?>
ชมรมอนุรักษ์พุทธศิลป์แห่งภาคอีสาน
The Buddhist Art Conservation Club Of Esan (North Eastern Part Of Thailand)
23 พฤศจิกายน 2567, 14:59:27
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
ช่วยเหลือ
ค้นหา
ปฏิทิน
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
กติกาในการ เช่า-แลกเปลี่ยนพระเครื่อง
|
พระเครื่องเมืองอุบลราชธานี
|
แจ้งปัญหาการใช้งาน
แจ้งเรื่องการยืนยันตัวตนสำหรับผู้ที่จะให้เช่าพระเครื่องฯ
|
วิธีสมัครสมาชิกเว็บ
แสดงกระทู้
หน้า: [
1
]
1
ห้องพระ
/
พระคณาจารย์อริยสงฆ์รวมจังหวัดอุบลราชธานี,ศรีสะเกษ,ยโสธร,อำนาจเจริญและมุกดาหาร
/
Re: หลวงปู่แสง ญาณวโร
เมื่อ: 01 กันยายน 2556, 09:37:56
เข้ามาติดตามครับผม....โดยส่วนตัวแล้วไม่อยากให้มีปัญหาแบบนี้ครับ พระที่ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบอยู่ที่ไหนแล้วสร้างความเจริญทางศาสนาผมว่าดีทั้งนั้นครับ เราชาวพุทธนะขอรับ จะคิดแบ่งแยกกันไปใย ปัญหานี้เคยเกิดขึ้นที่เขื่องในบ้านผม มีพระธุดงองค์หนึ่งท่านผ่านมาพบซากปลักหักพังซึ่งเป็นหลักฐานว่าเคยเป็นที่พักสงฆ์และเป็นที่ๆน่าปฎิบัติธรรมสถานที่นี้อยู่ตรงป่าช้าเก่าติดๆๆกับโรงพยาบาลเขื่องในถ้าผมจำไม่ผิดท่านที่ใช้ชื่อว่า...คนโก้....ท่านรู้จักสถานที่นี้ดี.....พระธุดงองค์ที่ผมกล่าวท่านเลยปักกรดอยู่ปฎิบัติธรรมที่นั่นซึ่งสถานที่แห่งนี้เคยมีพระมาอยู่อย่างมากสองวันบ้างสามวันบ้างส่วนมากอยุ่ไม่ได้บางองค์ต้องย้ายออกมาตอนกลางดึกก็มีซึ่งชาวบ้านต่างรู้ดีว่าเพราะอะไร แต่สำหรับพระธุดงองค์นี้ท่านอยู่ได้นานกว่าองค์อื่นๆๆ จึงมีชาวบ้านใจบุญบางส่วนเริ่มเข้าไปสนทนากับท่านแล้วนิมนต์ท่านอยู่ที่นี่ต่อเพื่อพื้นฟูสถานที่แห่งนี้ให้กลับมารุ่งเรืองอย่างเดิมท่านก็รับปากที่จะอยู่ จึงมีการทำการปลูกสร้างกระท่อมแบบง่ายๆๆให้ท่านพำนัก ชาวบ้านที่ศรัทธาก็เริ่มมาทำบุญ ชาวบ้านที่เคยไปวัดบ้านก็เริ่มไม่พอใจว่ามาทำให้ชาวบ้านส่วนหนึ่งต้องแยกไปที่พักสงฆ์ ทั้งที่เมื่อก่อนเคยไปที่เดียวกัน หนักเข้าท่านสมภารวัดยังออกมาด่าว่าเสียๆๆหายๆๆขับไล่พระที่มาอยู่ที่พักสงฆ์ อีกทั้งโยมอุปฎากท่านสมภารวัดบ้านก็ด่าว่าท่านเวลาออกบิณฑบาตร แต่ท่านมิได้ตอบโต้แต่อย่างได หนักเข้ายังส่งคนมาแกล้งท่านต่างๆๆนาๆๆทั้งเอาอุจจาระมาวางไว้ตรงที่ท่านฉันท์ข้าวบ้าง ตัดไฟบ้าง ทุบท่อน้ำประปาบ้าง ท่านก็มิได้ว่าอะไร จนนายตำรวจท่านหนึ่งท่านทนต่อการกระทำของชาวบ้านบางคนที่ทำกับพระไม่ไหวท่านจึงตัดสินใจยกที่ดินตัวเองให้พระองค์นั้นไปตั้งเป็นสำนักสงฆ์เพื่อปฎิบัติธรรมเหตุการนี้จึงยุติลง แต่เรื่องยังไม่จบเท่านั้นครับ กาลต่อมาอีกสองเดือนเรื่องไม่น่าเชื่อเริ่มบังเกิดตามมาหรือว่าอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญก็เป็นได้ ทั้งท่านสมภาร โยมอุปฎากท่านสมภารที่เคยเป็นแกนนำในการขับไล่ เรื่มป่วยจนต้องล้มหมอนนอนเสื่อแบบไม่มีสาเหตุ จนต้องเสียชีวิตในเวลาไล่เลี่ยกัน ทั้งสอง ชาวบ้านต่างวิจารณ์กันไปต่างๆๆนาๆๆ แล้วก็เลือนหายไปจนทุกวันนี้ อันนี้ถือว่าเอามาเล่าสู่กันฟังนะครับ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจนจบครับผม คิดดี พูดดี ทำดี เจอแต่สิ่งดีๆแน่นอน ครับผม
2
ห้องพระ
/
พระคณาจารย์อริยสงฆ์รวมจังหวัดอุบลราชธานี,ศรีสะเกษ,ยโสธร,อำนาจเจริญและมุกดาหาร
/
หลวงปู่เคน เรวโต วัดบ้านเอ้ อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี
เมื่อ: 31 สิงหาคม 2556, 09:58:56
หลวงพ่อ เคน เรวโต วัดบ้านเอ้ ต.ก่อเอ้ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี.....เท่าที่ผมมีครับผม
3
ห้องพระ
/
พระคณาจารย์อริยสงฆ์รวมจังหวัดอุบลราชธานี,ศรีสะเกษ,ยโสธร,อำนาจเจริญและมุกดาหาร
/
Re: หลวงปู่จันทร์ คัมภีรปัญโญ
เมื่อ: 31 สิงหาคม 2556, 09:35:38
ประมานนี้ครับผม ขอลงแค่นิดหนึ่งก่อน ขอรับ
พ่อของผมเป็นช่างไฟฟ้า เวลามีงานที่วัดทีไรหลวงปู่ท่านจะให้คนมาบอกให้พ่อไปจัดการเรื่องต่อสายไฟภายในงานตลอดและพ่อก็ไปรับใช้ท่านอย่างเต็มกำลัง หลวงปู่ท่านเมตตาพ่อมากๆและทำนายบอกพ่อไว้ว่าลูกคนแรกเกิดมาจะเป็นผู้ชาย ซึ่งก็คือตัวผม และเกิดปีเดี๋ยวกันกับปีที่ท่านสร้างเหรียญรุ่นต่อมา คือปี 2517 หลวงปู่ได้มอบวัตถุมงคลให้พ่อมาพอสมควรและกำชับว่าให้เก็บไว้ให้ลูกหลานสืบไป
4
ห้องพระ
/
พระคณาจารย์อริยสงฆ์รวมจังหวัดอุบลราชธานี,ศรีสะเกษ,ยโสธร,อำนาจเจริญและมุกดาหาร
/
Re: ใครแขวนพระอะไรบ้างครับ
เมื่อ: 30 สิงหาคม 2556, 20:46:44
หลวงปู่เผือกวัดสาลีโข จ.นนทบุรี ภาพขาวดำ หลวงปู่น้อยวัดตึก จ.นนทบุรี
5
ห้องพระ
/
หลวงปู่บุญชู วัดบ้านวังมน
/
Re: หลวงปู่บุญชู ฐิตคุโณ วัดบ้านวังมน
เมื่อ: 30 สิงหาคม 2556, 11:20:10
เรื่องราวของผมที่ได้ไปกราบท่านหลวงปู่ชู ครับ ผมเป็นคนอำเภอเขื่องใน โดยกำเหนิดแต่ไปทำงานอยู่ที่ จ.นนทบุรี อยู่12ปี มีโอกาศได้ย้ายงานมาอยู่ที่บ้านเกิดแล้วพี่ๆที่เป็นพ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดเขื่องในชวนไปกราบท่านผมก็ไปด้วย วันนั้นไปกันเต็มรถตู้คนก็ประมานสิบกว่าคนได้พอไปถึงหลวงปู่ท่านนั่งอยู่ในศาลาหลังเก่าๆๆข้างๆๆศาลาที่สร้างใหม่ภาพตอนนั้นที่ผมเห็นหลวงปู่ท่านนั่งนิ่งอยู่ในศาลามีจานดอกไม้ธูปเทียนบ้างจานใส่กล่องนมบ้างวางอยู่หลายจาน แต่ก็วางอยู่อย่างนั้นเหมือนท่านไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งของที่โยมนำมาถวายแต่อย่างได ใครมาขอท่านก็ให้หยิบเอา