หัวข้อ: หลวงพ่อเคน พรหมโชโต วัดดงเศรษฐี ตำบลหมกแถว อำเภอหนองขาหย่าง จังหวัดอุทัยธานี เริ่มหัวข้อโดย: vs12 ที่ 07 มีนาคม 2555, 12:14:27 หลวงพ่อเคน พรหมโชโต อดีตเจ้าอาวาส วัดดงเศรษฐี ตำบลหมกแถว อำเภอหนองขาหย่าง จังหวัดอุทัยธานี
หัวข้อ: Re: หลวงปู่เคน เรวโต วัดบ้านโพนทราย ตำบลบ้านไทย อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี เริ่มหัวข้อโดย: vs12 ที่ 07 มีนาคม 2555, 12:20:21 ประวัติ หลวงพ่อเคน พรหมโชโต วัดดงเศรษฐี
หลวงพ่อเคน พรหมโชโต อดีตเจ้าอาวาส วัดดงเศรษฐี ตำบลหมกแถว อำเภอหนองขาหย่าง จังหวัดอุทัยธานี ตามประวัติหลวงพ่อเคน ทราบ ว่าท่านเป็นชาว จังหวัดอุบลราชธานี ท่านเกิดที่ ตำบลหัวเรือ อำเภอเมืองอุบลราชธานี ส่วนวันเดือนปีเกิดของท่าน ญาติพี่น้อง ตลอดจนบิดามารดา ของท่านนั้นไม่มีใครทราบ เพราะตั้งแต่ท่านมาอยู่จังหวัดอุทัยธานีนั้น ยังไม่เคยมีญาติพี่น้องไปมาหาสู่กันเลย หลวงพ่อเคนท่านได้ เดินธุดงค์มากับพระธุดงค์รุ่นเดียวกัน ๔ รูปด้วยกัน เท่าที่ทราบก็มี อดีตเจ้าอาวาสวัดอมฤตวารีหรือวัดหนองน้ำคัน อีกองค์ก็คือ หลวงพ่อจู เจ้าอาวาสวัดดอนกลอย อำเภอหนองขาหย่าง ส่วนอีกองค์นั้นไม่ทราบว่าเป็นใครและไปอยู่ที่วัดใด นับเป็นเวลาร้อยปีเศษที่ท่านได้เข้ามาอยู่ที่จังหวัดอุทัยธานี หลวงพ่อเคน ก่อนที่ท่านจะเข้ามาอยู่ที่วัดดงเศรษฐีนั้น ไม่ทราบว่าท่านได้อยู่ที่ใดมาก่อนบ้าง ก่อนที่หลวงพ่อเคนท่านจะมาอยู่ที่บ้านดงเศรษฐีนั้น บริเวณบ้านดงเศรษฐียังเต็มไปด้วยป่าไม้น้อยใหญ่ ชาวบ้านได้นิมนต์ให้หลวงพ่อเคน ท่าน พักอาศัยอยู่ที่นั้นเป็นเวลานานพอสมควร แล้วท่านก็ได้ปรึกษากับชาวบ้านร่วมกันสร้างวัดขึ้น โดยได้บุกเบิกป่าเป็นที่นาของวัด เพื่อปลูกข้าวไว้สำหรับให้พระภิกษุได้ฉัน พร้อมทั้งได้เลี้ยงวัว ควาย และม้าไว้หลายตัว หลวงพ่อเคนและชาวบ้านได้ตัดไม้ในป่าใช้ทำเสา กุฏิ และใช้ทำเครื่องบนในการก่อสร้าง ทราบว่าเฉพาะเสานั้น ท่านใช้ขวานหงอนถากเองให้เป็น เสาสี่เหลี่ยม ซึ่งไม่ได้ใช้ขวานโยนถาก ดังนั้นเสาทุกต้นที่ทำขึ้นในช่วงแรกเป็นเสาที่ถากด้วยขวานหงอนทั้งสิ้น เสาชุดนี้ท่านอธิการธรรมะเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน เล่าว่า ได้ใช้เป็นเสากุฏิ เสาหอสวดมนต์ ซึ่งได้ใช้กบไฟฟ้าไสหมดเรียบร้อยหมดแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นเสาไม้ แต่เป็นไม้มะหาด ช่วงแรกนั้นก็พอสร้างใช้เป็นที่อยู่อาศัยได้เท่านั้น ไม่ได้ใหญ่โตนัก เพราะชาวบ้านเองส่วนใหญ่ก็มีฐานะยากจน ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพทำนา เผาถ่านขาย รับจ้างทั่วไป ท่านอธิการธรรมะ ขัติธัมโม เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ท่านเป็นคนพื้นที่บ้านนี้ และเติบโตที่บ้านนี้มาตั้งแต่เด็ก ปัจุบันอายุ ๗๐ ปีเศษ ท่านเล่าให้ฟังว่า ท่านเห็นหลวงพ่อเคนมาตั้งแต่เด็ก หลวงพ่อเคน ท่านเคยไปอยู่วัดใดมาก่อนไม่ทราบได้ แต่ที่ท่านมาอยู่ที่วัดดงเศรษฐีนี้ และได้ร่วมกับชาวบ้านช่วยกันสร้างวัดขึ้น ท่านเห็นหลวงพ่อเคนฉัน เหล้าเป็นประจำ แต่ชาวบ้านก็ไม่ได้ถือสาท่าน เพราะท่านมีวิชาอาคมเข้มขลัง มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ เป็นเกจิอาจารย์ที่มีชิ่เสียงมาก องค์หนึ่งในขณะนั้น ท่านมีวิชาน้ำมนต์ที่เข้มขลัง สามารถที่จะรักษาโรคกระดกหัก กระดูกแตก แผล ท่านจะรักษาให้หาย วิเศษนัก อัศจรรย์ยิ่งจนเป็นที่เลื่องลือ สำหรับเรื่องฉันเหล้านั้น เมื่อเข้าตลาดร้านค้าในหมู่บ้านท่านก็จะฉันเหล้าเป็นประจำ แล้วท่านก็จะมีโหลแก้วใส่เหล้าวางไว้ที่หัวนอนท่านด้วย แต่ท่านก็จะถือสัจจะไว้อยู่อย่างหนึ่งว่า เมื่อถึงฤดูเทศกาลเข้าพรรษาท่านจะหยุดดื่มทันที ท่านจะเตรียมหาเหล้ามาบรรจุไห นำไปฝังไว้ในจอมปลวก ในบริเวณวัด และจะเก็บไว้ตลอดพรรษา เมื่อออกพรรษท่านก็จะขุดขึ้นมาและฉันทันที หลวงพ่อเคน มีลูกศิษย์ที่สำคัญ ๆ อยู่หลายองค์ ทั้งในแถบจังหวัดอุทัยธานี ชัยนาทไปจนถึงสิงห์บุรี เป็นต้นว่า หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จังหวัดชัยนาท หลวงปู่ปรง สาสโน วัดธรรมเจดีย์ จังหวัดสิงห์บุรี ในจังหวัดอุทัยธานี พระเกจิอาจารย์ที่มีชิ่เสียงในปัจจุบัน ล้วนเป็นศิษย์ของหลวงพ่อเคน แทบทั้งสิ้น เช่น หลวงปู่ตี๋ วัดหลวงราชาวาส หลวงพ่อหล้า วัดดงขวางหลวงพ่อปลั่ง วัดห้วยรอบ อดีตเจ้าคณะอำเภอหนองขาหย่าง แม้กระทั่ง ท่านเจ้าคุณพุฒ (พระราชอุทัยกวี) เจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี ครั้งหนึ่งท่านเจ้าคุณพุฒ จะไปเรียนวิชา เมื่อไปถึงหลวงพ่อเคนท่านก็ไม่สอนให้สักที จึงเอะอะโวยวาย และถามหลวงพ่อเคนว่า เมื่อไรจะสอนวิชา ให้สักที เมื่อถูกถามเช่นนี้ หลวงพ่อเคน จึง ตอบไปว่า เออข้าจะสอนให้เดี๋ยวนี้แหละ แล้วท่านก็สอนวิชาให้ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และอยู่มาวันหนึ่ง เมื่อท่านเจ้าคุณพุฒไปถึงจะเรียนวิชา ซึ่งท่านเจ้าคุณพุฒก็ทราบดีอยู่แล้วว่า หลวงพ่อเคนท่านฉันเหล้าเป็นประจำ แต่ก็ไม่รู้ว่า จะกล่าวตักเตือนท่านอย่างไร เพราะหลวงพ่อเคนก็เป็นครูของท่าน ครั้งเมื่อไปถึง หลวงพ่อเคนท่าน ก็ยกโหลเหล้าออกมา รินใส่แก้วให้ท่านเจ้าคุณพุฒฉันบ้าง ท่านก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าในแก้วนั้นคือเหล้า จึงจำใจดื่ม แต่เป็นที่น่าอัศจรรย์ เมื่อดื่มแล้วท่านก็ยิ้มออก และพูดว่า เอ้านี่มันน้ำนี่นา หลวงพ่อเคนท่านก็พูดว่า ก็น้ำนะซี ใครว่าอะไร ท่านเจ้าคุณพุฒก็นั่งนิ่งไม่ว่าอะไร