ชมรมอนุรักษ์พุทธศิลป์แห่งภาคอีสาน

พระเครื่องและวัตถุมงคล => วิชาการ ถาม-ตอบ เกี่ยวกับพระเครื่องและวัตถุมงคล => ข้อความที่เริ่มโดย: tar ที่ 21 ธันวาคม 2553, 18:20:49



หัวข้อ: ว่าด้วยพระเครื่องราง
เริ่มหัวข้อโดย: tar ที่ 21 ธันวาคม 2553, 18:20:49

ข้าพเจ้าจะได้กล่าวถึงการพัฒนาการของพระเครื่องพอสังเขปพอเป็นที่จะเข้าใจบ้างเพียงเล็กน้อย
ถ้าจะกล่าวถึงชีวประวัติแล้วจะเป็นเรื่องที่ยืดยาวมาก เพราะพระเครื่องแต่ละยุดแต่ละสมัยนั้นผู้จัดสร้าง
ไม่เหมือนกัน เมื่อสรุปความแล้ว ผู้ที่จัดสร้างก็เพื่อพัฒนาการทางพุทธศาสนานั่นเองผู้ใดได้พระพิมพ์
พระเครื่องก็จะนำไป สักการะบูชาระรึกถึง องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขออานุภาพอันศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
มาคุ้มครองแก่ตน พระเครื่องนอกจากจะเป้นที่สักการะบูชาแล้ว พระเครื่องยังเป็นเครื่องสนับสนุน
กำลังใจในทางดีและทางชั่ว ทางชั่วหมายถึงผู้นำไปใช้ในทางที่ผิด คืออวดกำแหงหาญว่าเก่งกล้าหนังเหนียว
ริอ่านเป็นนักเลง ยึดเหนี่ยวพระเครื่องเป็นกำลังใจฮึกเหิมพาลเกเรผิดศีลธรรม พระเครื่องจึงเป็นที่ประชาชน
เชื่อมันนับถือกันมาตั้งแต่ครั้งโบราณ เพราะพระเครื่องสำหรับใช้ป้องกันตัว คงกระพันชาตรี
แคล้วคลาดมหาอุด มหานิยม เป็นต้น

พระเครื่องในยุคนี้ ก็มีพระคณาจารย์ผู้ที่เรืองวิชาทางไสยศาสตร์ จัดสร้างขึ้นเพื่อพัฒนาการทางศาสนา
ก็มีจำนวนมากเหมือนกัน แต่โดยมากการจัดสร้างพระเครื่องในยุคนี้ มิได้แสดงถึงการพัฒนาการทางศาสนา
ทางศิลปกรรมและแม้แต่ประวัติศาสตร์ ประการใด ส่วนมากเป็นการจัดทำเพื่อการค้าและเพื่อผลประโยชน์
แก่ตัวเอง รวมทั้งเป็นการหลอกลวงให้หลงเชื่ออย่างงมงายด้วย เพราะว่าพระเครื่องที่จัดทำขึ้นในยุคปัจจุบันนี้
เป็นพระเครื่องที่มิได้มีการปลุกเสกทำพิธีทางไศยศาสตร์อย่างสมบูรณ์ เช่นสมัยโบราณ พลังอำนาจจิตของบุคคล
ในยุคนี้ มีพฤติการณ์เสื่อมโทรมปัญหาเศรษฐกิจเศรษฐภัยเข้าทำลายนามธรรมนิยมอยู่อย่างปั่นป่วนวุ่ยวาย
กำลังสมาธิและญาณต่างๆ อำนาจจิตของบุคคลในยุคนี้อ่อนพลังอานุภาพลง อำนาจการปาฏิหารต่างๆ
ก็กระทำขึ้นอย่างอลเวงหาอาชัพประโยชน์ และลาภผลให้แก่ตนเป็นสำคัญ และอำนาจจิตนั้นก็ยังเกิดจากชนิด
เฉียดๆ เป็นชนิดอุปจารสมาธิ มิใช่เป็นอัปนาสมาธิ รวมความว่าอานุภาพสมาธิปาฏิหารความมหัศจรรย์
ย่อมเกิดขึ้นทางจิตที่เป็นสมาธิเป็นสารัตถะสำคัญ

