"สิงโตหิน " ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม ?>
ชมรมอนุรักษ์พุทธศิลป์แห่งภาคอีสาน
The Buddhist Art Conservation Club Of Esan (North Eastern Part Of Thailand)
21 พฤศจิกายน 2567, 18:59:09 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  

กติกาในการ เช่า-แลกเปลี่ยนพระเครื่อง | พระเครื่องเมืองอุบลราชธานี | แจ้งปัญหาการใช้งาน
แจ้งเรื่องการยืนยันตัวตนสำหรับผู้ที่จะให้เช่าพระเครื่องฯ | วิธีสมัครสมาชิกเว็บ

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: "สิงโตหิน " ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม  (อ่าน 73149 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
vs12
VIP Member
*****

พลังน้ำใจ : 591
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 331

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 14 : Exp 73%
HP: 0%



ดูรายละเอียด อีเมล์
« เมื่อ: 27 ตุลาคม 2556, 14:17:27 »

    อาชญากรหมายเลข1ของประเทศไทยตลอดกาล คนในคุกยุคนั้นเรียกเค้าว่า "อาจารย์" กันทุกคน เค้าถูกศาลพิพากษาจำคุก 120ปี และโทษประหารชีวิตอีก2คดี เริ่มจากฆ่า " ขุนตระเวนปราบอริพ่าย " ท่านเป็นมือปราบที่เก่งกาจคนนึงแม้แต่ "หลวงกล้ากลางสมร(สิงห์เหนือ)" ยังนับถือเป็นรุ่นพี่
ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม ฉายาของเขาคือ สิงโตหิน ชื่อเล่นว่า เปีย เคยเป็นทหารพระธรรมนูญ (นายร้อย) แต่เกิดมาภายใต้ดาวโจร จนทำให้ต้องกลายเป็นโจรตลอดมา เพราะดันไปสังหารท่านขุนตะเวนปราบอริพ่ายเข้า จึงต้องเข้าคุก หนีคุก เข้าออกเป็นประจำ ทั้งบางขวาง เกาะตรุเตาบ้าง เขาเขียนฎีกาให้นักโทษในคุกทุกคนเพื่อขออภัยโทษ หรือลดโทษลง จึงเป็นที่รักของนักโทษทุกคนในคุก เขาเป็นพี่เลี้ยงนักโทษ คอยดูแลนักโทษทั่วไป เพราะเขาต้องการทำดีเพื่อจะได้รับอภัยโทษนั่นเอง สุดท้าย ปี2500 เขาก็ได้ออกมาเป็นสามัญคนทั่วไป แต่ถ้าเกิดความวุ่นวายในคุกเข้า ผู้คุมก็จะให้ไพฑูรย์เป็นคนเด็ดชีวิตนักโทษผู้นั้น จากที่อ่านประวัติของเขานะ น่าจะประมาณเกือบ100 กว่าศพแล้วล่ะ ทั้งดาบสองมือ มีดหมอควรญช้างหลวงพ่อเดิม ผ้ารอยเท้า ว่านกระชายดำที่ฝังไว้ที่หลังเขา แล้วอื่นๆ อีกมากมาย แต่ที่เค้านับถือที่สุดคือหลวงพ่อเดิมเพราะเขาเชื่อว่าที่รอดชีวิตมาได้ทุก ครั้ง นั้นเพราะหลวงพ่อเดิมท่านช่วยชีวิตไว้ตลอด เพราะบารมีหลวงพ่อเดิมนั้นสูงส่งมาก

