พระธาตุก่องข้าวน้อย ?>
ชมรมอนุรักษ์พุทธศิลป์แห่งภาคอีสาน
The Buddhist Art Conservation Club Of Esan (North Eastern Part Of Thailand)
21 พฤศจิกายน 2567, 18:43:39 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  

กติกาในการ เช่า-แลกเปลี่ยนพระเครื่อง | พระเครื่องเมืองอุบลราชธานี | แจ้งปัญหาการใช้งาน
แจ้งเรื่องการยืนยันตัวตนสำหรับผู้ที่จะให้เช่าพระเครื่องฯ | วิธีสมัครสมาชิกเว็บ

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: พระธาตุก่องข้าวน้อย  (อ่าน 23999 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เต้ อุบล
พุทธศาสนิกชน ฅนรักษ์ธรรมะ
Administrator
*****

พลังน้ำใจ : 634
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 982

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 25 : Exp 44%
HP: 0%



อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี

sabayd8861@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« เมื่อ: 10 ตุลาคม 2554, 15:59:16 »

ธาตุก่องข้าวน้อย เป็นเจดีย์เก่าสมัยขอม ตั้งอยู่ในทุ่งนา ตำบลตาดทอง อำเภอเมืองยโสธร ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 9 กม ไปตามทางหลวงหมายเลข 23 (ยโสธร-อุบลราชธานี) ประมาณหลักกิโลเมตรที่ 194 เลี้ยวซ้ายไปอีก 1 กิโลเมตร

          ธาตุก่องข้าวน้อย เป็นเจดีย์เก่าสมัยขอม สร้างในพุทธศตวรรษที่ 23-25 ตรงกับสมัยอยุธยาตอนปลาย เป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูน รูปทรงแปลกไปจากเจดีย์โดยทั่วไป คือมีลักษณะเป็นก่องข้าว องค์พระธาตุเป็นเจดีย์เหลี่ยมย่อมุมไม้สาม ฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างด้านละ 2 เมตร ก่อสูงขึ้นไปประมาณ 1 เมตร ช่วงกลางขององค์พระธาตุ มีลวดลายทำเป็นซุ้มประตูทั้งสี่ด้าน ถัดจากช่วงนี้ เป็นสวนยอดของเจดีย์ที่ค่อยๆ สอบเข้าหากันเป็นส่วนยอด รอบนอกของพระธาตุก่องข้าวน้อย มีกำแพงอิฐล้อมรอบขนาด 5X5 เมตร นอกจากนี้ บริเวณด้านหลังมีพระพุทธรูปอยู่องค์หนึ่ง ก่อด้วยอิฐ ชาวบ้านนับถือว่าศักดิ์สิทธิ์มาก และในเดือนห้า จะมีผู้คนนิยมมาสรงน้ำพระและปิดทอง ซึ่งเชือกันว่า ถ้าไม่ทำเช่นนี้ ฝนจะแล้งในปีนั้น

          ธาตุก่องข้าวน้อย มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ ซึ่งผิดไปจากปูชนียสถานแห่งอื่นๆ ที่มักเกี่ยวพันกับเรื่องพุทธศาสนา แต่ประวัติความเป็นมาของธาตุก่องข้าวน้อย กลับเป็นเรื่องของหนุ่มชาวนาที่ทำนาตั้งแต่เช้าจนเพล มารดาส่งข้าวสาย เกิดหิวข้าวจนตาลาย อารมณ์ชั่ววูบ ทำให้เขากระทำมาตุฆาตด้วยสาเหตุเพียงแต่ว่า ข้าวที่เอามาส่งดูจะน้อยไปไม่พอกิน ครั้นเมื่อกินข้าวอิ่มแล้ว ข้าวยังไม่หมด จึงได้สติคิดสำนึกผิด ที่กระทำรุนแรงต่อมารดาของตนเองจนถึงแก่ความตาย จึงได้สร้างธาตุก่องข้าวน้อยแห่งนี้ขึ้น เพีอเป็นการอุทิศส่วนกุศล ขออโหสิกรรมและล้างบาปที่ตนกระทำมาตุฆาต