ต่อไปข้าพเจ้าจะได้พูดถึงพระเครื่องและเครื่องรางนั้นต่างกันอย่างไร? คำว่า "พระเครื่อง" หรือ พระเครื่องราง
นั้นคือ พระพิมพ์ต่างๆ จะเป็นผงต่างๆ ดินต่างๆ หรือโลหะต่างๆ ก็ตาม ผู้ทรงคุณวุฒิอันวิเศษได้จัด ติดตัวไปไหน
ได้อย่างสะดวกพระเครื่องรางนี้มีคุณวิเศษลหายประการ มีอานุภาพอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารต่างๆ เช่น เมตตามหานิยม
มหาเสน่ห์ คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดมหาอุด เป็นต้น พระเครื่องนี้ เหมาะสำหรับนักรบ นักปกครอง นักการค้า
และประชาชนทั่วไป พระเครื่องนั้นจะมีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ เฉพาะผู้เลื่อมใสศรัทธาประสาทะ นำติดตัวไป
ในที่ต่างๆทุกโอกาสเป็นกำลังพลังทางจิตเกิดความเชื่อมั่นในพระบรมพุทธานุภาพ ส่งผลให้มีผู้มีศรัทธาเลื่อมใส
เจริญรุ่งเรืองด้วยมนุษย์คุณสมบัติทั้ง ๔ ประการด้วย

ต่อไปนี้ข้าพเจ้าจะขอกล่าวคำว่า "เครื่องราง" นั้นมี ๒ ชนิด ชนิดหนึ่งคือผู้ทรงคุณวุฒิคุณวิเศษประกอบขึ้นด้วย
พิธิอันศักดิ์สิทธิ์ด้วยการปลุกเสกลงเลขยันต์ เช่นลงตะกรุด ผ้าประเจียด แหวนพิรอด ปลัดขลิกหรือจะเป็นสิ่งใด
ก็ตาม ถ้าไม่ใช่พระพิมพ์ดังได้กล่าวมาแล้วเป็นเครื่องรางทั้งสิ้น เครื่องรางเหล่านี้มีอิทธิอานุภาพเหมือนกับ
พระเครื่องราง อีกชนิดหนึ่งเป็นของหายากนิยมและเชื่อถือกับว่าเป็นของ "กายสิทธิ์" ผู้ใดมีเครื่องรางติดตัวอยู่
ก็จะบันดาลให้เกิดโชคลาภต่างๆ ได้น่าพิศวงปราศจากภัยนานาประการ ประกอบด้วยอยู่คงกระพันชาตรี
ยิงไม่ออก ฟันไม่เข้าดังนี้เป็นต้น เครื่องรางเหล่านี้ได้แก่ เหล็กไหล เพ็ชรตาแมว เขียวหมูตัน ไข่ทองแดง คือ
ไข่นกกลายเป็นหิน เม็ดขนุนทองแดง เขากวางครุต คือเกิดมามีเขาทั้งสองข้างครุตสั้นประมาณ ๓ นิ้ว จนมีอายุมาก
หรือจนตายเขาก็ไม่ขึ้นยาวเหมือนเขากวางธรรมดา ครุตปลวก เพ็ชรน้ำหนึ่ง นิล และว่านต่างๆ ที่มีอิทธิฤทธิ์
ปาฏิหารอานุภาพ ในสมัยโบราณนับถือเป็นของสำคัญมาก ถ้าผู้ใดได้ไว้ในครอบครองแล้ว จะเป็นผู้มีความสามารถ
พิเศษต่อกิจการต่างๆ ตลอดจนการรบพุ่งด้วย

