?>
ชมรมอนุรักษ์พุทธศิลป์แห่งภาคอีสาน
The Buddhist Art Conservation Club Of Esan (North Eastern Part Of Thailand)
02 เมษายน 2568, 16:02:08 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  

กติกาในการ เช่า-แลกเปลี่ยนพระเครื่อง | พระเครื่องเมืองอุบลราชธานี | แจ้งปัญหาการใช้งาน
แจ้งเรื่องการยืนยันตัวตนสำหรับผู้ที่จะให้เช่าพระเครื่องฯ | วิธีสมัครสมาชิกเว็บ

หน้า: 1 ... 7 8 [9] 10
 81 
 เมื่อ: 04 มกราคม 2568, 05:58:06 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
เมื่อเกิดมาเป็นคน รู้ตัวว่าเราจะต้องตาย
จงรีบทำคุณงามความดีทำประโยชน์ไว้เสีย

การทำมากหรือทำน้อย ไม่เป็นปัญหา
ขอให้ตั้งเจตนาให้ดี
ให้เชื่อมั่นในบุญกุศลที่ตนทำนั่น
จิตใจแน่วแน่อยู่กับกุศลอันนั้น
ก็จะเป็นของมากอยู่เอง

ไม่ต้องเอาหน้า เอาเกียรติ
ไม่ต้องเอาชื่อ เอาเสียง
เอาเฉพาะใจของตนเอง
ตั้งศรัทธาแน่วแน่เฉพาะบุญกุศลที่ตนทำเอง
นั่นละ เป็นอานิสงส์มาก กุศลมาก ตรงนี้แหละ..”

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี

 82 
 เมื่อ: 03 มกราคม 2568, 06:02:39 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
พวกเราทุกๆคน ที่นับถือพุทธศาสนา
คือ พระรัตนตรัย
จงนับถือให้เข้าถึงภายใน
ให้หยั่งเข้าถึงภูมิธรรม
คือ เข้าถึงพระไตรสรณคมน์จริง
จึงจะสำเร็จประโยชน์
ในการที่เราประพฤติปฏิบัติธรรม

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๒๘

 83 
 เมื่อ: 02 มกราคม 2568, 06:00:57 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
ปล่อยวาง ในการที่ควรปล่อยวาง
รักษา ในควรที่ควรรักษา
ระวัง ในควรที่ควรระวัง
นี่เป็นอุบายแยบคายของตนเอง
เป็นหน้าที่ของตน

