    นางสังวาล   สร้อยคำ   ไปอยู่ท่าบ่อแบง
4.   นางสาวบุษบา  พึ่งบารมี 
5.   นายสฤษ     พึ่งบารมี   ทำงานอยู่กรุงเทพมหานคร
6.   นายอุทัย  พึ่งบารมี   ถึงแก่กรรม  พ.ศ. 2547
7.   นางนาฏยา   ปรารถนา   มีครอบครัวอยู่ศรีสะเกษ

บันทึกการเข้า
เต้ อุบล
พุทธศาสนิกชน ฅนรักษ์ธรรมะ
Administrator
*****

พลังน้ำใจ : 634
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 982

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 25 : Exp 44%
HP: 0%



อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี

sabayd8861@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #37 เมื่อ: 18 มีนาคม 2555, 20:49:31 »

เมื่อวันที่  6  สิงหาคม   พ.ศ.  2530    นายคำแดง   พึ่งบารมี   ป่วยหนักพวกญาตินำส่งโรงพยาบาลสรรพสิทธิ์ประสงค์อุบล   หมอทำการผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออกทิ้ง และก็ตัดออก   นายคำแดง 
จึงได้สละฆราวาสออกบวชเมื่อวันที่  31  มกราคม  พ.ศ. 2532  ที่วัดกุญชราราม  ตำบลขุหลุ 
อำเภอตระการพืชผล 
มีพระครูไพรโรจน์ปรีชากร เป็นพระอุปัชถาย์   
พระครูภัทรญาณปยุต  เป็นพระกัมมวาจาจารย์
พระครูสิริธรรมมากร   เป็นพระอนุสาวนาจารย์ 
 อุปสมบทแล้ว   ออกไปสร้างวัดบ้านโนนฮาง   หมู่ที่ 9 ตำบลนาพิน  อำเภอตระการพืชผล   พ.ศ. 2533  สอบบาลีประโยค  1-2 ได้  พ.ศ. 2538  สอบประโยค  ป.ธ.3 ได้   พ.ศ. 2541 ได้รับแต่งตั้งไปเป็น เจ้าอาวาสวัดคัมภีราวาส  ตำบลนาพิน  อำเภอตระการพืชผล  จังหวัดอุบลราชธานี  จนกระทั่งทุกวันนี้ 

บันทึกการเข้า
เต้ อุบล
พุทธศาสนิกชน ฅนรักษ์ธรรมะ
Administrator
*****

พลังน้ำใจ : 634
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 982

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 25 : Exp 44%
HP: 0%



อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี

sabayd8861@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #38 เมื่อ: 18 มีนาคม 2555, 20:51:11 »

ตอนออกธุดงค์
เป็นสามเณรอายุ 15 ปี อยู่หลังภูขามเป็นเวลา  1 เดือน  นั่งสมาธิดวงจิตได้ออกจากร่างเหาะไปทั่วประเทศตอนใกล้สว่างจึงกลับมาเข้าร่าง  ตอนอยู่วัดบรูพาอุบล  เป็นสามเณรร่วมกันคือ สามเณรพุธ
( หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ) ออกพรรษาแล้วก็เดินธุดงค์  ท่านอาจารย์มั่น  ภูริทัตโต  ไปอยู่วัดสุทธาวาสเมืองสกลนคร  สามเณรแดงไปขอนแก่น  มหาสารคาม   พ.ศ. 2496  ปีมะเส็ง   ออกจากวัดโพธิ  เมืองเขมราฐ 
เดินด้วยเท้าไม่สวมรองเท้าลงไปนมัสการศพพระครูบริหารเกษมรัฐ  อดีตเจ้าคณะอำเภอเขมราฐ  ที่วัดบรูพา  เมืองพนา แล้วเดินลงไปเมืองอุบล โดยสารรถไฟไปลงสระบุรี   เดินทางจากสระบุรีด้วยเท้าเปล่าๆไม่สวมรองเท้าไปทางพระพุทธบาท  ชมวิวภูเขาที่มีหินสีขาวงามทางขวามือ  ได้ยินเสียงปืนยิงออกมาจากป่า  ตกใจกลัวตายเหมือนกันนะ  เพราะยังเป็นปุถุชนอยู่ เลยนึกภาวนาว่า  พุทธังสะระณังคัจฉามิ  ธัมมังสะระณังคัจฉามิ  เรื่อยๆไป  ลูกปืนไม่ถูกสักลูกเลย  ดีมากนั้นคือ แก้ว  กาลูกป้องกันตัว  พอเดินไปถึงพระพุทธบาท  ก็ขึ้นไหว้พระพุทธบาท ลงมาจากพระพุทธบาท ก็ไปลพบุรีไปพักนอนที่วัดบ้านโคกกระเทียม 1 คืน จากวัดโคกกระเทียมก็ขึ้นรถไฟชั้นที่ 1 ไปลงพิษณุโลกพักวัดใหม่อภัยยาราม  ตื่นเช้าไปวัดกรมธรรม์ จำพรรษาที่นั่น  พรรษาที่ 9 ไปเที่ยวสุโขทัยไปจนถึงตาก เดินข้ามน้ำปิงไปพักวัดบ้านม่วงส้ม  ตื่นเช้าหลวงตาให้สามเณรสองรูปนำส่งไปถึงเขาสองพี่น้อง  สามเณรจึงลากลับ  พระคำแดงจึงเดินเข้าภูเขาสองพี่น้อง เดินตามแม่น้ำคะแดแม่ฮ้อ  แล้วปีนขึ้นฝั่งถึงจอมดอยฟังเสียงชะนีร้องโหยหวน  เดินตามแม่น้ำถูกหินคมกีดนิ้วเท้าจนเลือดออกทั้ง 5 นิ้ว ทั้งสองเบื้อง จึงไปถึงสถานีตำรวจแม้ช้อ  ได้ยินเสียงแคน  เสียงรำของตำรวจเขาสนุกมาก   แล้วก็ไปพักบ้านตำรวจมูล  กลางภูเขาเป็นคนลาวเหมือนอีสาน  ตอนกลางคืนฝนตกใหญ่  ชาวบ้านไป ยับเด้ามาย่างขายพูดไม่รู้ภาษา  คำว่า ยับเด้า  คือจับอึ่งอ่างนั่นเอง   พระคำแดงฉันข้าวเอกา  ไม่ฉันเนื้อ ฉันแต่ข้าวจ้าวกับเกลือ ฉันแล้วก็เดินขึ้นเขาถนนธงชัย  กว่าจะถึงจอมเขาก็ 12.00 น.  ข้างหลังเขาเป็นถนนราบงามเป็นดินทราย  มีต้นมะนาวศรีเป็นป่าทึบบุกไปถึงแม่น้ำปางอ้า  มีต้นมะนาว 3 ต้นอย่าง บนพะลานป้องน้ำเลยเก็บเอาเต็มย่ามล้วนแต่ผลสุกเหลือง มีมะเขือทุกชนิด  มีผักหอมจีน  ผักหอมหัว  และมะเขือพวง ผักหนอกและหญ้าแห้วหมูบนหลังเขา  มีกอไผ่ลำโตเท่าต้นตาล  แต่เขาไม่เลือกไม้ไผ่   เขาเรียกไม้หก

