ชมรมอนุรักษ์พุทธศิลป์แห่งภาคอีสาน

พระเครื่องและวัตถุมงคล => วิชาการ ถาม-ตอบ เกี่ยวกับพระเครื่องและวัตถุมงคล => ข้อความที่เริ่มโดย: คนภูเขาร่มเงาธรรมมะ ที่ 06 พฤศจิกายน 2554, 19:46:15



หัวข้อ: การรักษาและทำความสอาดเหรียญ
เริ่มหัวข้อโดย: คนภูเขาร่มเงาธรรมมะ ที่ 06 พฤศจิกายน 2554, 19:46:15
หากท่านมีเหรียญพระ ที่มีรอยเปื้อน มีคราบฝุ่น หรือสนิมเขียว นึกอยากทำความสะอาดพื้นผิวเหรียญก็ทำไม่เป็นหรือไม่รู้จะทำอย่างไร
มาชมกระทู้นี้สิครับ ผมเอาวิธีล้างเหรียญพระแบบเซียนมาให้ได้ชมกับ ท่านทราบหรือไม่ว่าเหรียญพระที่มีราคาแพงๆ เขาจะรักษาพื้นผิวแบบท่านคาดไมถึงก็แล้วกัน
เพราะริ้วรอยต่างๆบนผิวเหรียญอาจทำให้พระราคาแสนเหลือเพียงหลักหมื่นได้ นี่จึงเป็นที่มาของการล้างพระแบบเซียนครับ เพราะวิธีที่จะแนะนำนี้เป็นการรักษาพื้นผิวของเหรียญได้ดีที่สุดแล้วครับ
อันดับแรกสิ่งที่ต้องเตรียมคือ เหรียญพระจะเนื้ออะไรก็ได้ครับ เลือกเหรียญที่มีคราบสกปรกบนพื้นเหรียญเหมือนตัวอย่าง
อุปกรณ์ชิ้นต่อไป ถุงซิป ขนาดที่พอเหมาะกับเหรียญพระ
โลชั่นทาผิว ปกตินิยมใช้สองยี่ห้อ แต่ผมเลือกใช้ยี่ห้อนี้ครับ
แปรง ภู่กัน ขนนุ่มๆ ถ้าจะให้ดีใช้ บลัชออน (ถามคุณแม่บ้านดูนะครับว่าคืออะไร)
ปกติผมก็ใช้บลัชออน แต่ว่าลืมไว้ที่ทำงาน เลยอนุโลมใช้ภู่กันขนนุ่มแทนครับเมื่อได้อุปกรณ์ครบตามนี้แล้ว ลงมือเลยครับ
อันดับแรกเทโลชั่นลงในถุงซิป พอประมาณนะครับ อย่าให้มากหรือน้อยเกินไป
หลังจากนั้นใส่เหรียญพระที่เตรียมไว้ลงไป ทิ้งไว้ในระยะเวลาประมาณ 10 นาที
ในระหว่างที่แช่เหรียญในโลชั่นนี้ ก็ใช้มือคลึงๆ เหรียญไปด้วยเป็นระยะๆ เพื่อขัดคราบต่างๆให้หลุดร่วงออกไป อย่าทำแรงนะครับเพราะถุงซิปอาจโดนเหรียญพระบาด และขาดหรือรั่วได้
เมื่อผ่านวิธีการข้างต้นในระยะเวลาที่สมควรแล้ว เอาเหรียญออกจากถุงซิป นำไปล้างน้ำ แบบล้างผ่าน
คือเปิดก๊อกน้ำ ให้กระแสน้ำล้างเอาคราบสกปรก คราบโลชั่น ให้หลุดออกไป โดยไม่ใช้มือหรือวัตถุใดขัดถูโดยเด็ดขาด
เมื่อเห็นว่าล้างจะผิวพระสะอาดดีแล้ว ใช้ผ้านุ่มๆค่อยซับน้ำให้แห้ง ซับนะครับไม่ใช่เช็ดหรือถู
ขั้นตอนสุดท้ายคือเมื่อเหรียญแห้งดีแล้ว ให้ใช้แปรงขนนุ่มๆ ค่อยๆปัด ค่อยๆไล้ไปบนผิวเหรียญพระ
คราบต่างๆที่ยังติดอยู่บนพื้นเหรียญก็จะหลุดร่วงออกไป เหรียญพระก็จะสะอาด ไร้ร่องรอย ไร้รอยขูดขีด ถึงจะดูเก่าก็เก่าตามธรรมชาติ หากจะให้ผิวของเหรียญพระแห้งเก่า ดูมีคุณค่าก็วางพระไว้ให้โดนอากาศตามอุณหภูมิห้องประมาณ 10 วัน แล้วค่อยเก็บใส่ถุงแก้วซีลกันอากาศเข้าก็เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการครับ
