หัวข้อ: พระศาสนดิลก (เสน ชิตเสโน) เริ่มหัวข้อโดย: arnuparp99999999 ที่ 14 สิงหาคม 2562, 13:22:09 พระศาสนดิลก (เสน ชิตเสโน)
พระศาสนดิลก (เสน ชิตเสโน ป.ธ.๔) เกิด ๑๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๒๓ อายุ ๖๑ ปี อุปสมบท พ.ศ. ๒๔๔๓ พรรษา ๔๐ มรณภาพ ๑๑ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๔ วัดศรีอุบลรัตนาราม ท้องที่ อุบลราชธานี สถานะเดิม พระศาสนดิลก มีนามเดิมว่า เสน คำพา เกิดเมื่อวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๒๓ ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๓ ปีมะโรง จ.ศ. ๑๒๔๒ ที่บ้านหนองบ่อ อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี โยมบิดาชื่อ เพี้ยคำมุงคุณ (คำพา) โยมมารดาชื่อ ไว สิริบูรณ์ บรรพชาและอุปสมบท ท่านได้รับการศึกษาอย่างจริงจังเมื่ออายุได้ ๑๔-๑๕ ปี โดยได้ติดตามพระภิกษุขุน (ผู้พี่ชาย) เข้าไปศึกษาอยู่ที่วัดสุปัฏนาราม ในเมืองอุบลราชธานี ต่อมาเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท)เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระครูวิจิตรธรรมภาณี ได้พาเข้าไปกรุงเทพมหานคร เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๓๗ ฝากไว้ในสำนักเจ้าคุณพระสาสนโสภณ (อ่อน อหึสโก) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระเมธาธรรมรส แห่งวัดพิชัยญาติการาม โดยให้บรรพชาเป็นสามเณรเพื่อศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม พ.ศ. ๒๔๔๓ ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุในส่านักแห่งนั้น โดยมี พระสาสนโสภณ (อ่อน อหึสโก) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระราชเมธี (ท้วม กณฺณวโร) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ การศึกษา ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมจนสำเร็จการศึกษานักธรรมชั้นเอกและเปรียญธรรม ๔ ประโยค ณ สำนักเรียนวัดพิชยญาติการาม ตำแหน่ง ฝ่ายปกครอง เจ้าอาวาสวัดศรีอุบลรัตนาราม ผู้ช่วยเจ้าคณะมณฑลอีสาน เจ้าคณะมณฑลร้อยเอ็ด เจ้าคณะมณฑลอุดรธานี ลำดับสมณศักดิ์และเกียรติคุณ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสฺโส) สังฆนายก ครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระศาสนดิลก เจ้าคณะมณฑลอีสาน ได้ขอตัว พระมหาเสน ชิตเสโน ออกไปเป็นผู้ช่วยเจ้าคณะมณฑลอีสานเมื่อท่านได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นไปโดยลำดับแล้ว จึงได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นที่ พระศาสนดิลก แทน มีข้อน่าสังเกตอยู่อย่างหนึ่งว่า ตามธรรมดาพระเปรียญตั้งแต่ ๕ ประโยคขึ้นไป จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นพระราชาคณะถ้า ๓-๔ ประโยคต้องดำรงสมณศักดิ์เป็นพระครูเสียก่อน จึงเป็นพระราชาคณะได้ แต่เพราะท่านเป็น “พระสหชาติ” (ผู้เกิดร่วมสมัย วัน เดือน ปี เดียวกัน) ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ จึงทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานตำแหน่งพระราชาคณะที่ พระศาสนดิลก ซึ่งจัดได้ว่าเป็นกรณีพิเศษส่วนหนึ่งและในฐานะที่ท่านเป็นพระสหชาติครั้นเป็นพระราชาคณะแล้ว ไม่นานก็ได้ย้ายจากวัดสุปัฏนารามไปเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีอุบลรัตนารามอนึ่ง ในฐานะที่ท่านเป็นพระสหชาติ ซึ่งเมื่อพระสหชาติรูปอื่นๆ ได้รับพระราชทานเครื่องบริขารที่ระลึกในวาระสำคัญใด ท่านก็จะได้รับพระราชทานเครื่องบริขารอย่างนั้นทุกคราวไป ท่านเจ้าคุณพระศาสนดิลก (เสน ชิตเสโน) รูปนี้ ท่านเป็นคนพูดพอประมาณ มักน้อยสันโดษ ชอบวิเวก หนักแน่นในพระธรรมวินัย มีปกติเห็นภัยในโทษแม้ประมาณน้อย สงบเสงี่ยมอยู่ในฐานะเป็นผู้น้อย ชอบเอาอย่างพระราธะ คือ เป็นผู้อดทนต่อโอวาทและอนุศาสน์ ทนได้ทั้งร้อน คือ เดช และทนได้ทั้งเย็น คือ คุณ เมื่ออยู่ในฐานะเป็นผู้ใหญ่ก็วางตนให้เหมาะแก่ภาวะมีพระเดชก็ไม่มากถึงกับเสียพระคุณแม้มีพระคุณก็ไม่เกินไปถึงกับเสียพระเดช มั่นคงในพรหมวิหาร เอาภาระในผู้เจ็บป่วย หมั่นแนะนำพร่ำสอนศิษย์ไม่ให้ก่อเวร และให้ระงับเวรด้วยความไม่มีเวร ปฏิปทาของท่านจึงเป็นที่ดูดดื่มไม่จืดจาง ทนต่อความเพ่งของผู้รู้ทั้งหลายโดยปกติท่านมีโรคหืดประจำตัว ต่อมาเห็นว่าจะไม่สามารถรับราชการไปได้ จึงทูลลาออกแต่ก็ยังเป็นอุปัชฌาย์ เอาธุระสั่งสอนพระภิกษุ สามเณรเป็นกำลังแก่พระพุทธศาสนาตลอดมา มรณกาล เมื่อถึงปี พ.ศ. ๒๔๘๔ โรคหืดที่เรื้อรังมานานไม่หายขาดนั้น ได้เป็นหนักขึ้น ในที่สุดจึงได้ถึงแก่มรณภาพลง เมื่อวันที่ ๑๑ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๔ เวลา ๐๖.๐๐ น. สิริอายุรวมได้ ๖๑ ปี พรรษา ๔๐ ท่านเจ้าคุณพระศาสนดิลก (เสน ชิตเสโน) เป็นพระเถระด้านคันถธุระที่สำคัญองค์หนึ่งของเมืองอุบลราชธานีในยุคแรกๆ ที่ได้นำรูปแบบการปกครอง การศึกษาสงฆ์ และขนบธรรมเนียมปฏิบัติในเมืองหลวงออกสู่หัวเมืองในภูมิภาค ทำให้กุลบุตรผู้ใฝ่เรียนทั้งหลายในรุ่นหลังได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนทั้งคดีธรรม และคดีโลก จนมีความรู้แตกฉานในพระธรรมวินัยและบาลีมากขึ้นเป็นลำดับ นับได้ว่าท่านได้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ประชาชน และประเทศชาติบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก สมควรได้รับยกย่องเชิดชูให้เป็น “ปราชญ์” แห่งเมืองอุบลราชธานีอย่างแท้จริง หัวข้อ: Re: พระศาสนดิลก (เสน ชิตเสโน) เริ่มหัวข้อโดย: tar ที่ 03 กันยายน 2562, 22:12:34 007
|