ค่ายดอนมดแดง หรือ เกาะดอนมดแดง ค่ายนักรบพ่อเมืองอุบลราธานีในอดีต ?>
ชมรมอนุรักษ์พุทธศิลป์แห่งภาคอีสาน
The Buddhist Art Conservation Club Of Esan (North Eastern Part Of Thailand)
24 พฤศจิกายน 2567, 03:17:32 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  

กติกาในการ เช่า-แลกเปลี่ยนพระเครื่อง | พระเครื่องเมืองอุบลราชธานี | แจ้งปัญหาการใช้งาน
แจ้งเรื่องการยืนยันตัวตนสำหรับผู้ที่จะให้เช่าพระเครื่องฯ | วิธีสมัครสมาชิกเว็บ

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ค่ายดอนมดแดง หรือ เกาะดอนมดแดง ค่ายนักรบพ่อเมืองอุบลราธานีในอดีต  (อ่าน 11680 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เต้ อุบล
พุทธศาสนิกชน ฅนรักษ์ธรรมะ
Administrator
*****

พลังน้ำใจ : 634
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 982

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 25 : Exp 44%
HP: 0%



อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี

sabayd8861@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« เมื่อ: 10 ตุลาคม 2554, 12:06:16 »

เกาะดอนมดแดง ค่ายดอนมดแดง แห่ง อุบลราชธานี
ทำเลที่ตั้ง ทิศตะวันออกและทิศใต้ติดแม่น้ำมูลใหญ่ ทิศตะวันตกและทิศเหนือติดลำมูลน้อย ลักษณะ เป็นลักษณะเกาะ มีแม่น้ำล้อมรอบ ตั้งอยู่พื้นที่ ของบ้านแคน ตำบลดอนมดแดง จังหวัดอุบลราชธานี อยู่ห่างจากหมู่บ้านไปทางทิศใต้ ติดแม่น้ำมูล ระยะห่างจากฝั่งประมาณ 3 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 850 ไร่ ประวัติอดีตของ เกาะดอนมดแดง

ประวัติของบ้านที่อยู่รอบๆ เกาะดอนมดแดง และโบราณสถานสำคัญสมัยโบราณแห่งนี้ ทิศเหนือของเกาะข้ามฝั่งมูลไปทางเหนือ คือบ้านท่าเมืองน้อยในปัจจุบัน มีคนเฒ่าคนแก่เล่าว่า รอบๆ เกาะดอนมดแดงจะมีบ้านอยู่ตามสายน้ำลำมูล คือบ้านโนนไผ่ล้อม มีบ้านเรือนประมาณ 20 -30 หลังคาเรือน แต่ละบ้านก็มีวัตถุโบราณคู่บ้านคู่เมืองอยู่บ้าง หลังจากมีหมู่บ้านเกิดขึ้น ก็ได้สร้างโบสถ์ปู่สุข ปัจจุบันก็ยังมีก้อนอิฐหินดินดาน เป็นรูปดอยอยู่แถวชลประทานของบ้านโนนน้อยตามสายลำมูลน้อย คาดว่าแต่ก่อนจะเป็นหมู่บ้านใหญ่กว่าบ้านโนนไผ่ล้อม เพราะมีวัตถุโบราณเป็นหลักฐานให้เห็น คือโบสถ์ พร้อมด้วยพระประติมากรรม เริ่มต้น ในปี พ.ศ. 2275