เสน่ห์ของเหรียญพระ มันอยู่ตรงนี้ครับท่านทั้งหลาย ทำไม่ยากแต่ต้องอดทน ต้องใจรักครับ ที่สำคัญเป็นการฝึกสมาธิ ฝึกสติอย่างดีทีเดียวครับ
 การใช้โลชั่นอย่างอ่อนล้างแล้วเช็ดด้วยสำลี
เสร็จแล้วเหรียญจะดูเป็นเงาเพราะยังเหลือสารของโลชั่น
เคลือบอยู่ แต่นั่นก็คือสารเคมี ผมจะใช้สำลีชุบน้ำบีบพอหมาด
เช็ดอีก 3 ครั้ง ตากลมให้แห้ง เหรียญจะดูเป็นธรรมชาติ
เก็บใด้นาน มีความเก่าสมบูรณ์ตามอายุเหรียญมีเสน่ห์ครับ
1 หากสนิมหรือคราบเขียวติดตามเหรียญ  ตามซอกพื้นเหรียญแน่นมากๆ  ผมใช้ไม้จิ้มฟันแหลมๆ เขี่ยคราบเขียวๆ ก่อนที่จะนำพู่กันปัดทำความสะอาด  โดยเราต้องใจเย็นๆ  ค่อยๆ  เขี่ยคราบเขียวที่ติดแน่นในพื้นเหรียญออก  ดูให้ละเอียดใช้กล้องส่องดูด้วย  เมื่อเสร็จไม่เห็นคราบเขียวแล้ว  ก็นำพู่กันมาปัดคราบสกปรกออก  ก่อนทำความสะอาดด้วยน้ำเหมือนท่าน wood  แนะ นำ   ข้อพึงระวังให้ท่านล้างน้ำครีมออกให้สะอาดนะครับ  ไม่เช่นนั้นเมื่อพระแห้ง  ผิวพระจะมีคราบเขียวเกาะติดเลอะเทอะอย่างแน่นอน      หมายเหตุ  / กรุณาอย่าใช้วัสดุอย่างอื่นเหรียญจะเป็นรอยได้  แต่ใช้ไม้จิ้มฟันพื้นเหรียญไม่เป็นไรอย่างแน่นอนครับ....ฟันธง
         2. กรณีเหรียญผิวยังไม่กลับ  หากท่านใดลองทำตามวิธีของผมรับรองครับว่าผิวเหรียญกลับเร็วกว่าเดิมอย่างแน่นอน ( ผมไม่เคยเปิดเผยที่ไหน 555 ) โดยทั่วไปนำเหรียญไปผึ่งลม  ลองวิธีผมดู  เมื่อท่านล้างพระตามวิธีของท่าน wood เสร็จ   หากปรากฎว่าเหรียญอาจผิวดูแล้วไม่สวยเท่าตอนที่ยังไม่ล้าง (หรือผิวพระยังไม่กลับ  หรือขณะนี้ท่านมีเหรียญที่ล้างแล้วผิวยังเสียไม่กลับมาเหมือนเดิมอยู่  ลองทำตามวิธีของผมดู)    ให้ท่านขอขมาบอกกล่าวหลวงพ่อ / หลวงปู่  /  นำเหรียญไปแช่น้ำร้อนๆ นะครับ   กดจากกระติกร้อนๆ  นำเหรียญลงไปแช่จนน้ำพออุ่นค่อยเอาขึ้นมา  แล้วนำเหรีญแช่อีกครั้งน้ำร้อนๆ  เช่นเดิม   กะว่าน้ำอุ่นๆ ก็เอาขึ้น   นำกระดาษทิชชูมาซับ   แล้วนำเหรียญไปห้อยตากแดด  ผึ่งลมไว้ 10 - 15 วัน  ผึ่งไว้นานเท่าไหร่ยิ่งดี  ใจเย็นๆๆ จะได้เหรียญที่ผิวสวยกลับคืนมา  วิธีลวกน้ำร้อนนี้จะทำให้ผิวเหรียญกลับขึ้นมาเร็วมาก  ผิวโลหะเมื่อโดนความร้อนจะกลับทันที  และเมื่อนำมาผึ่งลม  พยายามให้โดนแดดอีกก็ยิ่งดี  ยิ่งทำให้ผิวพระจัดขึ้น  งามขึ้นกว่าเดิมอีกครับ......ลองดูนะครับ

