หัวข้อ: ฤกษ์งามยามดี เริ่มหัวข้อโดย: เต้ อุบล ที่ 19 ตุลาคม 2555, 08:13:41 ความหมายของฤกษ์ทั้ง 9
ความรู้เรื่องฤกษ์ ( แบบทั่ว ๆ ไป ไม่เจาะจงอะไร ) ฤกษ์ หมายถึง คราวหรือเวลา ความปลอดภัยหรือ ความสำเร็จสมประสงค์ อำนวยความเป็น ศิริมงคล แก่ผู้ประกอบการนั้น ๆ ฤกษ์ แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ ฤกษ์บน และ ฤกษ์ล่าง ฤกษ์บน เป็น ชัยมงคล เบื้องสูง โดยถือตำแหน่งของ พระจันทร์ และ ดาวพระเคราะห์ ต่าง ๆ เป็นหลัก คือ กำหนดโดย จันทร์ พระจันทร์ ต้องดีไม่เป็นอริ มรณะ และวินาศ แก่ผู้ประกอบการ พระจันทร์ โคจรให้คุณเช่น จันทร์ครุสุริยา ทาง โหราศาสตร์ ได้ กำหนดฤกษ์ไ ว้ 9 ฤกษ์ ได้แก่ ทลิทโทฤกษ์ มหัทธโณฤกษ์ โจโรฤกษ์ ภูมิปาโลฤกษ์ เทศาตรีฤกษ์ เทวีฤกษ์ เพชฌฆาตฤกษ์ราชาฤกษ์ สมโณฤกษ์ ฤกษ์บน ที่นิยมและเหมาะสำหรับการประกอบการ พิธีมงคลคือ มหัทธโนฤกษ์ แปลว่า คนมั่งมี ผู้รุ่งเรือง เศรษฐี เป็น ฤกษ์ ที่เหมาะกับ การมงคลต่างๆ เช่น ขึ้นบ้านใหม่ แต่งงาน เปิดห้างร้าน ธุรกิจการเงิน และสารพัด งานมงคล ภูมิปาโลฤกษ์ แปลว่าผู้รักษาแผ่นดิน เป็น ฤกษ์ ที่เหมาะสำหรับการมงคลต่างๆ งานที่ต้องการความมั่นคงถาวร เช่น งานแต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ ก่อสร้าง ปลูกเรือน และ สารพัด งานมงคล ทั้งปวง เทวีฤกษ์ แปลว่า นางพญา ความงามหรูหรา ความมีเสน่ห์ โชคลาภ และความสมปรารถนา เป็น ฤกษ์ ที่เหมาะสำหรับการเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ การหมั้น หมายและ สมรส การส่งตัวเจ้าสาว และการเข้าห้องหอ ขึ้นบ้านใหม่ ขอความรัก งานมีเกียรติ และสารพัดงานมงคลทั้งปวง ฤกษ์ล่าง ซึ่งเหมาะเป็น ชัยมงคล ทางเบื้องใต้ฟ้า หรือเบื้องต่ำบนพื้นดิน โดยมนุษย์เป็นผู้กำหนดขึ้น โดยให้วันทั้ง 7 ประกอบด้วยดิถี ขึ้น แรม และเดือน ปี เป็นหลักในการคำนวณนับ เช่น วันธงชัย วันอธิบดี วันอุบาทว์ และ วันโลกาวินาศ และมีดิถี คือ ขึ้น แรม ดิถีธงชัย ดิถีพิฆาต อีกทั้งวันจม วันฟู วันลอย กทิงวัน อัคนิโรธ ทักทิน ยมขันธ์ จัดเป็น ฤกษ์ย่อย ต่าง ๆ รวมเรียกว่า "ฤกษ์ล่าง" หรือ (ภูมิดล) การดูว่าวันนั้นๆเหมาะแก่การประกอบพิธีการมงคลต่างๆ รวมถึงเหมาะแก่การประกอบ หรือไม่นั้น สามารถดูได้จาก ฤกษ์บน และ ฤกษ์ล่าง หรือจะดูประกอบกัน ถ้าเป็นฤกษ์ที่ดีทั้ง 2 ส่วนก็จะถือว่าเป็นวันดีมาก เช่น เป็นทั้งวันธงชัย และ มหัทธโนฤกษ์ ในวันเดียวกันก็จะยิ่งเสริมให้กระทำการมงคลต่างๆนั้นเป็น ศิริมงคล แก่ผู้ประกอบ พิธี ขึ้นไป