จีวรที่ท่านห่มก็ดูเก่าๆๆดูท่านอยู่อย่างเรียบง่ายมากๆๆถามคำก็ตอบคำไม่ถามก็ไม่พูด ผมก็เริ่มสนใจแล้วคิดในใจว่าผมเจอของจริงซะแล้ว พวกพี่ๆๆพ่อค้าแม่ค้าที่มาด้วยกันก็แย่งกันเข้าไปกราบแย่งพูดแย่งขอนั่นขอนี่กันใหญ่ตามแบบฉบับของพ่อค้าแม่ค้า ส่วนผมก็นั่งอยู่หลังสุดได้แต่มองอยู่เงียบๆๆปล่อยให้เขาแย่งกันไป พอแย่งกันเสร็จเรียบรอ้ยเขาก็กราบลาหลวงปู่ไปขึ้นรถ เอาหละทีนี้ก็เหลือผมคนเดียวกับหลวงปู่แล้ว ท่านก็มองผม ผมก็มองท่าน แล้วผมก็คลานเข้าไปกราบท่านแล้วพูดกับท่านว่า หลวงปู่ครับผมมาขอบารมีหลวงปู่ให้ลงกระหม่อมให้เพื่อปกป้องภัยเสริมวาสนาขอให้มีโชค ท่านก็เมตตาเอามือมาจับที่หัวผมลูบๆๆวนๆๆอยู่สักพักแล้วท่านก็หัวเราะเบาๆๆและบอกกับผมว่าลงไม่ได้แล้วตรงนี้มีคนลงไว้เต็มแล้ว( ตอนอยู่จังหวัดนนท์ ผมลงกระหม่อมเป็นประจำกับหลวงปู่น้อย ผู้เป็นบูรพาจาร) พอท่านพูดแค่นั้นผมยิ่งปลื้มใจว่าผมเจอของจริงเข้าแล้ว ท่านเลยพูดว่าลงตรงหน้าผากนี่แหละได้เหมือนกัน ท่านก็ลงให้อย่างเมตตาท่านลงให้อยู่นานจนพวกอยู่บนรถตู้ต้องลงมาตามเพราะอยากรู้ว่าผมทำอะไร จนท่านลงเสร็จท่านบอกว่า เออ ดีแล้ว ท่านก็พรมน้ำมนต์ให้ ผมก็กราบลาท่านไปขึ้นรถ พอขึ้นรถเท่านั้นครับคำถามประเดประดังมาที่ผมว่าให้หลวงปู่ทำอะไรให้ทำมัยเอ็งนั่งตัวสั่นๆๆเหมือนผีเข้า ผมก็ได้แต่ยิ้มไม่ตอบอะไร ไม่ถือสาเค้าเหล่านั้นเพราะเขาไม่รู้เรื่องจริงๆๆ พอกลับมาถึงบ้านอีกห้าวันหวยออกผมฝันเกี่ยวกับหวยแล้วไปซื้อผมถูกจริงๆๆ ทั้งๆๆที่ไม่ค่อยซื้อเพราะไม่เคยถูกคิดในใจว่าของจริงอยู่ไม่ไกลซะแล้ว อีกเดือนต่อมาเป็นเดือนเมษายน ผมรู้สึกว่าร้อนลุ่มใจผิดปกติผมเข้าไปในตลาดซื้อดอกไม้ธูปเทียนเสร็จจึงขับรถกลับไปหาหลวงปู่อีกครั้งพูดเรื่องที่เกิดขึ้นให้ท่านฟัง ท่านก็นั่งหัวเราะไม่พูดอะไรแล้วก็พรมน้ำมนต์ให้ผมจนผมเย็นอย่างบอกไม่ถูกทั้งๆๆที่อากาศช่วงนั้นร้อนมาก ผมนั่งพูดคุยกับท่านอยู่นานจึงจะขอตัวกลับบ้าน แต่สายตาเหลือบไปเห็นถุงตะกรุดอยู่ข้างๆๆท่าน ผมก็เลยถามว่าหลวงปู่ทำเองหรือครับ ท่านตอบว่าใช่ทำไว้เป็นของแจกคณะผ้าป่า ผมเลยขอบูชาจากท่านและถามว่าจะให้ลูกบูชาดอกละเท่าไหร่ครับหลวงปู่ ท่านตอบว่าดอกละ20บาท ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเองว่าวัตถุมงคลสมัยนี้ยังมีด้วยหรือ20บาท ผมหยิบมา5ดอก แล้วเอาเงินใส่จานดอกไม้ธูปเทียนถวายท่านไป200 ท่านรับจานที่ผมถวายไว้ แล้วก็วางไว้อย่างนั้น เหมือนไม่ใส่ใจ ผมมารู้ภายหลังว่ามรรคทายกจะเป็นคนมาเก็บเงินให้หลวงปู่ท่านไม่จับต้องเงินท่านว่ามันเป็นสิ่งมีพิษ นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้ไปหาหลวงปู่ สาธุ ลูกยังระฤกถึงหลวงปู่เสมอ
หน้า: [
1
]
กำลังโหลด...