บันทึกการเข้า
เต้ อุบล
พุทธศาสนิกชน ฅนรักษ์ธรรมะ
Administrator
*****

พลังน้ำใจ : 634
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 982

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 25 : Exp 44%
HP: 0%



อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี

sabayd8861@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #39 เมื่อ: 18 มีนาคม 2555, 20:52:16 »

แล้วก็มีต้นปาลม์ใหญ่ๆสูงท่วมหลังเขามีกอไม้เรียงรายเหมือนกอไม้เตียงไฟ  แต่เขาเรียกไม้ส่างผา เป็นป่าข้างหลังเขา   เดินตามเขาถนนธงชัยไป  จนพลบค่ำเวลา 18.00 น.  ถนนธงชัยหมด  เหมือนคนปัวไม่เสร็จ  ก็เดินลงเหมือนลงฝั่งแม่น้ำ  เขาเรียกว่า ? ปาหลด ?  ความจริงก็คือ บ้านผาลด นั้นเอง  ต่อจากนั้นก็ไม่หยุดยังเดินบุกป่าไปตามสันเขาอาศัยสายโทรเลข  เขาเรียกสายลวดไปถึงหินกอง    ห้วยพล มีแต่พลูชนิดกินหมากไปถึงห้วยส้าน  บ้านนี้ใหญ่  เขาจับชะนีใส่เข่งจะไปขายตัวละ  200 บาท   จากนี้ออกทุ่งไปแปลกกว่าแปลกเพราะเวลา 18.00 น.  พอออกทุ่งมองเห็นดวงตะวันมีหญิงสาวใส่ชุดแดงเดินออกท่าเพื่อตักน้ำ   คำแดงก็ได้ถามหาวัดว่าวัดอยู่ไหน   เขาตอบว่า  ? ตำบลแม่ละเมา   งงเพราะไม่ตรงคำถาม   เลยเดินผ่านบ้านไปเข้าป่าอีก  เกิดพายุขึ้นมาจนคันร่มหัก  เลยเข้าพักที่กอไผ่ลมหยุดจึงเดินต่อ   ข้างหน้าเป็นเขาสูงได้ยินเสียงระนาดอยู่บนหลังเขาจึงขึ้นไปพอถึงหลังเขาก็เห็นดวงตะวันยังอยู่บนฟ้าจึงไปถึงวัดอ่านว่า ? วัดแม่ละเมา ? เข้าไปพักบนกุฏิมีสามเณร  15  รูป ต้อนรับดีมากเข้ามากราบทีละคน  9 ครั้งแล้วถามว่า ปี้ตุ๊ลุกใดมาก๊ะ เลยตอบเขาว่า ลุกพิษณุโลกมา   ปี้ตุ๊ไปใด๋ก๊ะ ไปแม่สอด  บอกแล้วเณร 1 ก็กราบ 9 ครั้งถามคำเดียวกัน  คิดดูซิ 15 เณรจะนานเท่าใด   พระคำแดงถามเณรว่า      ที่วัดนี้มีพระกี่องค์  เณรตอบว่า 15  อ้อ พระ 15  เณรเล่ามีเท่าใด   เณรตอบ  15  ก็เป็น 30 ละซิ  เณรตอบ       บ่ใจ่ก๋า  - บ่ใจมันจะเป็นใจ่หือ  พระ 15  เณร  15  ต้องเป็น 30  เณรบอกว่า  พระจ๊ะใด๋  เณรก็จะอั้น  เณรจ๊ะใด๋ เณรบอกตุ๊บ่อมี-คูบามีไหม  -คูบามีองค์เดียว-คูบามีไปไหน   คูบาไปเมืองเถินยังบ่อมาเก๊า  ต่อจากนั้นก็เลยพักนอน เณร 15 คน  นอนใต้ตีน 5 คน บีบนวดขา 5 คน นอนซ้ายนวดแขนซ้าย  5 คน  นอนขวานวดแขนขวาจนหลับ   ตอนเช้าเณรคนหนึ่งตีระนาด  ไม่ตีระฆังพวกโยมพากันเอาข้าวเหนียวมาใส่กล่องของวัด  15  กล่อง  อาหารใส่ถ้วยวัดมีโต๊ะแทน  เณรยกมาถวายเลย   เณรเขาไม่ฉันพร้อม  พระฉันแล้วเณรจึงเข้ามากินเหมือน