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
จากหนังสือธรรมะเล่มที่๗๒

 84 
 เมื่อ: 30 ธันวาคม 2567, 07:01:35 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
#พรปีใหม่
1.ให้มีทาน การสละแบ่งปันของตนแก่คนที่ควรให้
2.พูดจาไพเราะ ไม่เป็นเครื่องแสลงหูแก่คนอื่น
3.จงทำแต่สิ่งที่จะให้เกิดประโยชน์แก่กันและกัน
4.ทำตนให้สม่ำเสมอ ไม่เย่อหยิ่งจองหอง
พร 4 ประการ นี้หากทุกคนนำไปเก็บไว้ใช้จนตลอดปีแล้ว อาจเหลือไว้ใช้ในปีต่อไปก็ได้ เพราะยิ่งใช้ก็ยิ่งงอกงาม ไม่หมดเหมือนอย่างสตางค์
1 #ทาน การสละวัตถุสิ่งของแก่คนอื่น ถึงจะให้ไปของเราก็ยังไม่หมด นอกจากไม่หมดแล้ว เรายังได้ความอิ่มใจ ความเลื่อมใส ความสุขใจในการกระทำความดีของตน แล้วยังเป็นเครื่องสมานมิตรไมตรี เกิดความนิยมยินดีแก่ผู้ได้รับและผู้รู้ทั้งหลายอีกด้วย ความได้ทั้งหลายดังกล่าวมานี้จะประทับแน่นแฟ้นอยู่ในดวงใจของเราไม่มีวันเสื่อมหายเลยตลอดวัน
2 #วาจาที่พูดไพเราะ ก็ยิ่งดีเลิศ โดยที่เราไม่ได้ลงทุนแม้แต่สตางค์เดียว ขอแต่ให้พูดไพเราะพูดจริงพูดแต่สิ่งที่มีประโยชน์ เว้นการพูดเท็จ โกหก มารยาหลอกลวงเพ้อเจ้อเหลวไหล หรือเสียดสีสับส่อให้เกิดความวิวาทกันแล้ว เราก็จะมีแต่ความสุขใจ ได้เพื่อนมิตรที่ดี มีศีลธรรม นำให้เกิดสันติสุขทุกเมื่อ
3 #การงานไม่ว่าจะทำด้วยกายด้วยวาจาและใจก็ตามถ้ามุ่งแต่จะให้เกิดประโยชน์แก่กันและกันแล้ว เว้นสิ่งอันจะทำให้เกิดโทษเสื่อมเสียและเดือดร้อนทั้งแก่ตนเองและคนอื่นโลกอันนี้ก็จะเป็นโลกสันติสุข เป็นโลกที่น่าอยู่อาศัย ไม่ดิ้นรนต่อไปอีกแล้ว มนุษย์ทั้งหลายที่เดือดร้อนดิ้นรนเป็นทุกข์อยู่ทุกวันนี้ก็เพราะมนุษย์เราเห็นแก่ตัวแล้วก็ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อประโยชน์ส่วนตัวเป็นส่วนมากปราศจากความเห็นอกเขาอกเรามันจึงได้เป็นอยู่เช่นนี้
4 #ทำตนให้สม่ำเสมอ ในบุคคลนั้นๆในสิ่งนั้นๆ ไม่เย่อหยิ่งจองหองยกตนข่มเพื่อน เห็นคนอื่นสู้ตนไม่ได้ใครจะคบค้าสมาคมเขาก็ทำเป็นทีว่าคบเพื่อเป็นสมบัติความรู้ไว้เท่านั้นแต่ในใจเขาเกลียดขี้หน้าไม่อยากเห็นเลยการทำตนให้สม่ำเสมอย่อมได้ความนิยมชมชอบในสังคมทั่วไปเป็นผู้ใหญ่คนก็รัก เป็นผู้น้อยเขาก็เอ็นดูประชาชนย่อมช่วยบริหารรักษาเขาตลอดเวลา
พรทั้งสี่นี้ยังไม่ได้รับหรือรับเอาไว้แล้วแต่ยังไม่ครบ 4 ก็ขอได้พากันรับเอานั้นเสียในปีใหม่นี้ จึงจะมีความสุขอันแน่นอนถาวร ความสุขที่ได้รับหรือส่งเป็นของขวัญก็ดีสุขกินเลี้ยงปีใหม่ส่งท้ายปีเก่าก็ดีสุขกินเลี้ยงปีใหม่ส่งท้ายปีเก่าก็ดี หรือสุขเที่ยวชมงานก็ดี เป็นความสุขไม่คุ้มค่าและไม่ถาวรอะไรนัก บางทีบางรายอาจจะถูกฝ่ายหนึ่งแต่อีกฝ่ายหนึ่งอาจดิบหรือไหม้ไปก็ได้ ใครจะไปตามรู้เห็น
นี่เป็นการรับพรความสุขปีใหม่อย่างไม่ผิดหวัง
หากเราไม่ประพฤติตนตามหลักให้เกิดความสุข 4 ข้อดังกล่าวมานั้นแล้ว จะไปขอพรจากคนเฒ่าคนแก่หรือผู้ที่เราเคารพนับถือเข้าวัดหาพระอาจารย์กี่อาจารย์ก็เอาเถิด คงไม่สำเร็จผลนอกจากรักษาประเพณีอันดีงามไว้เท่านั้น

พรปีใหม่ หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
คัดจาก หนังสือเทสรังสีรำลึก

 85 
 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2567, 07:21:15 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
..บางคนบอกว่าเมื่อเราจะตายต้องรักษาสติไว้ ไม่คิดถึงกรรมชั่ว
ความข้อนั้นเป็นความประมาทของเขาเองเขาคิดเดาเอาเฉย ๆ
มันจะรักษาได้อย่างไรในเมื่อมันไม่มีสติ มีกรรมนิมิต เป็นเครื่องชักจูงให้เป็นไปเอง
ในการที่ปล่อยให้เป็นเอง ไม่สามารถจะกลับคืนมาแก้ตัวอีกได้ฉะนั้น

..ทำเสียเดี๋ยวนี้ตั้งแต่เป็นมนุษย์อยู่ และเมื่อถึงคราวจะตายนั้นแล้วมันเป็นเองหรอก
ทำดีมาก ทำชั่วมาก มันก็เป็นไปตามเรื่องที่ทำเอาไว้ มันเป็นเอง เกิดเองของมันต่างหาก

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี

 86 
 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2567, 07:14:05 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
...ผู้ใดพิจารณาความตายอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก นั้น
จึงจะเป็นผู้ไม่ประมาท
หายใจเข้าแล้วไม่หายใจออก ก็ตาย
หายใจออกแล้วไม่หายใจเข้า ก็ตาย
เป็นอยู่อย่างนี้เรียกว่า เป็นผู้ไม่ประมาท

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี

 87 
 เมื่อ: 28 ธันวาคม 2567, 06:14:47 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
ผู้ที่ตั้งอยู่ในพระรัตนตรัย ที่จักได้ชื่อว่าเป็นพระพุทธบริษัทที่แท้จริง
ต้องประกอบด้วยองค์คุณ ๕ ประการ คือ

(๑) มีความเชื่อมั่นในพระพุทธเจ้าว่า
      ท่านเองเป็นพระสยัมภู ตรัสรู้เองจริง
      แล้วไม่ติเตียนและเหยียดหยามดูหมิ่น

(๒) พระธรรมคำสอนของพระองค์นั้น
    เป็นนิยยานิกธรรมนำผู้ปฏิบัติตามให้เป็นคนดีได้
     ตามฐานะชั้นภูมิ ควรแก่การปฏิบัติของตนๆ
     แล้วเทิดทูนเอามาปฏิบัติตามโดยไม่มีความประมาท