ในสมัยโบราณผู้ที่เป็นแม่ทัพนายกอง จะต้องเข้าหาอาจารย์ผู้เรืองวิชาทางไสยศาสตร์ เพื่อเข้าเรียนวิทยาคม
อันศักดิ์สิทธิ์ จนสำเร็จจากสำนักอาจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษ เช่นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ได้มีเณรแก้วได้ศึกษาในสำนัก
อาจารย์คง วัดแค เมืองสุพรรณบุรี อาจารย์คงก็สอนเวทมนต์คาถาให้เป็นอันมาก ดังมีข้อความในวรรณคดี
เรื่องขุนช้างขุนแผนได้กล่าวไว้ว่า

พอสิ้นแสงสุริยาเวลาจวน
อุส่าห์ด่วนหมอบมองเข้าห้องใน
โบกปัดพัดวีพระอาจารย์
ให้สำราญรื่นจิตพิศมัย
ปฏิบัติมิให้ขัดเคืองใจ
สมภารแนะนำให้ไม่ช้าการ
สกดทัพจบพลทั้งปลุกผี
ผูกพยนต์ฤทธีคำแหงหาญ
ปัถมังกำบังตนทนทาน
สะเดาะดาลโซ่กุญแจประจักษ์ใจ
ทั้งพิชัยสงครามทั้งความรู้
อาจปราบศัตรูไม่สู้ได้
ฤกษ์หานาทีทุกสิ่งไป
ทั้งเสกใบมะขามเป็นต่อแตน
ชำนาญทั้งกลศึกลึกลับ
คุมพลแม่ทัพนับแสน
สู้ศึกได้สิ้นทั้งดินแดน
มหาละลวยสุดแสนเสน่ห์ดี
จังงังขลังคะนองล่องหน
ฤทธิรนแรงราวกับราชสีห์
ถอนอาถรรพ์กันประกอบประกับมี
เลี้ยงผีพรายกระซิบทุกสิ่งไป.....ฯ


สิ่งเหล่านี้เป็นวิชาแขนงหนึ่งที่แม่ทัพนายกองจะต้องศึกษาปฏิบัติฝึกฝน ให้เชี่ยวชาญทางวิชาไสยศาสตร์
มิใช่แต่จะศึกษาไสยศาสตร์แต่อย่างเดียวจะต้องฝึกซ้อมหัดการฟันดาบ กระบี่กระบอง มวยปล้ำ ให้ช่ำชองเช่นเดียวกัน
ศาสตรวุธที่จะเข้ายุทธสงคราม ก็จะต้องปลุกเสกทำพิธีทางไสยศาสตร์ด้วยเหมือนกัน เช่นดาบฟ้าฟื้นของขุนแผน
ทำพิธีแก้อาถรรพ์ไว้ทุกอย่าง ชุบด้วยน้ำมันพรายใครจะอยู่ยงคงกระพันชาตรีอย่างไร ถ้าไม่วิเศษจริงแล้ว เมื่อถูกดาบ
ขุนแผนฟันจะต้องขาดทั้งสิ้น แม้แต่ม้าและช้างที่ออกศึกจะต้องผูกเครื่องรางติดกับคอด้วย เช่นตะกรุดพระหูไห
และเครื่องรางต่างๆ

ถึงแม้ว่าแม่ทัพนายกองจะเชียวชาญทางเวทมาต์คาถาสักเพียงใดก็ตาม จะต้องมีพระเครื่องรางติดตัวอยู่เสมอ เพื่อความ
ไม่ประมาท เช่น พญากรุงกาฬเมื่อได้รับพระราชโองการพระเจ้าเชียงใหม่ ให้ยกพลไปสู้กับขุนแผน พระญากรุงกาฬเป็น
ผู้ที่เชื่อมั่นในวิชาไสยศาสตร์  ได้แต่งตัวประกอบพระเครื่องรางต่างๆ อย่างครบถ้วน จึงเดินทัพเข้าสู่สมรภูมิ มีกล่าวไว้ใน
คำกลอนเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผนไว้ดังนี้