เด็กวัด   เขาห่อข้าวให้เรียบร้อย  ดูเขาฉันข้าวไม่มีระเบียบ  นั่งกะโหย่งนั่งคุกเข่าฉัน   อิ่มก่อนออกก่อนกับถ้วย
1 ใบ  ออกจากวัดแม่ละเมาก็เดินข้ามแม่น้ำเมา ใส่ตำบลพระออ  ขึ้นเขาพระออ  ตะวันเที่ยงยังไม่ถึงจอม   มองเห็นดวงตะวันห่างจากศีรษะประมาณวาเดียวเท่านั้น  เดินขึ้นตามตะวันพอถึงจอม  ดวงตะวันกะเดินขึ้นฟ้าสูงเดินไปถึงศาลาน้ำดิบ  อยู่บนหลังเขาพระวอแต่ความจริงไม่ใช่น้ำดิบ ก็ภาษาเขา ภาษาเราคือก็น้ำทิพย์เป็นบ่ออยู่หลังเขาคนได้อาศัยกินมียอดเขาสีดำงอกขึ้นสูงแล้วก็พังลงขนาดเรือน มีศาลาเจ้าเท่าเล้าข้าว มีต้นขนุนอยู่ข้างศาลเจ้าต้นใหญ่มาก  คนไปก็ไหว้ศาลเจ้าจึงไป  มีกอไม้ส่างผาเป็นป่ายาวเหยียดตามพะลานหิน  เดินไปอีกประมาณ  200 เมตร ก็เป็นทางลงมีน้ำไหลตกจากหลังเขาเรียกว่า ห้วยหินฝน  คือหินลับมีดนั่นเองน้ำสายนี้เลี้ยงชาวแม่สอดคือ เขาทำเป็นรางน้ำไหลเข้าในเมืองไปทั่วทุกหลังใช้อาบกินเพราะแม่สอดเป็นแผ่นดินน้ำมันก๊าส  ขุดบ่อลงไปมีแต่น้ำมันก๊าซ  ไปพักอยู่วัดเมืองสอดแล้ววันหลังจึงได้ข้ามแม่น้ำเมยไปพม่าโดยเรือเขาไม่เอาเงินจากพระ  เวลากลับมาเดินข้ามน้ำเมยเพียงครึ่งขาเท่านั้นแต่ต้องเดินเร็วเพราะทรายใต้น้ำมันไหลไม่เหมือนน้ำไหล  เขานิมนต์ไปต่อเมืองย่างกุ้ง แต่ไม่ไปแล้วจะไม่ได้กลับเหมือนพี่ชายและบ้านเมืองยังเกิดรบกันอยู่จึงกลับมาพักพิษณุโลกเป็นผู้ทำการแทนเจ้าคณะตำบลออกพรรษาแล้วก็กลับมาอุบล ถึง พ.ศ. 2501 มาพักอยู่วัดบ้านดอนฮางที่วัดราษฏร์อำนวย คราวหนึ่งแล้วก็เดินข้ามแม่น้ำโขงไปพักอยู่ที่หนองคันยูกลางป่าบิณฑบาตที่บ้านศาลาเลี้ยว  3 เดือน  แล้วก็กลับคิดจะไปลงกรุงเทพอีก   แต่ชาวบ้านนาพินมานิมนต์ให้อยู่
วัดพาราณสี   ตำบลนาพิน   ท่านพระครูสุนทรวรกิจ  เจ้าคณะตำบลนาพินให้เป็นอาจารย์สวดนาค  คำสั่งสอนของบิดาท่านห้ามไม่ให้เป็นอาจารย์สวด  เมื่อละเมิดแล้วจึงขอลาสิกขาออกไปตั้งวงหมอลำหมู่ให้ชื่อว่า ? คณะคำแดงสงเคราะห์ ? วงที่สองชื่อ ? คณะคำแดงเฉลิมศิลป์  นาพินพัฒนา? ต่อมาก็ได้รับจ้างเป็นไปรษณีย์ตำบลนาพิน   อยู่สองสามปีป่วยจนได้เข้าผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออก
ทิ้ง จึงได้ออกบวชแบบสิทธิธัตตะโดยไม่บอกโดยพวกบ้านโนนแดงคือผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ตำบลนาพินติดตามนำเอามาอุปสมบทที่สีมาวัดกุญชรารามดอนทับช้างจึงได้ออกไปสร้างวัดอยู่บ้านโนนฮาง ( โนนแดง ) เมื่อวันที่ 31 มกราคม  พ.ศ. 2532  ตลอดมาถึงพ.ศ.  2542   จึงได้ย้ายมาอยู่วัดคัมภีราวาสเท่าทุกวันนี้   อายุ 90  ปี   
23  พรรษา 

  