หมายเหตุ / การผึ่งแดด   ผึ่งลม  ให้ใจเย็นๆๆ  ที่สุด   อย่าไปจับที่ผิวเหรียญปล่อย  ผึ่งจนลืมก็ได้ นำไปไว้ในห้องห้อยไว้เลย  ที่ขอบหน้าต่างก็ได้  เมื่อผิวกลับก็นำไปเลี่ยมพลาสติก ภูมิใจมากๆ เลย     จุดเสียของคนล้างพระก็คือใจร้อนครับ
อีกวิธี
        วิธีล้างเหรียญโลหะ
...เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ตัดสินใจว่าจะล้างละกันครับเพราะหากท่านล้างผิดวิธีเหรียญของท่านจะหมดค่าลงทันที(อย่าใช้น้ำยาที่ขายในท้องตลาดเด็ดขาดครับ)...ผมแนะนำให้ใช้กลีเซอรีน(ที่ใช้กวาดลิ้นเด็ก)หาซื้อได้ในร้านขายยาทั่วไปลักษณะเป็นของเหลวหนืดใสไม่มีกลิ่น...ใช้ชะโลมให้ทั่วเหรียญโดยใช้สำลีก้อนหรือcotton bud เช็ดถูบริเวณที่สกปรก/หรือเกิดสนิม เสร็จแล้วใช้ผ้าเช็ดแว่นและ/หรือผ้าชามัวร์ซับให้แห้งแล้วใช้เครื่องเป่าลมเป่าอีกทีให้แห้งเป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ...กลีเซอรีนไม่มีปฏกิริยาใดๆกับโลหะทุกชนิด.


หัวข้อ: Re: การรักษาและทำความสอาดเหรียญ
เริ่มหัวข้อโดย: คนภูเขาร่มเงาธรรมมะ ที่ 06 พฤศจิกายน 2554, 19:47:28
วิธีแก้ความซีดขององค์พระ ใ้ห้ใช้น้ำหอมสีอ่อนๆ เน้น สีอ่อน ๆ นะครับ สรงให้ทั่วองค์พระ เนื้อพระของท่านก็จะีมีวรรณะเข้มขึ้น มาทันทีทันใด
2. การกำจัดเชื้อรา บนองค์พระ คิดว่าสมาชิกหลายท่านคงเจอเชื้อราขึ้นที่องค์พระบ้างไม่มากก็น้อย พระที่เหล่า สมช. มีในครอบครอง มากบ้างน้อยบ้าง บางคนมีมากในรอบปีก็ห้อยไม่ครบทุกองค์ แนะนำให้ส่งมาที่ผมนะครับ จะดูแลอย่างดีห้อยสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปเรื่อย ๆ ทุกวัน/ส่วนมากเชื้่อราจะเกิดขึ้นในช่วงที่อากาศชื้น เช่น ในหน้าฝน สมช. ควรนำพระของท่านออกมาผึ่งแดดบ้างนะครับ เพราะพระท่านอาจจะมีเชื้อราเกิดขึ้นแล้วก็ได้  /ถ้ามีเชื้อราเกิดขึ้นจับฝ้าบาง ๆ ให้ สมช. ใช้ขนมปังปอนด์ ไม่เอาขอบนะครับ ตบเบาๆ บนองค์พระ ราก็จะออกมาพอสมควร แต่้ถ้า สมช. ต้องการให้องค์พระสะอาดกว่านี้ ก็ให้นำพระใส่ไว้ใจกลางขนมปัง แบบทำแซนวิช (อย่าหลงไปรับประทานนะครับ จะกลายเป็นแซนวิชที่มีราคาแพงไป) แล้วใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำพอหมาดๆห่ออีกทีหนึ่ง  ทิ้งไว้ประมาณ 1 - 2 คืน (อย่าให้ผ้าแห้งนะครับเพราะถ้าผ้าแห้งขนมปังที่ห่อก็จะแห้งด้วย) เมื่อครบกำหนดระยะเวลาแล้ว ให้นำพระออกมาแล้วใช้แปรงขนอ่อนๆ ต้องอ่อนจริงๆ นะครับ ปัดเศษขนมปังออกให้หมด จากนั้นก็นำพระไปผึ่งลมให้แห้ง ไม่ใช่ผึ่งแดดนะครับผึ่งลม