ครานั้นกรุงกาฬชำนาญทัพ
จบจับเครื่องอานเข้าตบแต่ง
นุ่งยกอย่างลาวขาวทองแดง
ใส่เสื้อเกราะทองแล่งเป็นอย่างครุฑ
สายสังวาล "ภควัม" ประจำคล้อง
แหวนทองปัทมราชคาดตะกรุด
ใส่เสื้อลงยันต์กันอาวุธ
เข็มขัดขุดขมองพรายเป็นลายดุน
เหน็บกฤชตรงอาคมประจุขาด
แล้วซ้ำคาดราตะคธหนามขนุน
ใส่หมวกถักไหมทองกรองกาชุน
สายสพายดาบญี่ปุ่นฝักหุ้มทอง
เอาน้ำพระสรงองค์นารายณ์
มาพรมกายกรายกรากออกจากห้อง
ควาญเทียบช้างประทับเข้ารับรอง
ก็ย่างย่องขึ้นคอจับของกราย.....ฯ


จากหนังสือ อภินิหารพระเครื่องและเวทย์มนต์คาถาศักดิ์สิทธิ์
รวบรวมโดย ชัยมงคล อุดมทรัพย์ พฤษภาคม ๒๕๑๒

นำเสนอโดย tar ถ้าชอบก็กด Thank นะครับจะได้พิมพ์ให้อ่านต่อ


หัวข้อ: Re: ว่าด้วยพระเครื่องราง
เริ่มหัวข้อโดย: MaiUbon ที่ 17 กรกฎาคม 2554, 19:57:01
เปลี่ยนเป็น Like ได้มั้ยครับพี่ต้า รอฟังอยู่ครับ ..


หัวข้อ: Re: ว่าด้วยพระเครื่องราง
เริ่มหัวข้อโดย: vs12 ที่ 17 กรกฎาคม 2554, 22:33:57
เข็มขัดขุดขมองพรายเป็นลายดุล......? เครื่องรางชนิดนี้พิธีกรรมการทำตามตำราต้องหาสังขารพรายที่เป็นสตรีอายุไม่ เกินวัยสาวแรกรุ่น(ไม่เกิน20ปี) และต้อง ?ตายโหง? เท่านั้น จึงจะมีพลังมาก นำส่วนกลางกบาลพรายมาลงอักขระยันต์มงกุฎพระพุทธเจ้าและเสกกรึงด้วยนิพพาน สูตรและคาถาเฉพาะบท ปั้นเหน่งขมองพรายนี้บางท่านอาจเข้าใจว่าดีทางเมตตามหานิยม แต่ผิดคาด เพราะหากเสกตามตำราแล้วจะดีทางป้องกันเหตุเภทภัยหรือคุณไสยผีชั้นต่ำ พรายกระซิบคอยเตือนภัย รองลงมาก็คือคงกระพันชาตรี(เพราะในสังขารมนุษย์มีธาตุดินและไฟอยู่หากเรียก สองธาตุนี้ออกมาก็จะอยู่คง) อย่างหนึ่งคือมหาเสน่ห์เพราะใช้ฤทธิ์ผีเป็นแม่สื่อแม่ชักให้คนที่เราหมายปอง มาสนใจเรา เช่นการนำน้ำมันหอมหรือสีนวดใส่ไว้ในขมองพรายแล้วจุดธูปเซ่นว่าคาถาผูกและ ขับ ก็จะสามารถนำน้ำมันพรายหรือสีนวดที่ใส่ไว้เป็นของเสน่ห์ไปโดยปริยาย และอุปเท่ห์การใช้อีกมากมาย แต่เครื่องรางชนิดจำต้องเซ่นเลี้ยงด้วยอาหารหยาบข้าวปลาอาหารเหล้าขาวและ หมั่นทำบุญให้เสมอ ยิ่งทำให้เขามากยิ่งแรงดี


หัวข้อ: Re: ว่าด้วยพระเครื่องราง
เริ่มหัวข้อโดย: MaiUbon ที่ 18 กรกฎาคม 2554, 19:56:30
สุดยอดเลยครับ .. ว่าแต่ในภาพนะหน้าผากผีจริงๆหรอครับ ..


