ประวัติหลวงพ่ออ่อน โอติณโน วัดเพียมาตร ?>
ชมรมอนุรักษ์พุทธศิลป์แห่งภาคอีสาน
The Buddhist Art Conservation Club Of Esan (North Eastern Part Of Thailand)
21 พฤศจิกายน 2567, 23:45:03 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  

กติกาในการ เช่า-แลกเปลี่ยนพระเครื่อง | พระเครื่องเมืองอุบลราชธานี | แจ้งปัญหาการใช้งาน
แจ้งเรื่องการยืนยันตัวตนสำหรับผู้ที่จะให้เช่าพระเครื่องฯ | วิธีสมัครสมาชิกเว็บ

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ประวัติหลวงพ่ออ่อน โอติณโน วัดเพียมาตร  (อ่าน 19732 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
mohbantung
Full Member
***

พลังน้ำใจ : 53
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 72

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 6 : Exp 85%
HP: 0.5%



ดูรายละเอียด อีเมล์
« เมื่อ: 28 กรกฎาคม 2555, 19:31:46 »

ประวัติหลวงพ่ออ่อน โอติณโน
วัดเพียมาตร อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ


ขอนำประวัติ หลวงพ่ออ่อน โอติณโณ หรือพระครูประสิทธิ์วิทยาคม ออกมาเผยแพร่เพื่อให้เหล่าศิษยานุศิษย์ตลอดทั้งท่านที่เคารพศรัทธาในตัวหลวงพ่อได้ทราบโดยทั่วกัน
หลวงพ่ออ่อน โอติณโณ มีนามเดิมว่า นายอ่อน หารไชย (หาระไชย)เกิดเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2454 บิดาชื่อ นายบุญมา หารไชย (เซี่ยงเมียง)มารดาชื่อ นางทองจันทร์ หารไชย เกิดที่บ้านเพียมาตร หมู่ที่ 3 ต.หนองแค อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ มีพี่น้อง จำนวน 6 คน ดังนี้

1. นางสงค์ หารไชย
2. นายอ่อน หารไชย (พระครูประสิทธิ์วิทยาคม)
3. นายสี หารไชย
4. นายบุญมี หารไชย
5. นางคัมภีร์ หารไชย
6. นายคำดี หารไชย