บันทึกการเข้า
เต้ อุบล
พุทธศาสนิกชน ฅนรักษ์ธรรมะ
Administrator
*****

พลังน้ำใจ : 634
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 982

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 25 : Exp 44%
HP: 0%



อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี

sabayd8861@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #40 เมื่อ: 18 มีนาคม 2555, 20:53:10 »

ปฐมโคตรของมหาคำแดง พึ่งบารมี

โดย นายถาวร  พึ่งบารมี  ผู้บอกเล่า
            มีภูเขาลูกหนึ่งตั้งอยู่ในประเทศลาว อินโดจีน  ของฝรั่งเศส  และมีหมู่บ้าน  บ้านหนึ่งตั้งอยู่บนหลังเขาลูกนี้และหมู่บ้านนี้ภาษาลาวเรียกว่า  ?  บ้านภูหนองแต้ ? แต่คนที่อยู่ในบ้านนี้ไม่มีคนลาวแม้แต่คนเดียว  คนในบ้านเขาเป็นเชื้อชาติข่าป่าเหล็ก  มีภาษาเหมือนภาษาส่วยที่อยู่บ้านตะกาจ  จังหวัดศรีสะเกษ   บ้านสตึม  จังหวัดสุรินทร์  และโส่  ตำบลลดงหลวง   จังหวัดมุกดาหาร    ชาวข่าพวกนี้ เขามีวิชาอาคมเก่งมาก  ทั้งผู้หญิง ทั้งผู้ชาย ทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่    เขาสามารถทอบแผ่นหนังควายแผ่นโตๆให้เล็กแล้วเสกไปไว้ในท้องคนที่เขาเกลียดชังได้   ผู้ชายไม่นุ่งไม่ห่มเสื้อผ้าเลย    เขาใช้ผ้าเศษเล็กๆห่อเฉพาะตัวอวัยวะเพศไว้เท่านั้น   มีผมยาวไม่เคยตัด   เปลือยกายไม่รู้ร้อนไม่รู้หนาว บริโภคหัวกลอยและหัวมันในป่าเลี้ยงชีพและเนื้อกระบือมีกำลังแรงเหมือนสัตว์ป่า  ส่วนผู้หญิงสาวๆสีเนื้อขาวเหลืองสวยเหมือนอภัสรา เปลือยกายนั่งอาบน้ำอยู่ตามท่าน้ำที่ฝั่งเป็นพะลานหิน   เคี้ยวหัวขมิ้นแล้วคายใส่ฝ่ามือถูทาตามร่างกายไม่ใช้สบู่  เขาไม่เคยใช้เงิน   ตามเนื้อตัง แขน ขา ของสาวนั้นอ่อนสัมผัสดูนิ่มมาก   เพราะมีขนเส้นอ่อนๆละเอียดมาก  จนมองไม่เห็น  และมีตัวเล็นตัวเล็กๆสีชมพู ตัวเหมือนตัวเหาซ่อนอยู่ขนนั้น   คนชาติอื่นจะไปกอดชมดมจูบเขาได้ตามชอบใจเขาไม่หวง   แต่ล่วงเกินอวัยวะเพศเขาไม่ได้จะผิดผี   เขาไม่ยอมเป็นอันขาด ถ้าชายใดอดไม่ได้ไปล่วงเกินไข่แดงเขาต้องถูกปรับเสียเงิน  5  บาท และจะต้องแต่งงานเอาเขาเป็นภรรยาอยู่กับเขาต่อไป   ทั้งเสื้อผ้าเหมือนผู้ชายขาเดียวจะถูกตัวเล็น ( เม็น )เกาะตามผ้าดูดกินเลือดตาย  พวกผู้ชายในหมู่บ้านข่าป่าเหล็ก  ชอบพากันสานกระติบสำหรับเป็นกล่องใส่ข้าวไปเที่ยวขายในต่างแดน   เพื่อแลกเอาเงินมาฝังไว้  ไม่จ่ายไม่ซื้ออะไรในครั้งนั้น  วันหนึ่งพวกชาวเขาเหล่านั้นพากันลงจากภูเขาเอากระติบมาเที่ยวขายในเขตแคว้นสยาม  ได้มาถึงบ้านสะพือ อันเป็นเมืองตระการพืชผล  เที่ยวขายกระติบจะเป็นด้วยอานิสงส์มาแต่บุพเพสิเนหา  หรือบุพเพสันนิวาส  ชาติก่อนอย่างไรไม่มีใครรู้เห็น   ชายหนุ่มพ่อค้าเชื้อชาติข่าป่าเหล็กกับหญิงสาวคนหนึ่งในบ้านสะพือ  เห็นกันก็รักใคร่กันเลยได้แต่งงานกัน  ชายนั้นชื่อ
 ? นายมี ?  พวกข่าพวกนี้กลับหมดเหลือแต่ นายมีอยู่กับภรรยาๆให้นุ่งเสื้อผ้าเหมือนชาวบ้านและตัดผมโกนหนวดเคลาออกให้เป็นคนไทอีสานต่อไป  อยู่ต่อมาก็ได้ลูกด้วยกันคนหนึ่งให้ชื่อ ? เด็กชายบาร์ ( BAR ) 
 เมื่อเด็กชายบาร์ อายุ 20 ปี  มารดาก็ให้อุปสมบทเป็นภิกษุตามประเพณีชาวอีสาน   เมื่อพระภิกษุบาร์บวชแล้วเรียนพระธรรมวินัยจากพระอุปัชฌาย์ อาจารย์และให้โยมบิดามารดาพาไปเยี่ยมปู่ย่าอาวอาบนภูหนองแต้
และได้เรียนวิชาอาคมจากปู่ทุกสิ่งทุกอย่างมีวัวธนูถึงเก้าตัวไว้รักษาตัวเมื่อกลับลงมาถึงบ้านสะพือ  ก็หาพระอุปัชฌาย์ขออนุญาตลาสิกขาเป็นหมอลำ  เที่ยวรับจ้างลำในงานกฐินและงานบวชนาคต่างๆต่อมาก็ได้แต่งงานกับนางสาวแว่น บ้านนาพิน  ( เอาบาร์ใส่แว่น )   นางสาวแว่นได้กับทิดบาร์มีลูกด้วยกัน 3 คน คือ
1.   นายอุ่น ( หมอลำอุ่นคัง ) นักเลงหัวโตตายในคุก
2.   นายทัน ( ตาย )
3.   นายคำสิงห์  ( ตาย )