พระเวทสังข์ถ่วง
ไพทูรย์เข้าตาจนถูกจับกุมเพราะน้องชายต่างมารดาวางแผน หลอกให้ติดกับที่บ้านตัวเองไพทูรย์คำรามใส่น้องชายต่างมารดาว่าเพียงเพื่อ เห็นแก่การเลื่อนยศมึงถึงขายกูกับหลวงอดุลยฯกูแหกคุกออกมาเมื่อใดกูจะมาเอา ชีวิตมึง สิงโตหินอย่างกูเขี้ยวเล็บไม่กร่อนกูพร้อมจะฆ่ามึงได้ทุกเวลา
ส่วนหลวงอดุลยฯท่านเดินทางมาล่วงหน้าเพื่อพักผ่อนตอนดึกท่านมากองกับกำการด้วยชุดไปรเวทท่านให้เบิกตัวไพทูรย์มาที่ห้องสอบสวน
ว่า อย่างไรไพทูรย์ ได้ข่าวความเหี้ยมโหดของนายมาตั้งแต่ฆ่าขุนตะเวนปราบอริพ่ายแล้ว นายมันเหี้ยมมากท่านขุนเป็นตำรวจยังยิงตายคามือ นายอ้างว่าเป็นการดวล ท่านขุนยิงนายไม่ออก บันทึกยินยอมน่ะ ศาลท่านไม่เชื่อ เพราะนายบุกไปในบ้านขุนในยามวิกาล มันก้อแสสดงเจตนาแล้วว่านานมันจงใจฆ่าท่านขุน
ท่านอธิบดีก็เป็นนักกฎหมาย ผมเองก็เคยเป็นนายทหารรัฐธรรมนูญ ก็ตำรวจนิติเวชส่งแต่ผลการตรวจอาวุธผมว่ามีรอยยิงจริง แต่ไม่ส่งรายงานการตรวจพิสูจน์ปืนของท่านขุน กลับบอกว่าไม่มีร่องรอยการยิง ก็ผมเห็นท่านขุนกระดิกไกปืน เห็นนกสับ ถ้าหากเอาตามจริงจานท้านกระสุนต้องมีรอยเข็มแทงชนวนเจาะ อีกอย่างนึงผมก็ถูกศาลท่านตัดสินประหารชีวิตไปแล้วท่านอธิบดีจะฟื้นฝอยหา ตะเข็บทำไม
แล้วคดีตำรวจถูกยิงตายในหมู่บ้านหนองโพถึง5ศพ พยานบอกว่านายเป็นคนยิงนายจะสารภาพหรือภาคเสธ
ท่าน อธิบดีผมมาต่างถิ่นผมต้องมีลูกน้องติดตามมาหรือว่าอาชญากรไม่มีสิทธิ์มีลูก น้องคนเราถูกตำรวจล้อมยิงจะนั่งงอมืองอเท้าให้ถูกยิงฝ่ายเดียวหรอทุกคนไม่ ว่าจะเป็นโจรหรือคนธรรมดาหรือตำรวจมีสิทธิ์ป้องกันตัวเองแต่ถ้าเป็นคนธรรมดา ตำรวจแจ้งข้อหาป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ ถ้าเป็นโจร ตำรวจก็ตั้งข้อหาต่อสู้ขัดขืนการจับกุม ถ้ายิงตำรวจบาดเจ็บหรือตาย ก็ตั้งข้อหาพยายามฆ่า หรือฆ่าเจ้าพนักงานระหว่างปฎิบัติหน้าที่ แต่หลายครั้งแม้ไอ่เสือมอบตัวก็ถูกนำตัวไปยิงทิ้งแล้วสร้างหลักฐานว่าพยายาม ฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงถูกยิงตาย บางครั้งยอมแพ้ก็ถูกยิงตาย แล้วบอกว่าวิสามัญฆาตกรรม
เป็นอันว่านายให้การภาคเสธละซิไพทูรย์
การ ต่อสู้เหมือนสาดน้ำรดกัน ตำรวจตาย5ศพผมไม่ได้ยิงทุกศพลูกน้องผมก็ยิงใส่ หากชันสูตรกันจริงๆก็จะพบว่าตำรวจแต่ละคนถูกปืนขนาดไหนบ้าง แต่นี่โยนมาให้ผมทั้งหมด ผมใช้ปืนลูกโม่ขนาด.38บรรจุกระสุน6นัดผมจะยิงตำรวจตาย5ศพได้อย่างไรตำรวจของ ท่นสร้างหลักฐานมาปรักปรำผม