พระเจ้าทองหล่อผู้ปกครองเมืองศรีสัตมาศ มาตีเมืองเวียงจันทน์ โดยมีพระยาสุนเมรุปกครอง เมื่อมาตีเมืองได้จึงให้ชื่อว่า เมืองศรีสัตมาศ นครเวียงจันทน์ ต่อมา พระยาแสงเมือง มาตีเมืองศรีสัตมาศ นครเวียงจันทน์ได้ จึงปกครองบ้านเมือง ต่อมาพระเจ้าทองหล่อ เมื่อพ่ายแพ้ต่อพระยาแสงเมืองแล้วจีงอพยบครอบครัวยไพร่พลที่ภักดีไปลี้ภัยในป่า ในขณะเดียวกันก็ฝึกทหารให้เข้มแข็ง ฉลาดในการรบ กลับมาตีเมืองศรีสัตมาศ นครเวียงจันทน์ ได้ แล้วตั้งตนเป็นผู้ปกครองสืบไปในขณะที่มีการสู้รบอยู่นั้น บุตรของพระยาแสงเมือง 2 คน หนีออกจากวงล้อมได้และไปขออาศัยอยู่กับ พระวอพระตา ซึ่งเป็นเสนาบดีอยู่ในขณะนั้น ในปี พ.ศ. 2310 พระเจ้าทองหล่อสวรรคตไม่
 มีผู้สืบราชสมบัติต่อพระวอพระตา จึงเชิญบุตรพระเจ้าแสนเมืองคนโตครองเมืองมีนามว่า สิริบุญสาร เมื่อพระเจ้าสิริบุญสารได้ครองเมืองแล้ว จึงแต่ตั้งน้องชายเป็นอุปราช เป็นเหตุให้ พระวอพระตา ไม่พอใจ เพราะไม่ได้เป็นอุปราชตามความประสงค์ที่มีข้อตกลงกัน ทั้งที่พระวอพระตาได้ทำนุบำรุงเลี้ยงดูทั้งสองจนเติบใหญ่ เมื่อไม่เป็นตามประสงค์ที่ตกลงกันเช่นนั้น พระวอพระตา จึงชวนไพร่พลของตนออกจากเมืองศรีสัตมาศ นครเวียงจันทน์ มุ่งหน้าสู่ เมืองหนองบัวลำพู ไปตั้งบ้านเมืองอยู่หนองบัวลำพู ฝึกทหารให้ กล้าแกร่งสร้างหอรบให้คงทน ทำประตูเมืองให้เข้มแข็งกว่าเดิม แล้วเปลี่ยนชื่อใหม่ว่า เมืองนคร เขื่อนขันกาบแก้วบัวบาน พระเจ้าสิริบุญสารทราบว่า พระวอพระตาไปอยู่ที่บ้านหนองบัวลำพู คิดว่าจะเป็นกบฎต่อตน จึงยกทัพไปปราบทั้ง 2 ฝ่าย สู่รบกันอยู่ถึง 3 ปี ไม่มีใครเอาชนะกันได้อย่างเด็ดขาด พระวอพระตา จึงปรึกษากันว่า กองกำลังมีน้อยอาจสู่ข้าสึกไม่ได้ จึงแต่งตั้งคณาจารย์และเครื่องบรรณาการไปเมืองละแงะเขตพม่า ซึ่งแม่ทัพชื่อ จรุต เป็นผู้คุมอยู่ แม่ทัพจรุตรับปากว่าจะช่วยพร้อมยกกองทัพถึงกลางทาง พระเจ้าสิริบุญสารสู้รบ ส่วนพระวอ พระตา ที่มีกำลังมีน้อยกว่าจึงพ่ายแพ้ในที่สุด พระตา ตายในที่รบที่เมืองหนองบัวลำพู เมื่อสิ้นบุญพระตาแล้ว พระวอจึงอพยพไพร่พลครอบครัวลงทางใต้ เมื่อปี พ.ศ. 2314 เมื่อนครเขื่อนขันกาบแก้วบัวบาน(หนองบัวลำพู ) เสียแก่พม่าข้าศึกและ เวียงจันทน์แล้ว พระตาถึงแก่ความตาย พระวอยกพาพวกหนีมาถึงลำน้ำเสียวน้อย เสียวใหญ่ ในที่สุดได้ตั้งอยู่ บ้านสิงห์ท่า พระวอเห็นว่ามีไพร่พลมากสะดวกแก่การทำมาหากิน จึงแยกไปอยู่ ดอนมดแดง แขวงนครจำปาศักดิ์  ( ณ ปัจจุบันเป็น จังหวัดอุบลราชธานี ) โดยมี ท้าวคำผง ท้าวทิดพรหม ท้าวก่ำ เป็นผู้ช่วย เมื่อมาอยู่ ดอนมดแดง ประสงค์ที่จะสร้างดอนมดแดงให้เป็นเมืองแทนนครเขื่อนขันกาบแก้วบัวบาน (หนองบัวลำพู) พอดีเจ้าไชยกุมารองค์หลวงเจ้าผู้ครองนครจำปาศักดิ์ ขอให้ไปตั้งอยู่บ้านดู่บ้านแก่ใกล้เมืองนครจำปาศักดิ์ พระวอจำให้แสนเทพ แสนนาม ทหารคนสนิทอยู่ที่