บันทึกการเข้า
เต้ อุบล
พุทธศาสนิกชน ฅนรักษ์ธรรมะ
Administrator
*****

พลังน้ำใจ : 634
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 982

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 25 : Exp 44%
HP: 0%



อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี

sabayd8861@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #41 เมื่อ: 18 มีนาคม 2555, 20:53:36 »

นายทิดบาร์มีความรู้สมุนไพรยารักษาโรคไข้ป่วยทุกชนิด   ในครั้งนั้นนางสาวสา  ลูกสาวคนที่ 4 ของท้าว
บุตรวงศ์ ( หมอลำ )ป่วยเป็นไข้ตัวเหลือง  จึงไปเชิญทิดบาร์มารักษานางสาวสา  เมื่อนายทิดบาร์รักษา
นางสาวสาหายแล้วเลยสู่ขอเอาเป็นภรรยา   เมื่อนายทิดบาร์ได้อยู่กินกับนางสาต่อมาก็ได้ลูกด้วยกัน 3 คน คือ

1.   เด็กชายชม( ตาย )
2.   เด็กชายถาวร ( บิดาของผู้เขียน )
3.   เด็กหญิงคำหล้า ( ตาย )
ต่อมานางสาได้มีครรภ์อีก  ถึงกำหนดวันคลอดก็คลอด  แต่คราวนี้เมื่อคลอดออกแล้วนางสาก็ตาย ลูกก็ตาย   เด็กชายถาวรคนเดียวเหลืออยู่กับบิดา  เด็กชายถาวรเกิดวันพฤหัสบดีเดือนแปดปีมะโรง  พ.ศ. 2423  พ.ศ. 2429 ปีวอก  นางสาถึงแก่กรรม  นายทิดบาร์ได้พาเด็กถาวรไปอาศัยอยู่ที่บ้านปู่ย่าบนภูหนองแต้  ประเทศลาว   เด็กชายถาวรอายุ 4 ขวบก็เรียนวิชาอาคมจากปู่ย่าอาอาวป้าลุง  และพูดภาษาข่าป่าเหล็กได้คล่องแคล้วเพราะในบ้านนั้นไม่พูดภาษาอื่น เช่น จีเนีย ( ไปไหน ) จีจาโดย ( ไปกินข้าว )  ( จีอำเปอดอ ) ไปอาบน้ำ ( เงยดอ ) 
กินน้ำ   เป็นต้น   เด็กชายถาวรอยู่บ้านภูหนองแต้นานเก้าปี  อายุ 15 ปี  ใหญ่โตเป็นหนุ่ม  พ.ศ. 2436  ปีมะเส็ง  นายทิดบาร์  จึงได้พานายถาวรกลับมาอยู่บ้านโคกน้อย   ตำบลโคกจาน  อำเภอตระการพืชผล  ได้แต่งงานกับนางเคนในบ้านโคกน้อย  ส่งนายถาวรไปไว้กับป้าลุงที่บ้านนาพินให้บวชเป็นสามเณรอยู่ในวัดนาพิน   
นายทิดบาร์อยู่กินกับนางเคนมีลูกเป็นหญิงสองคนคือ  เด็กหญิงจันทา และเด็กหญิง  ชาลี   ต่อมาทิดบาร์
ก็ได้รับพระราชทินนามว่า ? ท้าววงศ์จันทรา ?  พ.ศ. 2442  ปีกุน สามเณรถาวรก็ได้อุปสมบทเป็นภิกษุ ฉายาว่า ถาวโร  พ.ศ. 2443  ปีชวด   พระภิกษุถาวโร  ถาวรได้ย้ายไปอยู่วัดบ้านจานลาน   ตำบลจานลาน   เรียนบาลีมูลกัจจายะนะ    พ.ศ. 2444  ปีฉลู  พระภิกษุถาวรได้กลับมาพัฒนาวัดพาราณสีบ้านนาพิน   สร้างกุฏิวิหาร และทำการสอนอักษรไทยแก่ภิกษุสามเณรในวัดให้อ่านเขียนได้   และในปีนั้นเองเกิดศึกองค์ผีบุญผีบาป ยกพรรคพวกมาจากเมืองเขมราฐมาพักที่บ้านขุหลุ   เจ้าเมืองอุบลส่งตำรวจไทยมาปราบ  12  คน   ถูกพวกองค์
ฆ่าตายหมดเหลือตำรวจคนเดียวหลบหนีไปกราบทูลเจ้าเมืองอุบล   พวกองค์ก็ยกลงมาพักวัดคัมภีราวาส
บ้านนาพินอาบน้ำ   ชาวบ้านนาพินฆ่าวัวเลี้ยงพวกเขาตื่นเช้าวันใหม่เขาก็ยกไปรวมกันที่โนนโพ  ทุ่งตะวันตกบ้านสะพือ   กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์   เจ้าเมืองอุบลได้ยกทัพทหารปืนใหญ่เท่าลำตาลมาปราบลูกแรกจึงให้ข้ามพวกข้าศึก  ลูกที่สองให้ตกกลางข้าศึกตายหมด  ลูกที่ 3  ลูกปืนได้ตัดต้นยางใหญ่  ขาดสะบั้นลงพวกองค์ตายหมด   แม้แต่หญิงสองคนไปส่งข้าวผัวซ่อนอยู่ในโพรงไม้ก็ตายด้วย   เมื่อปราบข้าศึกสงบแล้ว   
เจ้าคุณเทศาภิบาลก็ออกสำรวจประชาชนตามหมู่บ้านทุกครัวเรือนตั้งนามสกุล  หมายเลขที่ให้ทุกครัวเรือน 
ใครต้องการพระราชทินนามก็จ่ายเงินคนละ 6 บาทก็ได้ยศถาบรรดาศักดิ์เป็นท้าว และพระครูถาวรก็ได้ลาสิกขา  ในปีต่อมาได้แจ้งต่อเจ้าคุณเทศาภิบาลบอกชื่อ บิดาว่า  ? นายบาร์ ?   พ่อของนายบาร์ชื่อ    ? นายมี ?   ท่านจึงตั้งนามสกุลให้ว่า  ? พึ่งบารมี ?  ต่อมาถึงลูกและหลานทุกวันนี้  พ.ศ. 2451  นายถาวร  พึ่งบารมี  ได้แต่งงาน
กับนางผุย  เหล่าดี  น.ส. ผุย  เหล่าดี  ลูกสาวของนายคำภา  บ้านป่าขี  เป็นหญิงสาวที่สวยงามสมัยนั้น  อาจารย์ถาวรมีเงินจึงได้มาขอแต่งงานด้วย   พ.ศ. 2451  ปีวอก  นายถาวร ได้แต่งงานกับนางสาวผุย  เหล่าดี   พ.ศ. 2455   ปีชวด  จึงได้ลูกคนหนึ่งเป็นชายชื่อ  อ่อนตา  พึ่งบารมี  พ.ศ. 2458  ปีเถาะนางผุยก็คลอดลูกคนที่สองเป็นหญิงชื่อ  จำปา   นายถาวร  เป็นหมอลำ  เมื่อนายถาวรไปลำในงานต่างๆ   นางผุยก็หาชายอื่นนอนด้วย   นายถาวรจึงเก็บของจูงควายหนีไป   ปี พ.ศ. 2460  ปีมะเส็งนายถาวรจึงได้แต่งงานกับหญิงหม้ายคนหนึ่งซึ่งมีลูกชายสองคน  คือ เด็กชายทุย   และเด็กชายผุย  เขียวแเก้ว   นายถาวร  พึ่งบารมี  อยู่กับนางใหม่   เขียวแก้ว   มีลูก  6 คน คือ