อุปสมบทเมื่ออายุ 21 ปี ณ.วัดเพียมาตร เจ้าอธการ อ่วม วัดบ้านผึ้ง เป็นพระอุปชฌาย์ พระอาจารย์ สีทาเป็นพระกรรมวาจารย์ พระอาจารย์ น้อย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่ออุปสมบทแล้ว ได้ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย 2 พรรษาและศึกษาเล่าเรียนหนังสือใหญ่ มูลกัจจายน์(คัมภีร์ทั้ง๕)กับพระอาจารย์อ่อมอยู่๒พรรษา แต่เรียนไม่จบ จึงได้ไปศึกษาต่อจากพระอาจารย์ชู วัดโคกหนองบัว อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด ใช้เวลาเรียนอยู่๑ปี จึงเรียนจบพระคัมภีร์ทั้ง๕ โดยท่องได้สูตรสนธิ สูตรนาม เป็นต้นทั้งหมดตลอดจนการสวดมนต์ต่างๆ ในภาคอิสาณจะหาพระอาจารย์รูปอื่นท่องจำบทสวดมนต์ได้เท่าหลวงพ่ออ่อน จะมีก็น้อยรูปนัก ครั้นเรียนจบคัมภีร์ทั้ง๕ จึงได้กลับมาจำพรรษาอยู่วัดเพียมาตร ขณะอยู่วัดเพียมาตร ได้เป็นอาจารย์สอนคัมภีร์ทั้ง๕อยู่เป็นเวลา ๒ ปี มีพระภิกษุและสามเณรไปศึกษาเล่าเรียนเป็นจำนวนมาก ต่อมาได้พักการเรียนหนังสือใหม่(คัมภีร์ทั้ง๕) ได้อบรมและปริยัติวิปัสสนากัมมัฎฐานอยู่ภายในวัด ครั้นแล้วเห็นว่าการปฎิบัติไม่สะดวก จึงได้ออกธุดงค์ปฎิบัติกรรมฐานเพื่อฝึกจิตให้เป็นสมาธิ ใช้เวลาออกธุดงค์อยู่ ๖ ปีจึงได้กลับมาอยู่สังกัดวัดเดิม และปฎิบัติกรรมฐานติดต่อกันมาตลอด จนเมื่อปี พ.ศ. 2500 ได้เข้าอบรมวิปัสสนากรรมฐาน ณ.สำนักวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์ ใช้เวลาอยู่ ๖ เดือน โดยมีพระอาจารย์พระอุดมวิชาญาณ(นามเดิมขณะนั้น)และพระอาจารย์จากประเทศพม่า ในขณะที่เข้าปฎิบัติอยู่นั้นิหลวงพ่อได้ตั้งใจแน่วแน่ปฎิบัติตามหลักการที่พระอาจารย์อบรมสั่งสอนจนได้สมาธิแน่วแน่ หลังกลับจากวัดมหาธาตุฯแล้วก็ได้ปฎิบัติต่อเนื่องมาตลอด เมื่อหลวงพ่ออ่อน ศึกษาวิธีอย่างสมบูรณ์ตามหลักการทั้งหลาย ประชาชนและพระภิกษุสามเณร จึงเกิดความเคารพเพิ่มขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างยิ่ง และท่านเป็นผู้เจริญด้วยคุณธรรมอันสูงส่ง โดยยึดมั่นในคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ ด้วยอำนาจพลังจิตของท่าน จึงมีข้าราชการ ประชาชนภายในจังหวัดและต่างจังหวัดไปขอร้องให้หลวงพ่อ ลงอักขระ แผ่นเงิน แผ่นทองคำ แผ่นทองเหลือง แผ่นตะกั่ว เพื่อนำไปป้องกันตัวและให้เกิดความเป็นสิริมงคล ผลปรากฎว่าผู้ที่ได้ของหลวงพ่อไปสักการะบูชา เพื่อยึดมั่นในคุณรัตนตรัยแล้ว ย่อมได้ผลตามความปรารถนา ตามปกติทุกวันจะมีประชาชนทั่วๆไป เข้านมัสการหลวงพ่อวันหนึ่งๆเป็นจำนวนมากมาย จนจะหาเวลาพักผ่อนมิได้ และกรรมการวัดต่างๆอาราธนานิมนต์ไปร่วมพิธีนั่งปรกพุทธาภิเษก-ปลุกเสกอยู่เสมอตั้งแต่ปี2500 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน ทั้งวัดภายในจังหวัดศรีสะเกษและวัดต่างๆหลายจังหวัด โดยเฉพาะปลายปี 2515 ได้รับนิมนต์เข้าพิธีพุทธาภิเษก ณ.วัดเบญจมบพิตร กรุงเทพมหานคร ปี2516 วันที่ 7 เมษายน 2516 (ตรงกับวันขึัน 5 ค่ำ เดือน 5)ซึ่งนิยมเรียกกันว่า เสาร์5 วัดมหาพุทธาราม ต.เมืองเหนือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ โดยขออนุญาตทำพระเครื่องรูปหลวงพ่อฯและหลวงพ่อได้อนุญาตให้ทำได้ตามความประสงค์ สำหรับการทำพระเครื่องของวัดมหาพุทธารามครั้งนี้ ได้รวบรวมผงโบาณจากที่ต่างๆล้วนแล้วแต่ได้จากสถานที่สำคัญๆเพื่อรักษาผงโบราณโดยวิธีสร้างเป็นรูปหลวงพ่อขึ้นและให้ประชาชนนำไปสักการะบูชา เกิดความเป็นศิริมงคลและยึดมั่นในคุณพระรัตนตรัย เพื่อเป็นการจรรโลงพระศาสนา ในด้านวัตถุสืบไป (ข้อมูล หนังสือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระพุทธรูป พระเครื่อง ชุด หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช ประจำเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2516 สำนักพิมพ์เจริญสาส์น พิมพ์จำหน่าย) ขอขอบพระคุณสำหรับข้อมูลดีๆ หากมีความผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ.ที่นี้

ในปี พ.ศ. 2526 ท่านก็ได้มรณภาพลง ยังความโศกเศร้ามายังเหล่าศิษยานุศิษย์และบุคคลทุกหมู่เหล่าเป็นอย่างยิ่ง รวมสิริอายุได้ 54 ปี หลวงพ่ออ่อนท่านนี้เป็นพระสงฆ์ผู้ทรงคุณทางญาณสมาบัติสูง ของภาคอีสานตอนล่าง มีความเชี่ยวชาญด้านวิทยาคมและไสยเวทย์อย่างแตกฉาน ซ่อนตัวเงียบ ๆ แบบ ? คมในฝัก ? มาช้านานหลายสิบปี เป็นที่นับถือของชาวบ้านในพื้นที่ยิ่งนัก ชาวนิยมตัดไม่ไผ่เป็นแผ่นบาง ๆ มาให้ท่านลงอักขระปลุกเสก แล้วนำไปปักกลางทุ่งนาหรือในไร่ จะทำให้ฝูงนก และหนูไม่ลงกินข้าวในรวงและกัดกินต้นในนาเสียหาย แมลงต่าง ๆ ก็ไม่เข้าไปกัดกินพืชที่ไร่ และน้ำมนต์ของท่านศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ชาวบ้านนิยมมาขอไปรดให้ลูกหลานและรอบ ๆ บ้านเพื่อป้องกันสิ่งอัปมงคลและภยันอันตรายทั้งหลายทั้งปวง