หัวข้อ: Re: การรักษาและทำความสอาดเหรียญ
เริ่มหัวข้อโดย: คนภูเขาร่มเงาธรรมมะ ที่ 06 พฤศจิกายน 2554, 19:52:48
ธีล้างคราบรักหรือคราบต่างๆ วิธีขจัดสนิมเขียว วิธีการเก็บรักษาพระเครื่องพระบูชา

1. วิธีล้างทำความสะอาดพระเครื่องนั้น ต้องดูที่ว่าเราต้องการทำความสะอาดอะไร และพระนั้นๆ มีเนื้อวัสดุเป็นอะไร เพราะการทำความสะอาดจะไม่เหมือนกันครับ การทำความสะอาดก็ต้องประณีตพอสมควร ไม่เช่นนั้นจะทำให้พระเก่าๆ นั้นเสียหายได้ครับ เอาละผมจะพูดถึงการทำความสะอาดทั่วๆ ไปก่อน ถ้าพระเครื่องของคุณสกปรกอาจจะมาจากคราบเหงื่อไคลหรือผงฝุ่นละอองต่างๆ ก็ให้นำเตรียมน้ำอุ่นแล้วผสมกับสบู่เหลวใส่ถ้วยไว้ หาพู่กันระบายสี เอาชนิดดีๆ หน่อย จะเป็นของสง่ามะยุระก็ได้เอาประเภทขนแปรงอ่อนๆ ก็แล้วกัน จากนั้น ให้ตัดปลายพู่กันให้สั้นลงสักเกือบครึ่งหนึ่งเพื่อให้ขนแปรงมีสปริง จากนั้นก็นำพระที่จะล้างลงแช่ในน้ำอุ่นที่เตรียมไว้ ค่อยๆ ใช้พู่กันปัดเบาๆ หลายๆ ครั้ง จะเห็นว่าคราบสกปรกจะค่อยหลุดออกเองครับ ทำอย่างนั้นจนกว่าจะพอใจ แล้วก็นำน้ำสะอาดมาใส่ถ้วยแล้วนำพระมาล้างอีกครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นก็นำพระไปผึ่งลมจนแห้งหรือผึ่งลมไว้สัก 24 ช.ม. ก็เป็นอันเสร็จพิธีครับ ข้อสำคัญอย่าล้างแบบรีบร้อนเพื่อต้องการเอาสิ่งสกปรกออกเร็วๆ ต้องค่อยๆ ล้างออกทีละนิดทีละนิดนะครับ


ส่วนวิธีล้างรักออกจากองค์พระนั้น เป็นกรรมวิธีที่ต้องใช้ความประณีตมาก ขั้นแรกให้ไปซื้อนำยาลอกสีจากร้านวัสดุก่อสร้างมาหนึ่งกระป๋อง เอากระป๋องเล็กก็พอไม่กี่บาทหรอก จากนั้นก็หาพู่กันขนแข็งจากร้านวัสดุก่อสร้างนั่นแหละมาหนึ่งอัน แต่ไม่ต้องตัดปลายอีก หาไม้ไผ่หรือไม้เสียบลูกชิ้นก็ได้มาหนึ่งอัน จากนั้นก็หาภาชนะใส่น้ำไว้ 2 อัน อันแรกให้ใส่น้ำผสมสบู่เหลว อันที่สองให้ใส่น้ำสะอาดเตรียมไว้ จากนั้นก็นำน้ำยาลอกสีมาใส่ภาชนะที่เป็นกระเบื้องหรือแก้วก็ได้ ตักออกมาเล็กน้อย จากนั้นก็เอาไม้ไผ่แตะน้ำยานำมาแต้มที่บริเวณรักที่ต้องการจะลอก ให้ทำทีละจุดเล็กๆ ก่อน ทิ้งไว้สักครู่ก็จะเห็นว่ารักจะเริ่มพองและเริ่มล่อนออกมา ก็ให้ใช้พู่กันปัดเอารักออก ทำไปเรื่อยๆ จนหมด จากนั้นก็นำพระไปล้างที่น้ำผสมสบู่เหลว ปัดด้วยพู่กันขนอ่อน ล้างให้สะอาดแล้วล้างซ้ำด้วยน้ำสะอาดอีกที แล้วจึงนำไปผึ่ง เป็นอันเสร็จพิธีครับ อย่าลืมว่า การทำทั้งสองอย่างที่บอกมานี้ต้องค่อยๆ ทำทีละน้อยทีละจุด อย่างประณีต ไม่เช่นนั้นจะทำให้องค์พระเสียหายได้ครับ อ้อน้ำยาลอกสีนี้ เวลาใช้ต้องระวังให้มากครับ อย่าให้กระเด็นโดนผิวหรือตาเป็นอันขาด เพราะมีส่วนผสมของโซดาไฟครับ ถ้าโดนผิวจะแสบจี๊ดเลยครับ ถ้ากระเด็นโดนก็ให้รีบล้างด้วยน้ำสะอาดมากๆ และถ้าโดนตาละก็ไม่ต้องพูดแหละครับรีบล้างด้วยน้ำสะอาดแล้วรีบหาหมอลูกเดียว