บันทึกการเข้า
เต้ อุบล
พุทธศาสนิกชน ฅนรักษ์ธรรมะ
Administrator
*****

พลังน้ำใจ : 634
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 982

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 25 : Exp 44%
HP: 0%



อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี

sabayd8861@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #42 เมื่อ: 18 มีนาคม 2555, 20:54:05 »

1.   เด็กหญิงสอน ตายแต่อายุได้  3  ขวบ
พ.ศ.  2463  ปีวอก   นางใหม่คลอดลูกคนที่  4  ชื่อ  เด็กชายพร  พึ่งบารมี
พ.ศ.  2465  ปีจอ    นางใหม่ก็คลอดลูกคนที่  5  ชื่อ เด็กชายสุนทร  พึ่งบารมี  ( ผู้เขียน )
พ.ศ.  2468   ปีฉลู  นางใหม่ก็ได้คลอดลูกเป็นหญิง  คนที่ 6 ชื่อ จำปี  ( ดอกสร้อย )
พ.ศ.  2470   ปีเถาะ   นางก็ได้คลอดลูกคนที่ 7 เป็นหญิง ชื่อ   จอมศรี
พ.ศ. 2472  ปีมะเส็ง   นางใหม่ก็ได้คลอดลูกคนที่ 8 เป็นชาย  ชื่อ ? เฉลิม ?
ลูกนางใหม่ทั้งแปดคนนี้  มีชื่อเดิมคงอยู่  5 คน  เท่านั้น  คือ ทุย  ผุย  พร  เฉลิม   ส่วนสุนทรเขาเรียก
 ? คำแดง ?   จำปี  เขาเรียก  ? สร้อย ?  และ  จอมศรี  เขาเรียก  เสริม  ชื่อเดิมในสูติบัตรเลยหายสูญไม่เหลือเลยเฉพาะเด็กชายสุนทร (  คำแดง )  พึ่งบารมี  พ.ศ. 2496  เรียนจบประถมปีที่ 4  สอบชิงทุนได้   
ก็ได้ไปเรียนต่อมัธยมปีที่หนึ่ง   ที่โรงเรียนกสิกรรม ( ท่าวังหิน )   นายถาวร   ผู้บิดาไม่ให้เรียนติดตามนำไปขอเอาตัวเด็กชายคำแดงออกมาแล้วส่งเข้าวัดให้บวชเป็นสามเณรแล้วสอนวิชาอาคมให้ท่องภาวนา  พ.ศ. 2480   นายถาววรได้เอาสามเณรคำแดงเรียนนักธรรมชั้นตรีสอบได้ พ.ศ. 2481  ออกธุดงค์ไปอยู่ตามป่าและภูเขา   เจริญสมณธรรม   เดือนหกก็ได้เข้าจำพรรษาในวัดบูรพา ในเมืองอุบลฯ   พ.ศ. 2484  อยู่เขตอำนาจเจริญ  กาฬสินธุ์  ขอนแก่น  พ.ศ. 2485  อุปสมบทเป็นภิกษุอยู่สกลนคร  พ.ศ. 2486-2486  เรียนบาลีไวยากรณ์อยู่วัดศรีโพธิ์ชัย ขุหลุ    พ.ศ. 2488   ปีระกา   ได้ขออนุญาตลาสิกขาเพราะป่วยหนัก   เดือน 6  แรม 1 ค่ำ   วันเสาร์ที่ 26   พฤษภาคม   พ.ศ. 2488   นางใหม่ถึงแก่กรรม   วันที่  18  กรกฏาคม พ.ศ.  2488   ปีระกา  นายถาวรก็ถึงแก่กรรม   นายคำแดงจึงหนีไปหาความสงบจิตอยู่บ้านาคิแลน   ฝากบ้านไว้กับป้าลุง  พ.ศ. 2489  พานายเฉลิม   น้องชายเดินตามป่า ไปอยู่  อำเภอนาหว้า   จังหวัดนครพนม   พ.ศ. 2490   ไปเที่ยวเขตจังหวัดอุตรดิตถ์ ไหว้พระแท่นศิลาอาสน์  พ.ศ. 2491   ได้อุปสมบทอยู่วัดเหนือ   เมืองเขมราฐ  เป็นครูสอนบาลีไวยากรณ์   พ.ศ. 2496    ปีมะเส็ง   ออกเดินทางไปพระพุทธบาท   ลพบุรี  พิษณุโลก    พ.ศ.  2500   ปีมะเมีย  ข้ามแม่น้ำเมยไปพม่า   พ.ศ.  2501   ปีจอ  ขอลาสิกขา  หาสร้างครอบครัว   มีบุตรธิดา 7 คน