ส่วนการที่ระบุละเอียดถึงช่วงเวลาในการประกอบกิจกรรมต่างๆภายในวันนั้นๆก็จะเป็นการดู ฤกษ์ละเอียด เป็นคาบช่วงเวลา ว่าช่วงเวลานั้นๆเป็น ฤกษ์ อะไร เพื่อจะเสริมความเป็น ศิริมงคล ให้ยิ่งๆขึ้นไป ดังนั้นจะเห็นว่า ในรอบ 1 ปี คนส่วนใหญ่จะได้วันฤกษ์ดีในวันเดียวกัน ซึ่งนับว่าเป็นวันที่ไม่ว่าจะประกอบกิจงานมงคลใดๆก็จะดีไปหมด บางคนก็จะได้มาเป็นวันที่และเดือน โดยไม่ต้องระบุช่วงเวลา ถือเอาเป็นเวลาหรือ ฤกษ์ที่สะดวก เพราะวันนั้นเป็นวันดีทั้งวัน แต่สุดท้ายแล้ว เรื่องของ ฤกษ์ ก็ยังขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นในเรื่องของ ดวงชะตา ความเชื่อและศรัทธาในตัวของผู้ที่ให้ ฤกษ์ นั้นๆมา และความเคร่งครัดของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ส่วนใหญ่ในปัจจุบันมัก หันมาใช้ ฤกษ์สะดวก กันมากขึ้น ความเคร่งครัดในเรื่องโชคลาง ก็ค่อยๆลดน้อยลง จากความคิดว่า เรื่องที่เป็นมงคล อยู่แล้ว ประกอบกับถ้าเป็นช่วงเวลาที่พร้อมและสะดวกด้วยแล้ว พิธี มงคล นั้นๆก็จะราบรื่น มีแต่ความสุข สดชื่น ไม่ต้องกังวลใจ ซึ่งก็จะทำให้ผู้ใช้ฤกษ์ ได้สิ่งที่ดีดี ช่วงวันเวลาดีๆวันนี้ แม้วันเวลาผ่านไปนานเท่าไรก็ตาม..... หัวข้อ: Re: ฤกษ์งามยามดี เริ่มหัวข้อโดย: เต้ อุบล ที่ 19 ตุลาคม 2555, 08:14:29 ความหมายและการนำฤกษ์ทั้ง 9 ไปใช้
1. ทลิทโทฤกษ์ ทลิทโทฤกษ์ แปลว่า ผู้มักน้อย ผู้เข็ญใจ ผู้ขอ ผู้ต้องเหน็ดเหนื่อย ผู้อดทน ผู้ที่ต้องรับผิดชอบสูง ฤกษ์นี้เป็นฤกษ์ของ "ชูชก" มีพระอาทิตย์เป็นผู้รักษาฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกันเป็น "บูรณะฤกษ์" คือฤกษ์ที่เต็มโดยสมบูรณ์ คือฤกษ์ที่ไม่ขาดแยกแตกบาทฤกษ์ไปอยู่คนละราศี และเรียกว่า จัตตุรฤกษ์ หรือ ขันธฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ การขอสิ่งต่างๆ เพราะถือว่าเป็นฤกษ์ของชูชก จะทำการขอสิ่งใดก็ง่าย เช่น การขอหมั้น ขอแต่งงาน ทวงหนี้ กู้ยืม ร้องทุกข์ การทำการใดๆ เพื่อให้ผู้อื่นสงสารกรุณา เปิดร้านขายของชำ ของเก่าชำรุด สมัครงาน ทำการใดๆ ที่ริเริ่มใหม่ 2. มหัทธโนฤกษ์ มหัทธโนฤกษ์ แปลว่า คนมั่งมี ผู้รุ่งเรือง เศรษฐี มีพระจันทร์เป็นผู้รักษาฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกันเป็น "บูรณะฤกษ์" เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ การมงคลต่างๆ เช่น ขึ้นบ้านใหม่ แต่งงาน ปลูกสร้างอาคาร ธุรกิจการเงิน การค้าอุตสาหกรรม เปิดห้างร้าน ลาสิกขาบท สะเดาะเคราะห์ และ สารพัดงานมงคล 3. โจโรฤกษ์ โจโรฤกษ์ แปลว่า โจร ผู้ปล้น ผู้ลักขโมย นักเลง ผู้ใช้กำลัง