          นอกจากนี้ ที่บริเวณบ้านตาดทอง กรมศิลปากรได้ดำเนินการขุดค้นเรื่องราวของมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ได้ค้นพบโครงกระดูกมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ และภาชนะลายเขียนสีแบบบ้านเชียง

 

ก่องข้าวน้อยฆ่าแม่

ครั้งหนึ่งเมื่อหลายร้อยปีมาแล้วที่บ้านตาดทอง ในฤดูฝนมีการเตรียมปักดำกล้าข้าวทุกครอบครัวจะออกไปไถนาเตรียมการเพราะปลูก  ครอบครัวของชายหนุ่มคนหนึ่งกำพร้าพ่อ  ไม่ปรากฏชื่อหลักฐาน ก็ออกไปปฏิบัติภารกิจเช่นเดียวกัน

วันหนึ่งเขาไถนาอยู่นานจนสาย  ตะวันขึ้นสูงแล้วรู้สึกเหน็ดเหนื่อยอ่อนเพลียมากกว่าปกติ และหิวข้าวมากกว่าทุกวัน  ปกติแล้วแม่ผู้ชราจะมาส่งก่องข้าวให้ทุกวัน แต่วันนี้กลับมาช้าผิดปกติ

เขาจึงหยุดไถนาเข้าพักผ่อนอยู่ใต้ต้นไม้  ปล่อยเจ้าทุยไปกินหญ้าสายตาเหม่อมองไปทางบ้าน  รอคอยแม่ที่จะมาส่งข้าวตามเวลาที่ควรจะมา  ด้วยความรู้สึกกระวนกระวายใจยิ่งสายตะวันขึ้นสูงแดดยิ่งร้อนความหิวกระหายยิ่งทวีคูณขึ้น

ทันใดนั้นเขามองเห็นแม่เดินเลียบมาตามคันนาพร้อมก่องข้าวน้อยๆ  ห้อยต่องแต่งอยู่บนเสาแหรกคาน  เขารู้สึกไม่พอใจที่แม่เอาก่องข้าวน้อยนั้นมาช้ามาก  ด้วยความหิวกระหายจนตาลาย  อารมณ์พลุ่งพล่าน  เขาคิดว่าข้าวในก่องข้าวน้อยนั้นคงกินไม่อิ่มเป็นแน่  จึงเอ่ยต่อว่าแม่ของตนว่า

"อีแก่ มึงไปทำอะไรอยู่จึงมาส่งข้าวให้กูกินช้านัก
ก่องข้าวก็เอามาแต่ก่องน้อยๆ กูจะกินอิ่มหรือ?"

ผู้เป็นแม่เอ่ยปากตอบลูกว่า "ถึงก่องข้าวจะน้อยก็น้อยต้อนแต้นแน่นในดอกลูกเอ๋ย  ลองกินเบิ่งก่อน"

ความหิว ความเหน็ดเหนื่อย ความโมโห หูอื้อตาลาย ไม่ยอมฟังเสียงใดๆ เกิดบันดาลโทสะอย่างแรงกล้า คว้าได้ไม้แอกน้อยเข้าตีแม่ที่แก่ชราจนล้มลงแล้วก็เดินไปกินข้าว กินข้าวจนอิ่มแล้วแต่ข้าวยังไม่หมดกล่อง จึงรู้สึกผิดชอบชั่วดี  รีบวิ่งไปดูอาการของแม่และเข้าสวมกอดแม่

อนิจจา แม่สิ้นใจไปเสียแล้ว..