ดอนมดแดง ส่วน พระวอ ท้าวคำผง ท้าวทิดพรหม ท้าวก่ำ ได้ไปอยู่บ้านดู่บ้านแก่กับพระวอ ส่วนอัญญานางอูสาและท่าวหน้า แยกไปอยู่ที่บ้านสิงห์โคก ประมาณปี พ.ศ. 2319 พระเจ้าสิริบุญสารเจ้าเมื่องเวียงจันทน์ทราบว่าพระวอได้มาอยู่บ้านดู่บ้านแกและมีกำลังน้องลง จึงให้เพี้ยสุโพ อัครฮาดหำทองยกกองทัพตามแม่น้ำโขงมาตีค่ายบ้านดู่บ้านแกฆ่า พระวอตาย พระปทุมสุรราช (คำผง) ได้เป็นหัวหน้าบัญชาการรบต่อสู่ เมื่อเห็นว่าไม่มีกำลังพอจะสู้ได้ จึงให้เพี้ยพรหมโลก เพี้ยบ่อหน เพี้ยพบอาสาและไพร่พลปลอมเป็นทหาร เวียงจันทน์ ถือใบบอกลงไปกราบทูลขอกำลังจาก พระเจ้าตากสินมหาราช มาช่วยและขอเป็น ข้าขอบขัณสีมา โดยผ่านเมืองนครราชสีมา เจ้าพระยานครราชสีมาได้พาคณะผู้ถือใบบอกเข้ากราบทูลพระกรุณา พระเจ้าตากสินจึงได้โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระยามหากษัตริย์ศึก ยกไปทางเมือง นครราชสีมา เกณฑ์เอากำลังจากเมืองนครราชสีมา เมืองนางรอง เพื่อขึ้นไปเป็นกำลังทัพช่วย แล้วยกไปช่วยพระปทุมสุรราชที่เมืองนครจำปาศักดิ์ ฝ่ายเพี้ยสุโพ อัครฮาดหำทอง ทราบข่าวเกรงจะเกิดศึกหนักจึงยกทัพกลับเวียงจันทน์ เมื่อกองทัพใหญ่มาถึง พระปทุมสุรราช พร้อมด้วยไพร่พลได้เข้าถวายขอเป็นขอบขัณฑสีมา และขอเป็นข้าหลวงในสมเด็จพระยามหากษัตริย์ศึก สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ให้พระปทุมสุรราชจัดทัพเป็นทัพหลวงออกตีกองทัพเพี้ยสุโพ และเมืองต่างๆ แถบแม่น้ำโขง เมืองต่างๆทราบข่าวต่างสวามิภักดิ์ ต่อมา สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ได้ช่วย ยกทัพไปตีเวียงจันทน์ ทางเวียงจันทน์สู้เป็นสามารถรบกัน 9 เดือน เวียงจันทน์สู้ไม่ได้ พระเจ้าศิริบุญสาร หนีออกจากเมือง กองทัพสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก เข้าเมืองในปี พ.ศ. 2322 ได้คุมตัวเจ้า อุปฮาดนันทเสนราชวงค์เวียงจันทน์ไปถวาย ณ กรุงธนบุรี และ อัญเชิญพระแก้วมรกต และ พระบาง ไปกรุงธนบุรี ก่อนยกทัพกลับได้แต่ตั้งเพี้ยสุโพเป็นผู้รักษาเมือง เวียงจันทน์ พระประทุมสุรราช เมื่อเสร็จศึกจึงกราบลาสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกกลับบ้านดู่ บ้านแก่ สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกอนุญาตให้ยกไปอยู่ บ้านดอนมดแดง ตามเดิม


* _14E1A1.jpg (73.15 KB, 649x430 - ดู 1827 ครั้ง.)

* _02_1_1.jpg (61.72 KB, 649x430 - ดู 1940 ครั้ง.)

* _01_1_1.jpg (62.25 KB, 649x430 - ดู 1642 ครั้ง.)

บันทึกการเข้า
เต้ อุบล
พุทธศาสนิกชน ฅนรักษ์ธรรมะ
Administrator
*****

พลังน้ำใจ : 634
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 982

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 25 : Exp 44%
HP: 0%



อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี

sabayd8861@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2554, 12:07:00 »

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก    http://www.paknamubonclub.com/เกาะดอนมดแดง-ค่ายดอนมดแดง.html

บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.19 | SMF © 2006-2009, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!