หัวข้อ: หลวงปู่ปราโมทย์ ปราโมชโช วัดป่าน้ำริน ท เริ่มหัวข้อโดย: teeradas07 ที่ 20 พฤษภาคม 2557, 07:24:24 หลวงปู่มหาปราโมทย์ ปราโมชโช วัดป่าน้ำริน ท่านเกิดเมื่อ 10 กุภาพันธ์ 2466 ที่ จ.อุบลราชธานี หลวงปู่ท่านเคยพบกับหลวงปู่มั่นเมื่อยังเป็นเด็ก และหลวงปู่มั่นเมตตาเป่ากระหม่อมให้ เมื่ออุปสมบท ท่าได้ฟังธรรมของหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ แล้วรู้สึกจับใจ จึงฝากตัวติดตามหลวงปู่อ่อน จึงนับว่าหลวงปู่ปราโมทย์ท่านเป็นศิษย์ต้นของหลวงปู่อ่อนก็ว่าได้ นอกจากหลวงปู่อ่อนแล้ว ท่ายังได้ติดตามครูบาอาจารย์อีกหลายรูป โดยเฉพาะหลวงปู่ฝั้น อาจาโร
หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม ท่านเคยเอ่ยชมหลวงปู่ปราโมทย์ต่อหน้าลูกศิย์ว่า เป็นพระดี เมื่อถูกถามว่าดียังไง ท่านก็ว่าปฏิบัติดีสิวะ ขณะหลวงปู่ปราโมทย์ จำพรรษาอยู่วัดป่าน้ำรินนั้น หลวงปู่เป็นพระสายหลวงปูมั่นรูปหนึ่งที่มีพรรษากาลสูง จึงเป็นที่เคารพต่อเพื่อนสหธรรมมิกด้วยกัน หลวงปู่สุวัจ สุวโจ ศิย์เอกหลวงปู่ฝั้น กับหลวงปู่มีความสนิทคุ้นเคยกันมาก หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญมากโร พระอาจารย์จันทร์เรียน คุณวโร พระอาจารย์บุญรอด อธิปุญโญ พระอาจารย์ศรีนวล ขันติธโร และบรรดาศิษย์ในองค์หลวงปู่อ่อน ก็นับถือหลวงปู่ปราโมทย์ เสมือนเป็นครูบาอาจารย์รูปหนึ่ง เมื่อปี 2537 หลวงปู่ปราโมทย์ได้กลับไปจำพรรษา ณ.วัดป่านิโครธาราม อันเป็นวัดเก่าของหลวงปู่อ่อน และได้มรณภาพลงที่นั่น เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2548 รวมอายุได้ 82 ปี พรรษา61 (http://upic.me/i/as/yiki41.jpg) (http://upic.me/show/51105215) หัวข้อ: หลวงปู่หนู สุจิตโต ท่านเกิดที่ยโสธร เริ่มหัวข้อโดย: teeradas07 ที่ 20 พฤษภาคม 2557, 07:34:15 พระครูจิตตวิโสธนาจารย์ (หลวงปู่หนู สุจิตโต)
วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ ชาติกำเนิดและชีวิตปฐมวัย หลวงปู่หนู สุจิตฺโต ถือกำเนิดเมื่อวันที่ ๑๖ มีนาคม พ.ศ.๒๔๕๗ ในครอบครัวชาวนา มีฐานะยากจน โยมบิดาชื่อ เพชร โยมมารดาชื่อ หมุน นามสกุล สีใส มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดยโสธร (สมัยนั้นเป็นอำเภออยู่ในจังหวัด อุบลราชธานี) หลวงปุ่มีน้องสาว ๑ คน ท่านกำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่ยังเล็กๆ จึงอยู่กับคุณย่า ต่อมาคุณย่า เสียชีวิตอีก จึงอาศัยอยู่กับคุณป้า เป็นผู้เลี้ยงดูต่อมา เมื่อเรียนจบชั้นประถมปีที่ ๔ จึงออกมาช่วยคุณป้าทำนา จนอายุ ๑๖-๑๗ ปี คุณป้าก็ถึงแก่กรรมอีก พอดีมีญาติมารับน้องสาวไปอยู่ด้วย ท่านจึงเข้าวัดบวชเณรเพื่อ ศึกษาพระธรรมต่อไป ชีวิตสมณะ การแสวงหาธรรม และปฏิปทา เนื่องด้วยมีฐานะยากจน หลวงปู่จึงต้องรับจ้างขุดดินอยู่ 1 เดือน เพื่อหาเงินมาซื้อจีวร