1.   นางสาวศุภลักษณ์  พึ่งบารมี
2.   นางสาวกรกมล   พึ่งบารมี
3.    นางสังวาล   สร้อยคำ   ไปอยู่ท่าบ่อแบง
4.   นางสาวบุษบา  พึ่งบารมี 
5.   นายสฤษ     พึ่งบารมี   ทำงานอยู่กรุงเทพมหานคร
6.   นายอุทัย  พึ่งบารมี   ( ตาย )
7.   นางนาฏยา   ปรารถนา   มีครอบครัวอยู่ศรีสะเกษ

บันทึกการเข้า
เต้ อุบล
พุทธศาสนิกชน ฅนรักษ์ธรรมะ
Administrator
*****

พลังน้ำใจ : 634
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 982

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 25 : Exp 44%
HP: 0%



อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี

sabayd8861@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #43 เมื่อ: 18 มีนาคม 2555, 20:54:33 »

พ.ศ. 2530  นายคำแดงป่วยหนัก  ญาติได้นำตัวส่งโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์   หมอทำการผ่าตัด   เมื่อวันที่  6  สิงหาคม  2530   หมอได้ผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออกทิ้ง  เพราะมีก้อนเนื้อนิ่วในถุงน้ำดี  เมื่อวันที่  31  มกราคม  พ.ศ. 2532   นายคำแดง ก็ลาออกบวชที่วัดกุญชราราม  ตำบลขุหลุ  อำเภอตระการพืชผล 
มีพระครูไพรโรจน์ปรีชากร เป็นพระอุปัชถาย์   
พระครูภัทรญาณปยุต  เป็นพระกัมมวาจาจารย์
พระครูสิริธรรมมากร   เป็นพระอนุสาวนาจารย์ 


 บวชแล้วก็ได้สร้างวัดขึ้นที่บ้านโนนแดง  หมู่ที่ 9  ตำบลนาพิน   อำเภอตระการพืชผล 
 พ.ศ. 2532  สอบนักธรรมชั้นเอกได้
พ.ศ. 2533  สอบบาลีประโยค หนึ่งได้
พ.ศ. 2538   สอบบาลีประโยค ป.ธ. 3 ได้
พ.ศ.  2542   ได้รับแต่งตั้งไปเป็น เจ้าอาวาสวัดคัมภีราวาส  ตำบลนาพิน  อำเภอตระการพืชผล  จังหวัดอุบลราชธานี  จนกระทั่งทุกวันนี้
วันที่   23  กุมภาพันธ์  2551  ปีชวด   ป่วยเป็นอัมพาต
พ.ศ.  2546  ไฟไหม้กุฏิ
พ.ศ.  2547  ไป อยู่  อ. วานรนิวาส  จ. สกลนคร
พ.ศ.  2548   กลับมาพาชาวบ้านนาพิน  สร้างอุโบสถ   จนถึงปัจจุบัน

บันทึกการเข้า
เต้ อุบล
พุทธศาสนิกชน ฅนรักษ์ธรรมะ
Administrator
*****

พลังน้ำใจ : 634
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 982

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 25 : Exp 44%
HP: 0%



อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี

sabayd8861@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #44 เมื่อ: 18 มีนาคม 2555, 20:54:57 »