ก็ในเมื่อนายเชื่อว่านายไม่ได้ทำนายแหกคุกทำไมแหกแล้วแหกอีกยิงตำรวจบาดเจ็บล้มตายทุกครั้ง
ก็ในเมื่อผมถูกสร้างหลักฐานเท็จผมก็ต้องหนีเพื่อเอาตัวรอดหรือท่านจะให้ผมยอมรับตามหลักฐานที่ลูกน้องท่านสร้างมามัดผม
หน้าตาของหลวงอดุลยฯแดงกล่ำดวงตาที่ดุอยู่แล้วดูน่ากลัวยิ่งขึ้นท่านยกกำปั้นทุบลงบนโต๊ะเสียงดังสนั่น
ไอ้ ไพทูรย์เอ็งมันสันดานโจรชัดๆไอ้ผู้ร้ายปากแข็งตำรวจจะไปใส่ร้ายเอ็งทำไมใน เมื่อเอ็งมีโทษประหารอยู่แล้ว ชีวิตเองมีชีวิตเดียว เขาไม่ประหารศพเอ็งหรอกไอ่โจรในสายเลือด เอ็งมันโจรในสันดาน พ่อแม่เอ็งสั่งสอนให้ทำร้ายสังคมอย่างนี้หรอ
ไอ่หลวง..มึงก็หัวหน้าพวก โจรเหมือนกัน แต่เป็นโจรในเครื่องแบบ พ่อแม่ของกูไม่รู้เรื่องอะไร มึงเอาพ่อแม่กูมาเหยียบย่ำได้หรือ กูขอประกาศว่ากูจะขอจองเวรมึงไปทุกที่ ตราบใดที่กูยังมีลมหายใจ อย่าหวังว่ากูจะลามือ
หลวงอดุลยฯผุดลุกขึ้นยืนขบกรามกรอดยกมือชี้หน้าไพทูรย์คำรามลั่น
กุจะกุมตัวมึงขึ้นไปกรุงเทพด้วยตัวกูเอง ได้ข่าวว่ามึงแน่นักหรือดกูอยากจะดูว่ามึงจะมีเดชอะไรจะสำแดง เอามันกลับไปขังอย่างเดิม
หลัง จากหลวงอดุลย์กลับจากกองบังคับการตำรวจเมืองตาก ผู้บัญชาการตำรวจเมืองตากก็สัง่ให้ลูกน้องจัดการเลี้ยงอาหารมื้อดึกไพทูรย์ ด้วย แกงส้ม มะรุม สามอิ่มสลบแล้วเอาน้ำสาดให้กินจนอิ่มหรือ3สลบ จึงห้ามไปไว้ในห้องขัง
พวกพ่อครัวพวกนี้เก่งหน้าตาไม่แตกแต่เนื้อตัวช้ำ ไปหมด ไพทูรย์มารู้สึกตัวตอนรุ่งเช้านอนระบมเนื้อตัวไปหมด แม้แต่ข้าวก็กินไม่ลงกินได้แต่น้ำ
ตอนสายหลวงอดุลย์ฯท่านมาประชุมตำรวจ เมืองตากและตำรวจบอกกับท่านว่าพบความเคลื่อนไหวของบรรดาพรรคพวกของเสือไพ ทูรย์ที่มาดูลาดเลาเพื่อหาทางชิงตัวระหว่างนำตัวกลับกรุงเทพ หลวงอดุลยฯท่านจึงตัดสินใจเลือกการเดินทางๆน้ำในการกลับกรุงเทพแทน
ไพ ทูรย์เล่าว่าตอนเย็นมีการเบิกตัวออกจากห้องขังตีตรวนสองสถานคือมือและเท้า นำขึ้นรถไปยังท่าเรือไพทูรย์รู้สึกใจพองโต เพราะการเดินทางน้ำนั้นสามารถใช้พระเวทสังข์ถ่วงที่หลวงพ่อเดิมได้ประสิทธิ์ ประสาทให้กับไพทูรย์ และได้ลองในสระน้ำวัดหนองโพมาแล้ว