นี่แสดงว่า หลวงพ่อเคนนั้นสามารถ เสกเหล้าให้เป็นน้ำได้อย่างน่าอัศจรรย์ เหมือนกับหลวงพ่อเคลือบ ที่สามารเสกเหล้าให้เป็นน้ำได้เช่นเดียวกัน หลวงพ่อพุฒ หลวงพ่อปลั่ง หลวงพ่อหล้า หลวงพ่อกวย หลวงปู่ปรง หลวงปู่ตี๋ ได้เรียนวิชากับหลวงพ่อเคนได้มากมายหลายอย่าง ความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์ เกี่ยวกับน้ำมันต์ของหลวงพ่อเคนนี้ มีชื่อเสียงโด่งดัง ขจรขจายไปทั่วทุกสารทิศ ต่อมาหลวงพ่อเคนได้เกิดอาการป่วย ด้วยโรคชรา และมรณภาพลงในปี ๒๔๙๑ รวมอายุได้ ๑๐๗ ปี หัวข้อ: Re: หลวงปู่เคน เรวโต วัดบ้านโพนทราย ตำบลบ้านไทย อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี เริ่มหัวข้อโดย: vs12 ที่ 08 มีนาคม 2555, 19:05:44 ^ ถูกต้องแล้วครับ คนละหลวงปู่กันครับ แต่ที่นำมาลงไว้ เพราะจากประวัติบอกไว้ว่าท่านเป็นคนอุบลฯ อำเภอเมืองด้วย น่าจะมีคนรู้จักบ้าง^ ประวัติด้านบน น่าจะคนหลวงปู่เคนนะครับ ตามประวัติ พ.ศ.เกิดของหลวงปู่เคนองค์นี้ ปี 2384 หลวงปู่สำเร็จลุน ปี 2389 ห่างกัน 5 ปี หลวงปู่เสาร์ 2402,3,4 ไม่แน่ชัด ไม่มีอะไรครับนำมาลงไว้ อ่านเล่นครับ :wan-e042: หัวข้อ: Re: หลวงปู่เคน เรวโต วัดบ้านโพนทราย ตำบลบ้านไทย อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี เริ่มหัวข้อโดย: chanatip ที่ 08 มีนาคม 2555, 19:47:22 หลวงพ่อเคน พรหมโชโต วัดดงเศรษฐี องค์นี้หรือเปล่า อาจารย์ญาท่านโทน วัดบ้านพับ?
เสียดายไม่มีวัตุมงคล ทันท่านเลย หัวข้อ: Re: หลวงพ่อเคน พรหมโชโต วัดดงเศรษฐี ตำบลหมกแถว อำเภอหนองขาหย่าง จังหวัดอุทัยธานี เริ่มหัวข้อโดย: m92f ที่ 09 มีนาคม 2555, 10:29:23 เห็นละ อิอิ ขอบคุณคร๊าบบบบ
หัวข้อ: Re: หลวงพ่อเคน พรหมโชโต วัดดงเศรษฐี ตำบลหมกแถว อำเภอหนองขาหย่าง จังหวัดอุทัยธานี เริ่มหัวข้อโดย: คนโก้ ที่ 09 มีนาคม 2555, 13:00:02 หลวงพ่อเคน พรหมโชโต วัดดงเศรษฐี องค์นี้หรือเปล่า อาจารย์ญาท่านโทน วัดบ้านพับ? เรื่องอาจารย์หลวงปู่โทน ผมคิดว่าน่าจะเป็นหลวงปู่เคน เรวโต มากกว่าครับ เพราะอยู่ในพื้นที่เดียวกัน อาจจะเป็นตอนที่หลวงปู่เคน ครองวัดกวางคำก็ได้ครับเสียดายไม่มีวัตุมงคล ทันท่านเลย หัวข้อ: Re: หลวงพ่อเคน พรหมโชโต วัดดงเศรษฐี ตำบลหมกแถว อำเภอหนองขาหย่าง จังหวัดอุทัยธานี เริ่มหัวข้อโดย: m92f ที่ 09 มีนาคม 2555, 13:04:04 หลวงพ่อเคน พรหมโชโต วัดดงเศรษฐี องค์นี้หรือเปล่า อาจารย์ญาท่านโทน วัดบ้านพับ? เรื่องอาจารย์หลวงปู่โทน ผมคิดว่าน่าจะเป็นหลวงปู่เคน เรวโต มากกว่าครับ เพราะอยู่ในพื้นที่เดียวกัน อาจจะเป็นตอนที่หลวงปู่เคน ครองวัดกวางคำก็ได้ครับเสียดายไม่มีวัตุมงคล ทันท่านเลย น่าจะประมาณนี้ครับ :wan-e042: |