ปฐมโคตรของนางใหม่  สุดสี
      ในเบื้องต้นข้าพเจ้าได้เขียนไว้แล้วว่า  ?  หญิงสาวๆเชื้อข่าสวย ? และข้าพเจ้าก็ได้ไปเห็นด้วยตาตนเองในประเทศสาธารณรัฐประชาชนลาว   ตอนนั่งรถยนต์จากเมืองละครเพ็งมาบ้านเซบังเหียง    เมืองสองคอน   สวยงามเหมือนเพชรเยาวราชในหนังจริงๆแต่พูดไม่รู้เรื่อง   ตอนเขาลงจากรถเขาบอกคนรถเอาสิ่งของลงจากหลังคารถ   คนลาวแอ็ดรถไม่รู้ก็หัวเราะและพูดล้อเลียนตามภาษาของเขาสาวข่าจึงยิ้มพูดสำเนียงสาวว่า  ? ดอกกะเจี๊ยวนั้น ?  เขาจึงจับลงให้   กล่าวถึงโจรชาวอีสานในยุคนั้น   ชอบไปจับเอาเด็กหญิงลูกข่ามาขายแลกเงินเสมอมีเด็กหญิงลูกข่าสองคนพี่น้องที่ถูกโจรจับมาขาย แต่พากันหลบหนีดอนกลางคืน   ถูกเสือกินเหลือแต่หัวค้างอยู่กลางโคก  คนในเขตตำบลโคกจานไปพบหัวของเด็กนั้นอยู่คนละแห่งจึงมีชื่อไว้ว่า   โคกหัวอีข่าน้อย   โคกหัวอีป่าใหญ่   กระทั่งทุกวันนี้    มีอยู่ในเขตตำบลโคกจาน      เด็กหญิงเชื้อชาติข่าคนหนึ่งที่เขาจับมาขายให้ท้าวสุริโย    บ้านนาพิน    ท้าวสุริโยได้ไถ่ซื้อไว้ให้เป็นคนเลี้ยงช้าง  ลูกข่าคนนี้มีชื่อเดียวกันกับท้าวสุริโย   ท้าวสุริโยก็คือ  ? ทิดมั่น ? นั้นเอง  ข่าก็คือ ? อีมั่น ?    เมื่ออีมั่น โตเป็นสาวอายุ 16 ปี มีรูปสวยมีชายมาติดพันขอแต่งงานด้วย   ท้าวสุริโยจึงแบ่งที่ดินให้ปลูกบ้านอยู่อาศัย   และแบ่งที่นาหนองฟ้าผ่าให้เป็นที่ทำกินต่อมานางก็ได้ลูกที่ปรากฏชื่อ   3 คน คือ   1.นางเต่า   2. นางเป้า  3.นายทน
ในบ้านนาพินมีอีกตระกูลหนึ่งนายบ้านชื่อ ? ท้าวไชยแสง ?    เป็นตากวนบ้าน   มีลูกชาย  5  คน
1.   ท้าวเชียงนู     สุดสี
2.   เชียงอ่อน    สุดสี
3.   เชียงลี   สุดสี
4.   นางเคน   บุญน้อย
5.   เชียงคูน  สุดสี
ท้าวเชียงนู   เห็นนางเต่ามีรูปสวยงามเลยให้ท้าวไชยแสงไปสู่ขอเอานางเต่าเป็นภรรยา   อยู่ด้วยกันมาก็ได้ลูกด้วยกัน   4  คน
1.   นางใหม่  ( มารดา ของผู้เขียน )
2.   นายทหารไหม    สุดสี   ธิดาของปุ่ทองคำที่อยู่ด้วยกันที่วัดคัมภีราวาส  ( พ่อหลวงปู่ชวด )
3.   นายคำ    สุดสี
4.   นายสิง   สุดสี
ต่อมานางเบ้าเอานางใหม่ไปเลี้ยง    นางใหม่เกิดวันจันทร์   เดือน 7  ปีขาล   พ.ศ.  2433   
      พ.ศ.  2451   ปีวอก   นางใหม่ได้แต่งงานกับนายตัน   เขียวแก้ว
      พ.ศ.   2452   ปีระกา   ได้บุตร ชื่อ   นายทุย   เขียวแก้ว
      พ.ศ.  2454   ปีกุน   นางใหม่คลอดบุตรคนที่  2  ชื่อ  นายผุย  เขียวแก้ว
      พ.ศ.  2455   ปีชวด   นายตัน  ลวนลวมจะนางสาว ข่า  ลูกนางเบ้า  ถูกขับหนีไป
      พ.ศ.  2459    ปีมะโรง   นายถาวร  พึ่งบารมี   ได้แต่งงานกับนางใหม่
      พ.ศ.   2460   ปีมะเส็ง   นางใหม่ได้คลอดลูกเป็นหญิงชื่อ  สอน   พึ่งบารมี
      พ.ศ.  2463   ปีวอก   เดือนเมษาวันอังคารนางใหม่คลอดลูกเป็นชาย  ชื่อ ? พร ?
      พ.ศ.  2465   ปีจอ    วันที่  13  ธันวาคม  นางใหม่คลอดลูกเป็นชาย คือ  ผู้เขียน
***ขอบขอบคุณ      http://www.eoffice.mtk.ac.th/main/forum_posts.asp?TID=836***

thxby8303คนโก้
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.19 | SMF © 2006-2009, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!