ผู้การเมืองตาก ได้แจ้งกับหลวงอดุลยว่า เสือไพทูรย์เคยกระโดดจากรถไฟขณะข้ามแม่น้ำขณะถูกคุมตัวจากเชียงใหม่ทั้งที่ มีตรวนใส่อยู่ พวกตำรวจที่นั่นไม่รู้ว่าหลวงอดุลยฯไม่เชื่อเรื่องคาถาอาคม ท่านเคยบอกกับตำรวจที่เป็นนายเวรของท่านว่า
ไอ่เสือที่ว่าแน่ผมยิงตายมา หลายสิบศพแล้วตระกรุดเอยเขี้ยวหมูตันเอยพระเครื่องเอยผมยิงตายมาหลายศพแล้ว ผมไม่ได้ลบหลู่ แต่ผมเชื่อว่าของดีไม่คุ้มชีวิตคนชั่วที่ผิดกฎหมาย ที่ว่ามันเหนียวหายตัวได้เพราะมันยังไม่ถึงที่ตายแต่พอมันมาเจอกับผมเสร็จ ทุกราย
หลวงอดุลยฯพยายามสอบสวนไพทูรย์ตลอดทางที่เรือแล่นแต่ไม่มีความคืบ หน้า ไพทูรย์บอกว่าจะให้การที่ชั้นศาล หลวงอดุลฯท่านเป็นลูกผู้ชายแม้จะโกรธแต่ไม่เคยสั่งลูกน้องมาเลี้ยงแกงมะรุม ไพทูรย์ สมัยนั้นถ้ามีเรื่องร้องเรียนการซ้อมผู้ต้องหาหากสอบสวนแล้วมีหลักฐาน หลวงอดุลฯจะสั่งลงโทษทางวินัยทันที
เมื่อท่านเกษียณไปแล้วก้อถึงยุคท่านเผ่า ศรียานนท์ การกระทำทารุณกรรมต่อผู้ต้องหาโดยเฉพาะคดีทางการเมืองแล้วด้วยล่ะก็ตายเป็น เปือ เก๋งดำไปถึงหน้าบ้านใคร คนนั้นจะถูกเชิญไปกองปราบและจะไม่ได้กลับมาในสภาพมีลมหายใจอีก
ไพทูรย์ เล่าว่ารอนแรมมาหลายคืนจนถึงลานเท แสงจันทร์ข้างขึ้นทำให้ความเวิ้งว้างของลานเทและศาลเจ้าแม่ลานเท ไพทูรย์ถูกล่ามติดกับเสาเหล็กในเรือ สลับกับการถูกเรียกตัวไปสอบสวนแต่ไม่มีอะไรคืบหน้าไพทูรย์ถูกให้นำตัวกลับไป ล่าม
ขณะนั้นไพทูรย์ร่ายพระเวทย์สังข์ถ่วงจนจิตป็นหนึ่ง จึงแกล้งเซ พอตำรวจถูกเบียดจึงเสียหลัก ไพทูย์ขยับตัวไปทางกราบเรือโดยคิดว่าหลวงอดุลฯยังนั่งอยู่ที่เก่า แต่หลวงอดุลฯเดินตามมาติดๆ
อย่าขยับนะเสือไพทูรย์ กูเอามึงตายแน่
ผมมันคนตายไปแล้วตายไปตั้งแต่ถูกพิพากษาคดียิงขุนตะเวนปราบอริพ่ายผมจะไปกลัวตายทำไม
ไพ ทูรย์พุ่งไปที่กราบเรือ มองไปยังหลวงอดุลฯเห็นประกายไฟพุงกระฉูดมาจากปากกระบอกปืนของท่านรู้สึกจุก ที่หน้าอก ด้วยแรงปะทะของลูกปืน ไพทูรย์ทิ้งตัวลงไปในน้ำ ปากร้องตะโกนฝ่าความมือว่า
เจ้าแม่ลานเทคุ้มชวิตลูกด้วย
ตรวนถ่วงไพ ทูรย์ให้ดิ่งไปในน้ำลึกลงไปทุกที ร่ายพระเวทสังข์ถ่วง ขยับข้อมือข้อเท้าตรวนก็หลุดออกรีบพุ่งตัวขึ้นเหนือน้ำ สูดอากาศเข้าไปเต็มปอด
ว่ายน้ำเข้าฝั่งหลวงอดุลฯสั่งให้วนเรือกลับมาหา ให้ฉายไฟไปบนผืนน้ำแต่ไม่เจอไพทูรย์
หลวง อดุลฯวนหาอยู่พักใหญ่จึงสั่งให้แล่นเรือกลับกรุงเทพ ส่วนไพทูรย์ขึ้นบกไปหาพวกเพื่อทำการหลบหนี หนังสือพิมพ์พาดหัวข่าวตามที่ท่านอธิบดีแถลงว่า