ชายหนุ่มร้อยไห้โฮ สำนึกผิดที่ฆ่าแม่ของตนเองด้วยอารมณ์เพียงชั้ววูบ  ไม่รู้จะทำประการใดดี  จึงเข้ากราบ นมัสการสมภารวัดเล่าเรื่องให้ท่านฟังโดยละเอียด

สมภารสอนว่า "การฆ่าบิดามารดาผู้บังเกิดเกล้าของตนเองนั้นเป็นบาปหนัก เป็นมาตุฆาต ต้องตกนรกอเวจีตายแล้วไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดเป็นคนอีก มีทางเดียวจะให้บาปเบาลงได้ก็ด้วยการสร้างธาตุก่อกวมกระดูกแม่ไว้ ให้สูงเท่านกเขาเหิน จะได้เป็นการไถ่บาปหนักให้เป็นเบาลงได้บ้าง"

เมื่อชายหนุ่มปลงศพแม่แล้ว ขอร้องชักชวนญาติมิตรชาวบ้านช่วยกันปั้นอิฐก่อเป็นธาตุเจดีย์บรรจุอัฐิแม่ไว้ จึงให้ชื่อว่า "ธาตุก่องข้าวน้อยฆ่าแม่" จนตราบทุกวันนี้

ทุกวันนี้มีผู้มากราบธาตุก่องข้าวน้อยฯทุกวันเพื่อขอขมาลาโทษเหมือนเป็นการไถ่บาปที่ทำให้พ่อแม่เสียใจ บางคนเมื่อมีลูกแล้วถึงรู้ว่าบุญคุณแม่มากสุดเหลือคณานับ เพิ่งรู้ว่าเลี้ยงดูลูกนั้นยากหนักหนาขนาดไหน จึงมาสำนึกที่ทำให้แม่ต้องเสียใจ บ้างก็มากราบไหว้เพื่อรำลึกถึงบุญคุณแม่


ขอมูลดีๆจาก   http://noo-ddd.exteen.com/20100402/entry


* original_DSC_8032.jpg (102.08 KB, 601x400 - ดู 3624 ครั้ง.)

* original_DSC_8015.jpg (146.69 KB, 500x752 - ดู 3575 ครั้ง.)

บันทึกการเข้า
เต้ อุบล
พุทธศาสนิกชน ฅนรักษ์ธรรมะ
Administrator
*****

พลังน้ำใจ : 634
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 982

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 25 : Exp 44%
HP: 0%



อย่าสุไลเสียถิ้ม พงษ์พันธุ์พี่น้องเก่า อย่าสุละเผ่าเซื้อ ไปย่องผู้อื่นดี

sabayd8861@hotmail.com
ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2554, 16:03:45 »