หลวงพ่อท่านอนุญาตให้ลูกศิษย์สร้างวัตถุมงคลรุ่นแรก เมื่อปี พ.ศ. 2512 มีทั้งเหรียญรูปพัดยศ , รูปเหมือนเนื้อผง , พระสมเด็จ , ตะกรุด ผ้ายันต์และแหวน ฯลฯ ส่วนก่อนหน้านี้ก็มีการสร้างพระเนื้อผงคล้าย ๆ กับหลวงปู่ทวดออกมาจำนวนหนึ่งแต่ส่วนใหญ่ตกอยู่กับศิษย์ใกล้ชิด จึงไม่ค่อยพบเห็นง่าย ๆ สำหรับวัตถุมงคลที่สร้างในปี 2516 นอกจากท่านจะปลุกเสกเดี่ยวแล้ว ยังนำเข้าพิธีมหาพุทธาภิเษกของจังหวัดศรีสะเกษ ณ.วัดมหาพุทธาราม (วัดพระโต) ในปีดังกล่าว มีเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้าของจังหวัดศรีสะเกษและภาคอีสานอย่างหลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอร์ ฯลฯ เข้าร่วมปลุกเสกด้วย และได้รับนิมนต์ไปในงานพุทธาภิเษกด้วยกันหลายครั้ง ทำให้ท่านอาจจะได้รับการถ่ายทอดแบบอย่างและแนวคิดในการสร้างวัตถุมงคลจากหลวงพ่อมุม ซึ่งจะเห็นได้จากเหรียญใบตำลึงปี 2517 รูปเหมือนเนื้อผง ตลอดจนพระสมเด็จที่มีการจารย์ทั้งด้านหน้า - หลังไว้เกือบจะทุกองค์ ซึ่งแสดงถึงความพิถีพิถันและตั้งใจให้เป็นวัตถุมงคลอันศักดิ์สิทธิ์เป็นที่สุด เหรียญของท่านทุกรุ่นจึงเป็นเหรียญดีที่มีประสบการณ์ และมีการเคลื่อนไหวด้านราคาก็เป็นแบบเคลื่อนใต้น้ำทางภาคอีสานมานานแล้ว ทุกวันนี้ก็หาชมยากทั้ง ๆ ที่ราคาก็ไม่แพงมาก ขึ้นอยู่กับสภาพและความพอใจของผู้ซื้อ / ผู้ขาย คือ หลักพันอ่อน ๆ ขึ้นไป ( นิตยสารเซียนพระ เล่มที่ 430 หน้า 45 )

ผมเคยไปนมัสการหลวงพ่อเส็ง วัดปราสาทเยอร์ใต้ ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานแท้ ๆ และศิษย์ก้นกุฏิหลวงมุม บวชตั้งแต่เป็นสามเณรอยู่กับหลวงมุมมาตลอด เคยลาสิกขาครั้งหนึ่งตอนไปเข้ารับการเกณฑ์ทหาร 15 วัน แล้วกลับเข้าบวชใหม่ ท่านบอกว่า เคยไปมาและเรียนวิชากับหลวงพ่ออ่อน วัดบ้านเพียมาตรอยู่ระยะหนึ่ง ท่านบอกว่า ผู้เฒ่าโบราณวิชามากหลาย ขนาดทั้งจำทั้งจด ยังเอามาไม่หมด จึงเอาเฉพาะวิชาที่สำคัญ และเวลาพูดทั้งวัดบ้านเพียมาตร หลวงพ่อเส็งท่านก็จะพูดถึงป่าหนา ๆ ที่มีต้นไม้ใหญ่ ๆ นั้นก็คือ ดงภูดินที่อยู่แถวบ้านเพียมาตร นั่นเอง วันหลังว่างจะขอนำเหรียญหลวงพ่อเส็งรุ่นแรกมาให้ชม ( เหรียญนักกล้าม เนื้อทองแดงชุบนากมีจารย์ สร้างเพียง 100 เหรียญ ) ....บางข้อความมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์มากขึ้น...ขอขอบคุณทุกท่านครับ



* a10-73-46.jpg (102.03 KB, 480x630 - ดู 15485 ครั้ง.)

thxby10497คนโก้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 กรกฎาคม 2555, 19:33:48 โดย mohbantung » บันทึกการเข้า
mohbantung
Full Member
***

พลังน้ำใจ : 53
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 72

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 6 : Exp 85%
HP: 0.5%



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: 04 กุมภาพันธ์ 2556, 14:08:28 »

เหรียญหลวงพ่อ สภาพสวยจ้า ตามลิงค์นี้เลยจ้า

 http://www.web-pra.com/Shop/silalad/Show/780032


* get_auc1_img-(3).jpg (80.79 KB, 560x700 - ดู 9889 ครั้ง.)

* get_auc1_img-(4).jpg (76.85 KB, 560x700 - ดู 10112 ครั้ง.)

บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.19 | SMF © 2006-2009, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!