และเครื่องบวชด้วยตนเอง แล้วจึงไปฝาก ตัวขอบวชเณรกับสมภารวัดในหมู่บ้าน ได้ฝึกหัดท่องสวดมนต์ และศึกษา ด้านถาถาอาคมบ้าง พอสมควร ในช่วงเวลานั้นเอง หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้มาปักกลดอยู่ในป่าช้าร้างไม่ไกลจากวัด ท่านจึงได้ไปฟังหลวงปู่มั่นแสดงธรรม และในครั้งนั้นเองหลวงปู่หนูจึงเกิดความเชื่อมั่นในธรรม ตั้งใจที่จะบวชไม่สึกตลอดชั่วชีวิต พออายุครบบวช ท่านจึงได้อุปสมบทที่วัดเดิม สังกัดในคณะ มหานิกาย ท่านได้ ศึกษาพระธรรม วินัยหัดท่องบ่นสวดมนต์เรียนคาถาอาคมต่างๆ รวม ทั้งฝึกนั่งสมาธิด้วยตนเอง ตามแบบอย่างที่ได้รับการชี้แนะมาจาก หลวงปู่มั่น ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๖ หลวงปู่หนู ก็ได้ญัตติเป็นพระสังกัดคณะธรรมยุต ณ พระอุโบสถ วัดสร่างโศก (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นวัด ศรีธรรมาราม สังกัดคณะธรรมยุต) โดยมีพระครูจิตตวิโสธนาจารย์ (ทองพูล) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูวิศาลศีลคุณ(โฮม) เป็นทั้งกระกรรมวาจาจารย์ และพระอนุสาวนาจารย์ ในปี พ.ศ. ๒๔๘๙ หลังจากฝึกสมาธิวิปัสสนา จนมั่นใจพอสมควรแล้ว หลวงปู่หนู ได้ ตัดสินใจออกธุดงค์ ซึ่งท่านได้ตัดสินใจเดินธุดงค์ไปจังหวัดต่างๆในภาคอิสาน ไปศึกษากับพระอาจารย์องค์ต่างๆ เช่น พระอาจารย์คำ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร หลวงปู่มั่น ภูริทัตตฺโต หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ เป็นต้นหลังจากนั้น ท่านจึงตัดสินใจเดินทางไปยังภาคเหนือ ท่านเดินทางถึงเชียงใหม่ในขณะที่มีอายุ 29 ปี และพำนักอยู่ที่เชียงใหม่เป็นต้นมา โดยไปพำนักกับหลวงปู่สิม พุทธาจาโร ต่อมามีชาวบ้านไปขอนิมนต์พระจากหลวงปู่สิม ท่านจึงจัดให้หลวงปู่หนูไปอยู่ฉลองศรัทธาชาวบ้าน ที่บ้านป่าเปอะ อำเภอสารภี ท่านจึงได้ไปอยู่ที่นั่น 2 พรรษา ขณะที่ปฏิบัติสมาธิภาวนาอยู่ ท่านได้นิมิต เห็นบริเวณดอยแม่ปั๋งว่าเป็นถิ่นเดิมของท่าน ท่านจึงได้อำลาศรัทธาชาวบ้านป่าเปอะ ออกธุดงค์ ค้นหาสถานที่ในนิมิต จนถึงดอยแม่ปั๋ง แล้วก็ปักหลักอยู่ที่นั่นตลอดมา หลวงปู่หนู ได้นิมนต์หลวงปู่แหวน สุจิณโณ จากวัดป่าบ้านปง ขึ้นมาพำนักบนวัดดอยแม่ปั๋ง เนื่องจากหลวงปู่แหวนอาพาธ สุขภาพทรุดโทรม เมื่อหลวงปู่แหวนรับนิมนต์แล้ว หลวงปู่หนูจึงได้คอยอุปัฏฐากดูแลหลวงปู่แหวน จนกระทั่งหลวงปู่แหวนมรณภาพ หลวงปู่หนู สุจิตโต มรณภาพเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2548 โดยกำหนดจัดงานพระราชทานเพลิงศพ ในระหว่างวันที่ 7-9 พฤษภาคม 2548 ณ เมรุชั่วคราว วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ซึ่งพิธีพระราชทานเพลิงศพกำหนดในเวลา 16.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม 2548 (http://upic.me/i/2e/2wj43.jpg) (http://upic.me/show/51105248) |