ผู้ทำลายล้าง ผู้กล้าหาญมีอำนาจ ผู้ว่องไว มีพระอังคารเป็นผู้รักษาฤกษ์ ฤกษ์บาททั้ง 4 ไม่รวมอยู่ในราศีเดียวกัน คาบเกี่ยวอยู่ 2 ราศีเป็น "ฉินทฤกษ์" คือ ฤกษ์ขาดแตก โดยเฉพาะบาทแรกของต้นราศีนั้น เป็นฤกษ์บาทที่ร้ายแรงมากกว่าบาทอื่น เป็นนวางค์ที่ร้ายแรงมาก ไม่ควรให้ฤกษ์มงคล เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ คนโบราณใช้ในการปล้นค่าย จู่โจมโดยฉับพลัน ข่มขวัญ บีบบังคับ ทำการปราบปราม การแข่งขันช่วงชิง การแย่งอำนาจและผลประโยชน์ งานเสี่ยงๆ ในระยะสั้นๆ การปฏิวัติ งานของบุคคลในเครื่องแบบแบใช้กำลัง 4. ภูมิปาโลฤกษ์ ภูมิปาโลฤกษ์ แปลว่า ผู้รักษาแผ่นดิน มีพระพุธเป็นผู้รักษาฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกันเป็น บูรณะฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ การมงคลต่างๆ งานที่ต้องการความมั่นคงถาวร งานเกี่ยวกับที่ดิน การเกษตร การเช่าซื้อ ก่อสร้าง ปลูกเรือน ยกศาลพระภูมิ แต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ ลาสิกขาบท เปิดอาคารห้างร้าน และ สารพัดงานมงคลทั้งปวง 5. เทศาตรีฤกษ์ เทศาตรีฤกษ์ แปลว่า ข้ามท้องถิ่น หญิงแพศยา ผู้ท่องเที่ยว บางคราเรียกว่า "เวสิโยฤกษ์" หมายถึงฤกษ์พ่อค้า-แม่ค้า มีพระเสาร์เป็นผู้รักษาฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ปลายราศีหนึ่ง และ ต้นราศีหนึ่ง แห่งละ 2 บาทฤกษ์ คือคาบเกี่ยวอยู่ราศีละครึ่ง คือในราศี พฤษภกับเมถุน , กันย์กับตุลย์ และ มังกรกับกุมภ์ เป็นฤกษ์อกแตก หรือ พินทุฤกษ์ หรือ ตินฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ งานการติดต่อการค้าระหว่างถิ่น เกี่ยวกับความสนุกสนานชักชวนคนเข้าออกมาก เปิดโรงมหรสพ สถานเริงรมย์ ซ่องโสเภณี โรงแรม โรงหนัง ตลาดและศูนย์การค้า การประกอบอาชีพนอกสถานที่ อาชีพเร่ร่อน อาชีพที่ต้องย้ายที่อยู่เสมอ 6. เทวีฤกษ์ เทวีฤกษ์ แปลว่า นางพญา ความงามหรูหรา ความมีเสน่ห์ โชคลาภ และ การสมความปรารถนา มีพระพฤหัสฯ เป็นผู้รักษาฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกันเป็น บูรณะฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่มุ่งให้เกิดโชคลาภ เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ การเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ การหมั้นหมายและสมรส การส่งตัวเจ้าสาวและเข้าห้องหอ การทำกิจการที่ต้องการชื่อเสียงและมีเสน่ห์ งานมีเกียรติ งานเชิงศิลปะตกแต่งชั้นสูง เปิดร้านค้าอัญมณีเครื่องประดับ ร้านเสริมสวย ตัดเย็บเสื้อผ้า