หัวข้อ: Re: ว่าด้วยพระเครื่องราง
เริ่มหัวข้อโดย: vs12 ที่ 18 กรกฎาคม 2554, 21:17:49
สุดยอดเลยครับ .. ว่าแต่ในภาพนะหน้าผากผีจริงๆหรอครับ ..
ตามนี้เลยครับท่าน
http://www.luangpukahlong.com/board.php?b=showb&Category=sumkaji&No=4390


หัวข้อ: Re: ว่าด้วยพระเครื่องราง
เริ่มหัวข้อโดย: tar ที่ 22 กรกฎาคม 2554, 01:15:35
ต่อครับผม


หัวข้อ: Re: ว่าด้วยพระเครื่องราง
เริ่มหัวข้อโดย: tar ที่ 22 กรกฎาคม 2554, 01:16:18
ตามคำเรียกร้อง


หัวข้อ: Re: ว่าด้วยพระเครื่องราง
เริ่มหัวข้อโดย: tar ที่ 22 กรกฎาคม 2554, 01:16:56
..................


หัวข้อ: Re: ว่าด้วยพระเครื่องราง
เริ่มหัวข้อโดย: tar ที่ 22 กรกฎาคม 2554, 01:17:48
........................


หัวข้อ: Re: ว่าด้วยพระเครื่องราง
เริ่มหัวข้อโดย: warleas ที่ 27 ตุลาคม 2554, 20:40:15
หนังสือนี้สุดยอดจริงๆๆๆๆๆ 019


หัวข้อ: Re: ว่าด้วยพระเครื่องราง
เริ่มหัวข้อโดย: ChayTurbo ที่ 27 ตุลาคม 2554, 21:20:06
เยี่ยมเลยครับ  007  007 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ


หัวข้อ: Re: ว่าด้วยพระเครื่องราง
เริ่มหัวข้อโดย: คนภูเขาร่มเงาธรรมมะ ที่ 06 พฤศจิกายน 2554, 20:42:35
เข็มขัดขุดขมองพรายเป็นลายดุล......? เครื่องรางชนิดนี้พิธีกรรมการทำตามตำราต้องหาสังขารพรายที่เป็นสตรีอายุไม่ เกินวัยสาวแรกรุ่น(ไม่เกิน20ปี) และต้อง ?ตายโหง? เท่านั้น จึงจะมีพลังมาก นำส่วนกลางกบาลพรายมาลงอักขระยันต์มงกุฎพระพุทธเจ้าและเสกกรึงด้วยนิพพาน สูตรและคาถาเฉพาะบท ปั้นเหน่งขมองพรายนี้บางท่านอาจเข้าใจว่าดีทางเมตตามหานิยม แต่ผิดคาด เพราะหากเสกตามตำราแล้วจะดีทางป้องกันเหตุเภทภัยหรือคุณไสยผีชั้นต่ำ พรายกระซิบคอยเตือนภัย รองลงมาก็คือคงกระพันชาตรี(เพราะในสังขารมนุษย์มีธาตุดินและไฟอยู่หากเรียก สองธาตุนี้ออกมาก็จะอยู่คง) อย่างหนึ่งคือมหาเสน่ห์เพราะใช้ฤทธิ์ผีเป็นแม่สื่อแม่ชักให้คนที่เราหมายปอง มาสนใจเรา เช่นการนำน้ำมันหอมหรือสีนวดใส่ไว้ในขมองพรายแล้วจุดธูปเซ่นว่าคาถาผูกและ ขับ ก็จะสามารถนำน้ำมันพรายหรือสีนวดที่ใส่ไว้เป็นของเสน่ห์ไปโดยปริยาย และอุปเท่ห์การใช้อีกมากมาย แต่เครื่องรางชนิดจำต้องเซ่นเลี้ยงด้วยอาหารหยาบข้าวปลาอาหารเหล้าขาวและ หมั่นทำบุญให้เสมอ ยิ่งทำให้เขามากยิ่งแรงดี
นอแรดครับ ดูอย่างไรก็นอแรด(แรดเอชีย)