ขบวนการบุกชิงตัวเสือไพ ทูรย์ยิงกันสนั่นลานเท โดยเนื้อข่าวบรรยายว่าพรรคพวกของเสือไพทูรย์นำเรือเร็วมาบุกชิงตัวเสือไพ ทูรย์ไป ดวลปืนกันสนั่นหวั่นไหวเสือไพทูรย์จมน้ำไปพร้อมกับโซ่ตรวน คาดว่าเสียชีวิตแล้ว อธิบดีสั่งตามหาศพด่วน
ไพทูรย์ว่ายน้ำไปขึ้นบกตรง หน้าศาลเจ้าแม่ลานเท ก้มลงกราบเจ้าแม่ด้วยสำนึกบุญคุณที่ท่านห้ามเรือ(จระเข้)พาหนะเข้าเจ้าแม่ ไม่ให้มาทำร้าย
สมัยก่อนใครอยากเห็นพาหนะของเจ้าแม่ ก็ทำกระทงหยวกกล้วยนำอาหารหวานคาววางไว้บนแพ จุดธูปเทียนไหว้เจ้าแม่แล้วปักไว้บนแพ เมื่อแพลอยออกไปวนที่ใดพาหนะเจ้าแม่จะผุดมาให้เห็น ปู่ย่าตายายเล่าว่าแต่ก่อนโน้นมีงานประจำปีนมัสการเจ้าแม่ พาหนะของเจ้าแม่จะคลานขึ้นมาบนบกให้ผู้คนเอากาบมะพร้าวมาขัดตะไคร่น้ำที่จับ เขียวปี๋ออกจากเกร็ด อ้าปากโร่ให้ผู้คนขัดโดยไม่ทำอันตรายแต่อย่างไร
นั่น เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของไพทูรย์ได้เผชิญหน้ากับหลวงอดุลย เดชจรัส เพราะขณะที่ท่านถึงแก่กรรม ไพทูรย์ยังอยู่เรือนจำบางขวาง นรกบนแดนมนุษย์ที่หฤโหดที่สุด

[/size] จากหนังสือ เกิดใต้ดาวโจร
พลเอก พลเรือเอก พลอากาศเอก พลตำรวจเอก หลวงอดุล อดุลเดชจรัส และ ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม


* General-eye-looks.jpg (116.71 KB, 600x1050 - ดู 56329 ครั้ง.)

* pt01.jpg (246.17 KB, 600x949 - ดู 48192 ครั้ง.)

thxby15160M30, คนโก้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27 ตุลาคม 2556, 19:00:59 โดย vs12 » บันทึกการเข้า
pock101
Newbie
*

พลังน้ำใจ : 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1

Level and Hp mod by the DtTvB :: version 1.02 :: Made for Zone-IT.com Level 1 : Exp 20%
HP: 0%



ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: 17 กุมภาพันธ์ 2557, 09:21:24 »

ผมมีหนังสือของ อ ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม ทั้งหมด 11 เล่ม ครบชุด ใครสนใจติดต่อที่ sarnsoen@hotmail.com ได้นะครับ

 wan-e016 wan-e016 wan-e016

บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.19 | SMF © 2006-2009, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!