ประวัติโดยย่อของหลวงพ่อทองดี(ห่วน) วัดสร้างแก้วเหนือ โดยสังเขป
(ขออนุญาตเล่าตามความเห็นที่เป็นจริงที่ประติดประต่อได้ขอย่าได้มีกรรมมีเวรแก่กันชั่วกาลนานเทอญ)
ประวัติ-ชาติภูมิ หลวงปู่ทองดี(ห่วน) เดิมชื่อ เด็กชาย ทองดี มีเงิน เกิดที่บ้านกระบูรณ์ ตำบลเหล่าแดง อำเภอเมือง จ.อุบลราชธานี เกิดเมื่อวันอังคาร ปีจอ เดือน7 พ.ศ.2425 เป็นบุตรของนายเคน และ นางกอง มีเงิน มีพี่น้องร่วมท้องด้วยกัน 5 คน คือ
1.เด็กชายทองดี(หลวงปู่ห่วน) มีเงิน
2เด็กหญิงสี มีเงิน
3เด็กหญิงแพง มีเงิน
4เด็กชายตา มีเงิน
5เด็กชายคูณ มีเงิน
ต่อมา พ.ศ.2435 บิดาและมารดา ได้อพยพมาอยู่บ้านสร้างแก้วเหนือ พ.ศ.2439 อายุได้ 15 ปี เด็กชายทองดี มีเงิน ก็ได้อุปสมบทเป็นสามเณร ที่วัดสร้างแก้วใต้เพราะวัดสร้างแก้วเหนือในขณะนั้นยังเป็นวัดร้างอยู่ โดยมีพระอุปัชฌาย์สิงห์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระสีเป็นพระสูตรสาวกซ้าย พระค้อมเป็นพระสูตรสาวกขวา
การเรียนและการศึกษา -หลวงพ่อทองดี(ห่วน) ท่านได้เรียนหนังสือมูลน้อย มูลกลาง ไวยากรณ์ ลูกคิด และหลักสูตร บวก ลบ คูณ หาร เป็นภาษาจีน ต่อมาได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดในเมืองอุบลราชธานี คือวัดสารพัดนึก เมื่อทางบ้านสร้างแก้วเหนือได้บูรณะและจัดตั้งวัดขึ้นมาใหม่อีกครั้ง จึงมีญาติและพี่น้องมานิมนต์ท่านมาปฏิบัติธรรมที่วัด ท่านเป็นพระองค์แรกที่มาปฏิบัติท่านยังเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของสาธุชนในระแวกใกล้เคียงอีกด้วย
การปฏิบัติธรรม -ระหว่างอุปสมบทหลวงพ่อทองดี(ห่วน) ท่านได้เที่ยวไปทั่วสารทิศ เช่น ไปภาคเหนือเข้าสู่แดนพม่า และไปสู่ประเทศลาวท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดจำปาศักดิ์ แขวงลาวใต้ ประเทศลาว
-ท่านได้ปฏิบัติธรรมเป็นพระปัจเจกองค์หนึ่ง คือ ไม่อยากเป็นโน่นเป็นนี่เป็นพระที่มีโสรัจจะอยู่ในความสงบเสงี่ยม ไม่มีกิเลสตันหา อีกทั้งท่านยังปฎิบัติธรรมโดยเคร่งครัดโดยท่านจะนั่งภาวนาสมาธิอยู่ในผ้าม่านตลอดเวลานอกจากเวลาฉันท์อาหารเท่านั้น สมกับที่เรียกว่าเป็น ?พระปัจเจก? คือ
1.ถ้ามีผู้มาหมิ่นประมาทการสมาธิท่านก็จะหาตัวท่านไม่เห็น
2.
"ตรำฝนไม่เปียก" รู้จากพระอันดับได้กล่าวไว้ว่า ?เวลาท่านตรำฝนมาจากปฏิบัติธรรมท่านจะไม่เปียกน้ำฝนแม้แต่จีวรก็ยังแห้งสนิท ไม่เหมือนกับพระรูปอื่นๆ?
3.
"ย่นและย่อแผ่นดินได้" โดยพระอันดับกล่าวไว้ว่า ?ถ้าถูกนิมนต์ท่านจะออกเดินก่อนพระอันดับจะเดินตามท่านไม่ทัน หรือถ้าท่านบอกให้พระอันดับเดินทางไปก่อน ก็จะไปพบท่านอยู่ที่นิมนต์ก่อนแล้ว โดยไม่รู้ว่าท่านเดินไปทางไหนเมื่อใด เป็นอย่างนี้หลายครั้ง?
4.