2. วิธีขจัดสนิมเขียวออกจากพระบูชา ก็ทำคล้ายๆ กับการล้างคราบสนิมเขียวจากเหรียญถ้าเป็นไม่มากนักก็ใช้ครีมทาผิว ยี่ห้อนีเวีย หรือซิตร้าไวท์ก็ได้ พอกไว้บริเวณที่เป็นสนิมเขียว ทิ้งไว้ประมาณ 24 ช.ม. แล้วจึงล้างออก ถ้ายังออกไม่หมดก็พอกใหม่ทิ้งเวลาให้นานขึ้นๆ ทำไปเรื่อยๆ จะค่อยๆ ออกจนหมดครับ ยังมีวิธีที่ล้างสนิมเขียวให้เร็วขึ้น แต่เสี่ยงกับการเสียผิวพระครับ ผู้ล้างต้องมีความรู้ความชำนาญมากจึงจะทำได้ครับ

3. การเก็บรักษาพระเครื่อง-พระบูชา ก็ไม่มีอะไรมากครับ พระเครื่องที่เราใส่ห้อยคอ ถ้าไม่คิดอะไรมากก็เลี่ยมพลาสติกหุ้มแล้วไปจับกรอบทองหรืออะไรก็แล้วแต่อีก ที ไอเหงื่อจะไม่ไปโดนองค์พระครับ แต่ถ้าใส่กรอบแบบตลับ ไอเหงื่อจะซึมเข้าได้ ก็คอยสังเกตดู ถ้ามีสิ่งสกปรกเข้าไป นานๆ ก็นำมาล้างตามที่บอกไปแล้วซักที ก็พอครับส่วนพระที่เก็บไว้ที่บ้านก็ให้หากล่องใส่พระที่เป็นกล่องสแตนเลสที่ มีฟองน้ำสองด้าน (ด้านบนและด้านล่าง) สำหรับใส่พระเขามีขายทั่วไปตามร้านขายอุปกรณ์ใส่พระ นำพระเก็บไว้ให้ห่างกันพอสมควร ไม่ควรใส่จนแน่นเกินไปจะทำให้พระเสียหายได้ และควรใส่พระประเภทเนื้อแบบเดียวกันในกล่องเดียวกัน เช่นเนื้อผงก็ใส่กับเนื้อผง เนื้อดินก็ใส่กับเนื้อดิน เนื้อโลหะก็ใส่กับเนื้อโลหะ เหรียญก็ใส่กับเหรียญ และไม่ควรใส่พระในกล่องโดยซ้อนกันสองชั้นจะทำให้พระเสียหายได้

ส่วนพระบูชาก็ไม่มีอะไรมากตั้งไว้บนหิ้งพระนั่นแหละครับ ถ้ากลัวว่าจะมีฝุ่นหรือความชื้นมาเกาะก็หาครอบแก้วมาครอบไว้ แล้วนำซองกันชื้นมาใส่ไว้เพื่อกันความชื้นก็พอช่วยได้ครับ ซองกันชื้นถ้าหาที่ไหนไม่ได้ก็ไปซื้อที่ร้านถ่ายรูปหรือร้านขายกล้องถ่ายรูป เขามีขายครับ