(๓) พระอริยสงฆ์ผู้เชื่อฟังคำสอนของพระองค์แล้วนำเอาไปปฏิบัติตาม
       จนได้รู้แจ้งเห็นจริงตามพระองค์มีจริง
         จึงได้เป็นธรรมทายาท นำเอาคำสอนของพระองค์มาสั่งสอนพวกเรา
         จึงเป็นบุคคลที่เราควรเทิดทูนไว้ในที่ควรสักการบูชา

(๔) เชื่อกรรมเชื่อผลของกรรมว่า
      เราทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ด้วยตนเอง
      มิใช่เทวดาอินพรหมและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆ ภายนอกจะอำนวยผลให้เรา (มงคลตื่นข่าว)           
      ถือและปฏิบัติพระรัตนตรัยมิใช่เพื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์และโชคลาภ
       แต่ปฏิบัติตามให้เป็นคนดีจนพ้นจากทุกข์ได้ในที่สุด

(๕) ไม่ทำบุญนอกพุทธศาสนา
     หากจำเป็นจะต้องทำเพื่อสังคมก็ทำเพื่อสงเคราะห์
     มิใช่ทำนอกบุญญเขตในพุทธศาสนา
     ถ้าหากถึงขั้นพระอริยบุคคลที่เป็นฆราวาสแล้ว ต้องมีนิจศีลอีก
   
      ผู้จะเป็นพระพุทธบริษัทโดยสมบูรณ์ ต้องมีองค์คุณทั้ง ๕ ประการนี้เป็นประจำ แม้ผู้จะบรรพชาอุปสมบทเป็นสามเณรและเป็นพระภิกษุ ก็จะต้องมีองค์คุณทั้ง ๕ นี้ให้ครบเสียก่อน การบวชจึงจะสมบูรณ์


หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี
ที่มา พุทธศาสนาเสื่อมได้อย่างไร

 88 
 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2567, 06:17:50 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
"..รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ แลธรรมารมณ์ทั้งหลาย ทั้งภายนอกแลภายใน
เห็นเป็นอนิจจังของไม่เที่ยงจีรังถาวรยั่งยืน เกิดมาแล้วก็แปรปรวน ผลที่สุดก็ดับสูญหายไปตามสภาพของมัน สิ่งทั้งปวงเกิดขึ้น รองรับเอาสิ่งที่ไม่เที่ยงนั้น จึงต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ตลอดเวลา
สิ่งทั้งปวงไม่ว่ารูปธรรม แลนามธรรม เกิดขึ้นมาแล้วย่อมเป็นไปตามสภาพของมัน ใครจะห้ามปรามอย่างไรๆ ย่อมไม่อยู่ในอำนาจของใครทั้งหมด มิใช่ของไม่มี ของมีอยู่ แต่ห้ามมันไม่ได้จึงเรียกว่า อนัตตา.."

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี

 89 
 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2567, 05:49:29 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
การปฏิบัติพุทธศาสนานั้น เราอย่าไปเอาถ่ายเดียว
จะนั่งภาวนาให้มันตายละ เอาภาวนาอย่างเดียว
รักษาศีลอย่างเดียวละ ไม่ต้องทำทานก็แล้วกัน
ทำทานอย่างเดียวแล้วไม่ต้องไหว้พระสวดมนต์
อะไรไม่ต้องทำทั้งหมด ไม่มีกิจวัตร ก็ไม่ได้เหมือนกัน
การปฏิบัติพุทธศาสนาปฏิบัติมาโดยลำดับ ตั้งแต่ไหว้พระสวดมนต์
ทำความเคารพคารวะบิดามารดาคนเฒ่าคนแก่ ได้ทั้งนั้นแหละ
บูชาดอกไม้ธูปเทียนได้ทั้งนั้น
เป็นความดีทั้งนั้น มันทำใจให้เบิกบาน ให้สะอาด


หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี


 90 
 เมื่อ: 25 ธันวาคม 2567, 06:13:43 
เริ่มโดย middle spirit - กระทู้ล่าสุด โดย middle spirit
"ทำทาน มีมากมีน้อยก็ต้องทำด้วยตนเอง
รักษาศีล ก็โดยเฉพาะส่วนตัวแท้ ๆ ใครรักษาศีลให้ไม่ได้
ทำสมาธิ ยิ่งลึกซึ้งหนักแน่นเข้าไปกว่านั้นอีก
แต่ละคนก็ต้องรักษาจิตใจของตน ๆ ให้มีความสงบหยุดวุ่นวายแส่ส่าย
ถ้าเราไม่รู้จักวิธีทำสมาธิแล้ว ก็ทำสมาธิไม่เป็น
จิตใจก็เดือดร้อนดิ้นรนเป็นทุกข์
เหตุนั้นจึงว่า การทำทาน รักษาศีล ทำสมาธิ นี่เป็นกิจเฉพาะส่วนตัว
ทุก ๆ คนจะต้องทำให้เกิดมีขึ้นในตน"

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี

หน้า: 1 ... 7 8 [9] 10
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.19 | SMF © 2006-2009, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!