"ถ่ายรูปท่านจะไม่ติด" ถ้าไม่ขออนุญาตก่อนโดยคุณบรรพต จำปาเทศ ได้ไปทดทองถ่ายรูปท่านแต่ไม่ได้ขออนุญาติรูปที่ถ่ายออกมาก็ไม่มีภาพใดๆเป็นเพียงรูปว่างเปล่าเท่านั้น
5.
"เป็นที่เลื่องลือในวิชาอาคม"มากโดยท่านมีคาถาอาคมหรือผ้ายันต์ รู้ได้จากผู้ที่นำไปปฏิบัติหรือใช้ติดตัว เช่น ตำรวจและเหล่าทหารได้นำเข้าสู่สนามรบ หรือมีรถคว่ำก็จะไม่เป็นอันตรายใดๆถ้าผู้นั้นถือของอยู่และปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
6.ท่านเป็นพระที่ไม่โกรธ เมื่อมีผู้มาว่ากล่าวจะถือว่าท่านมีความสุขมาก รู้ได้จากเมื่อท่านหัวเราะเมื่อโกรธ โกรธมากท่านก็จะหัวเราะดัง เมื่อโกรธน้อยท่านก็จะหัวเราะน้อย
7.เมื่อญาติโยมไม่รู้ในหลักธรรมคำสอนก็จะไปถามท่าน ท่านจะบอกข้อธรรมมะทุกอย่างที่ญาติโยมสงสัยอย่างถูกต้อง
8.ไม่ยึดทรัพย์สินเงินทองเป็นสรณะ สังเกตได้จากมีคนมาขอท่าน ท่านจะบอกตามตรงและไม่หวงแหนให้เอาไปใช้เลยโดยไม่ต้องเอามาใช้แทน
9.เมื่อพระอันดับมาท่องหนังสือให้ฟัง ถ้าท่องผิดตรงไหนท่านจะสั่งให้แก้ไขใหม่ทันที แม้แต่สระ-อิ สระ-อา ไม่ให้เพี้ยนไปจากข้อความเดิม ถ้าไม่แก้ไขคือศาสนาเพี้ยนจากธรรมพระพุทธเจ้าไป
10.เวลาท่านอาพาธหรือป่วยท่านจะปล่อยวาง ไม่เหนื่อยไม่ทุรนทุรายโดยท่านถือความเจ็บป่วยเป็นสังขาร ไม่เหนื่อยไม่เจ็บจนสิ้นสังขาร
การเรียนและการศึกษา -หลวงพ่อทองดี(ห่วน) ท่านได้เรียนหนังสือมูลน้อย มูลกลาง ไวยากรณ์ ลูกคิด และหลักสูตร บวก ลบ คูณ หาร เป็นภาษาจีน ต่อมาได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดในเมืองอุบลราชธานี คือวัดสารพัดนึก เมื่อทางบ้านสร้างแก้วเหนือได้บูรณะและจัดตั้งวัดขึ้นมาใหม่อีกครั้ง จึงมีญาติและพี่น้องมานิมนต์ท่านมาปฏิบัติธรรมที่วัด ท่านเป็นพระองค์แรกที่มาปฏิบัติท่านยังเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของสาธุชนในระแวกใกล้เคียงอีกด้วย
วาระแห่งการมรณภาพ -หลวงพ่อทองดี(ห่วน) ท่านมรณภาพเมื่อวันที่ 17 เมษายน ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 5 พ.ศ.2509 และได้ทำการฌาปนกิจศพของท่าน ในปี พ.ศ.2512 โดยมีพระคณาจารย์มากจากทั่วสารทิศ สิริอายุรวมได้ 84 ปี 64 พรรษา
-บุญคุณอันนี้พวกเราผู้ปฏิบัติควรที่จะทำตามเป็นแบบอย่างที่ดี จึงสมควรจะทำรูปเหมือน(หุ่นขี้ผึ้ง)ของท่านไว้สักการะบูชาเป็นการไม่ลืมบุญคุณของท่านที่ให้ไว้เป็นแกนนำในพุทธศาสนาองค์หนึ่งที่ควรกระทำไว้เคารพต่อไป จึงเห็นสมควรอนุโมทนาสาธุกาลทุกท่านในกาลต่อไปเทอญ
ประวัติหลวงพ่อทองดี(ห่วน) ฉบับนี้กระผมได้คัดลอกมาจากฉนับจริงที่เรียบเรียงโดย(พ่อใหญ่ลบ พงศ์อนันต์)เพื่อเผยแพร่เกียรติคุณของครูบาอาจารย์ที่เคารพเป็นวิทยาทานให้คนรุ่นหลังได้รู้ประวัติ และ ปฏิปทา ของท่าน ไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดีแต่ประการใด ถ้าข้อมูลในฉบับนี้ผิดพลาดประการใดกระผมขอขมาไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ[/b]
[/u][/size][/size]