กลอนก่องข้าวน้อยฆ่าแม่

(ขึ้น)บัดนี้จะได้กล่าวประวัติเรื่องราวก่องข้าวน้อยฆ่าแม่
(รับ)ในสมัยแต่โบราณ ยังมีเหตุการณ์เกิดขึ้นที่บ้านตาดทอง
บ้านนั้นมีอาชีพทำนา จะกล่าวถึงลูกกำพร้าที่ชื่อว่าเจ้าทอง
เดือนหกฝนตกน้ำนอง จะกล่าวถึงเจ้าทองพาควายไปไถนา
เจ้าทองทำนาถ้าแม่ วันนั้นสายแท้รอแม่ไม่เห็นมา
เจ้าทองหิวข้าวจนตาลาย หิวจนแสบไส้ทั้งจ่มทั้งไถนา
จะกล่าวถึงแม่ของเจ้าทอง หาบเอาก่องข้าวน้อยไปส่งลูกที่นา
พอมาถึงจึงเอิ่นใส่ลูก ให้เจ้าผูกควายไว้มากินข้าวสาหล้า
มีแจ่วบองพร้อมทั้งปิ้งปลา มากินสาลูกหล้าแม่เอามาส่งให้
เจ้าทองพอเห็นก่องข้าวน้อย ย้านข้าวมีหน่อยเลยฮ้องมาใส่
ก่องข้าวใหญ่เป็นยังบ่เอามา โอ๊ยอีห่ามึงแพงไว้ท่าผู้ใด๋
แม่เลยบอกกับลูกว่า ก่องข้าวน้อยก็จริงอยู่หล้าแต่ว่ามันแน่นใน
กินส่าก่อนจึงว่ามารดา ลูกจะรู้้ว่ามันน้อยหรือมันใหญ่
เจ้าทองหิวข้าวเหลืออด เลยปลดแอกน้อยจะฆ่าแม่ทันที
แม่มองเห็นว่าลูกจะมาตี จึงวอนให้ลูกปราณี
อย่าตีแม่เด้อลูกเด้อ อย่าตีแม่เด้อลูกหล่า............
(ขึ้นเศร้า)โอ้..............โอ่...................โอ้.................
ทองจ้าทองลูกหล้าอย่าฆ่าแม่ ฟังกระแสแม่ก่อนนะลูกหนา
อย่าฆ่าแม่บาปกรรมจะตามมา เพราะมารดามีคุณเหลืออนันต์
ตั้งแต่เล็กจนโตแม่เลี้ยงเจ้า คุณของแม่ยายเฒ่ามีมากหลาย
เลี้ยงแต่น้อยจนโตใหญ่ให้เห็นใจ บ่เคยเอามือป่ายตีลูกตน
พอเลี้ยงใหญ่ขึ้นมาทรยศ เจ้าใจคดให้เลียวไม่สงน
ทองจ๋าทองบุตรตาโอ้ฤทน แม่ขอชีวิตเจ้าสักหนเถอะลูกยา
ทองจ๊าทองบุตรตาอย่าสิทำแม่กลัวแล้ว....
(รับ) เจ้าทองไม่ฟังคำแม่จักหน่อย จับได้แอกน้อยตีใส่หัวมารดา
ตีจนแม่มรณา ไม่มีความปราณีไม่มีความเมตตา
ฆ่าแม่ตายทองก็เปิดก่องข้าว พ่อเปิดออกแล้วก็เศร้าเพราะมองเห็นเลือดมารดา
ว่าจะกินข้าวก็กินไม่ลง กอดจูบแม่ตนแล้วก็หลั่งน้ำตา
แม่จ๋าลูกผิดไปแล้ว อภัยให้ลูกแก้วเทิดหนามารดา
ฆ่าแม่ตายเพราะความโกธา ยมบาลคงพาลูกลงอเวจี
เจ้าทองก็คิดกลัวบาป เลยสร้างพระธาตุบรรจุกระดูกมารดา
เลยใส่ชื่อธาตุก่องข้าวน้อย เพื่อเท้ารอยบาปกรรมที่เคยทำมา
นี้แหละหนาความหิวของคน หน้ามืดมัวมนฆ่าแม่ตนจนมรณา
เพราะความหิวจึงฆ่าตาย ของเตือนลูกหญิงชายอย่าเป็นดั่งว่ามา
ถ้าอยากเห็นเชิญแวะไปดู ธาตุก่องข้าวน้อยตั้งอยู่ที่บ้านตาดทอง


ขอบคุณ  http://www.baanmaha.com/community/thread23397.html


* 00057_1.jpg (71.59 KB, 640x480 - ดู 6683 ครั้ง.)

* 00057_0.jpg (91.2 KB, 640x480 - ดู 4847 ครั้ง.)

* 00057_11.jpg (62.38 KB, 640x480 - ดู 3395 ครั้ง.)

* 00057_2.jpg (74.94 KB, 640x480 - ดู 6719 ครั้ง.)

บันทึกการเข้า
singthong1
Newbie
*

พลังน้ำใจ : 3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 2 : Exp 38%
HP: 0%



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: 19 มกราคม 2555, 10:49:39 »

สูมื้อนี้ ก่องข้าวน้อยฆ่าแม่  บ่อค่อยมีแล้ว ...มีแต่ ย่าบ้า...ฆ่ายกครัว..ชันดอก วา

บันทึกการเข้า
หนองเหล่า
Jr. Member
**

พลังน้ำใจ : 35
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 85

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 7 : Exp 43%
HP: 0%



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: 19 มกราคม 2555, 19:25:51 »

เก่าแก่มาก ครับ  ผมจะต้องไม่พลาดไป กราบ ไหว้ บูชา อย่างแน่นอน ครับ.

บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.19 | SMF © 2006-2009, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!