การประชาสัมพันธ์ ลาสิกขาบท ขึ้นบ้านใหม่ ขอความรัก งานเพื่อความสงบเรียบร้อย และ สารพัดงานมงคลทั้งปวง 7. เพชฌฆาตฤกษ์ เพชฌฆาตฤกษ์ แปลว่า ผู้ทำหน้าที่ฆ่า มีพระราหูเป็นผู้รักษาฤกษ์ ฤกษ์บาททั้ง 4 แตกขาดกัน และ ตรงข้ามกับ โจโรฤกษ์ เรียกว่า "ตรินิเอก" คืออยู่ปลายราศี 3 ฤกษ์บาท และ ต้นราศี 1 ฤกษ์บาท ไม่ควรให้ฤกษ์ในการมงคลเลย เป็น ฉันทฤกษ์ (ฤกษ์แตกขาด) เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ การฟันผ่าอันตรายและอุปสรรค ต่อสู้เสี่ยงภัยต่างๆ อาสางานใหญ่ ทำกิจปราบปรามศัตรู ตัดสินคดีความ งานที่ใช้การตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ประกอบพิธีไสยศาสตร์ ปลุกเสกเครื่องรางของขลัง ลงเลขยันต์ สร้างวัตถุมงคลแบบคงกระพันชาตรี สร้างสิ่งสาธารณะกุศลสงเคราะห์ เปิดโรงพยาบาล การรักษาโรคเรื้อรังที่หายยากๆ การยาตราทัพ เจิมอาวุธยุทธภัณฑ์ สร้างโบสถ์วิหารการเปรียญ คล้ายกับโจโรฤกษ์ แต่ฤกษ์นี้จะแรงกว่า 8. ราชาฤกษ์ ราชาฤกษ์ แปลว่าผู้ยิ่งใหญ่ ผู้มีอำนาจวาสนา พระเจ้าแผ่นดิน มีพระศุกร์เป็นผู้รักษาฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกัน เรียกว่า บูรณะฤกษ์ เป็นฤกษ์เฉพาะกิจการของผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้นำกิจการขึ้นไปจนถึงพระราชา เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ งานราชพิธี งานราชการงานเมือง สร้างที่ประทับ งานที่ต้องการชักจูงให้ผู้อื่นดำเนินตาม การเข้ารับตำแหน่งงาน การแสวงหาชื่อเสียงเกียรติยศ การเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ งานมงคลสมรสที่หรูหรามีเกียรติ ลาสิกขาบท การขึ้นบ้านใหม่(สามัญชนควรเว้น ถ้าหาฤกษ์ไม่ได้ก็พออนุโลมใช้ได้ เพื่อดวงชะตาและความเหมาะสม) และ งานมงคลทั้งปวง 9. สมโณฤกษ์ มโณฤกษ์ แปลว่า (สงบเรียบร้อย นักบวช นักสอนศาสนา มีพระเกตุเป็นผู้รักษาฤกษ์ ฤกษ์บาททั้ง 4 อยู่ปลายราศีเดียวกัน แต่บาทฤกษ์สุดท้ายนี้เป็นนวางค์ขาดสุดราศีพอดี เรียกว่า "จัตตุรฤกษ์ หรือ ขันธฤกษ์" จึงเป็นจุดที่มีผลเสียให้เกิดอันตรายต่างๆ ในการแข่งขัน ใช้ได้เฉพาะกิจเกี่ยวกับความสงบความสุจริต เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ ทำพิธีกรรมทางศาสนา และ ทางนักบวช เช่น การทำขวัญนาค การอุปสมบท หล่อพระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เข้ารับการศึกษา และ การกระทำทุกอย่างเพื่อความสงบร่มเย็นเป็นสุข สงเคราะห์ในฤกษ์นี้ได้ เช่น ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ทำบุญต่ออายุ |